posttoday

เจนจิต ลัดพลี การเดินทางคือของขวัญของชีวิต

10 ธันวาคม 2560

โดยเฉพาะหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่มักวางแผนการเดินทางด้วยตนเอง โดยไม่ใช้บริการทัวร์เสียด้วยซ้ำ เช่นดียวกับเธอคนนี้

โดย อณุสรา ทองอุไร ภาพ    วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

แต่ละคนมีความชอบที่ไม่เหมือนกัน แต่โดยรวมแล้วคนส่วนใหญ่ก็ชอบท่องเที่ยวเดินทางกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่มักวางแผนการเดินทางด้วยตนเอง โดยไม่ใช้บริการทัวร์เสียด้วยซ้ำ เช่นดียวกับเธอคนนี้

เจนจิต ลัดพลี ผู้อำนวยการส่วนการตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ บริษัท บัตรกรุงไทย สาวสวยหน้าหวานที่หลงรักการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ เห็นหน้าหวานท่าทางเป็นผู้หญิ้งผู้หญิงจ๋าๆ แบบนี้ แต่เที่ยวดุนะค้า ไม่ใช่ว่าจะเดินทางไปประเทศที่สะดวกสบายทันสมัย เน้นช็อปปิ้งแบรนด์เนมเป็นหลักนั้นหาใช่เธอไม่

เพราะเธอนั้นจะเลือกเดินทางไปประเทศแปลกใหม่ ไปดูธรรมชาติ ดูบ้านดูเมือง ดูชีวิตผู้คน ซึ่งเธอเดินทางมาแล้วเกือบ 30 ประเทศ และตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าอนาคตเธอจะเดินทางไปยังประเทศที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ทั้งของเก่าและของใหม่ให้ครบ ภายใน 5 ปีข้างหน้านี้

ส่วนประเทศที่เธอไปมาเมื่อต้นปีที่ผ่านมานั้น บอกเลยว่าเก๋ไก๋ น่าอิจฉาเป็นอย่างมาก สำหรับนักเที่ยวสายแข็งที่ชอบเปิดเส้นทางใหม่ๆ ไม่ซ้ำใคร อย่างที่เธอไปมา เช่น ซิมบับเว บอตสวานา แซมเบีย มอริเชียส เซเชลส์ โดยเธอจะเดินทางไปกับเพื่อนๆ หรือพี่สาวเพียง 2-3 คนเท่านั้น

เจนจิต ลัดพลี การเดินทางคือของขวัญของชีวิต

“เวลาเดินทางไม่ชอบกลุ่มใหญ่มากค่ะ จะไม่เกิน 2-3 คน กำลังดี เช่ารถแท็กซี่ก็คันเดียวสะดวก มากคนก็มากเรื่อง (หัวเราะ) ส่วนประเทศไหนที่เราไปเยี่ยมเพื่อนก็มักจะไปคนเดียว เวลาเพื่อนทำงานเราก็ออกเที่ยวแถวๆ ใกล้ๆ นั้นคนเดียว ถ้าเป็นวันหยุดก็ไปเที่ยวกับเพื่อน” เธอเล่าอย่างอารมณ์ดี

เธอเล่าต่อไปว่า สำหรับเธอนั้นการเดินทางถือเป็นเรื่องจำเป็นของชีวิตที่ขาดไม่ได้ เปรียบเสมือนของขวัญหรือรางวัลที่ต้องให้ตัวเอง จะรอรับจากใครคงไม่ได้  ซึ่งเธอเริ่มเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัย ตอนเรียนมัธยมเธอก็เลือกไปเรียนซัมเมอร์ที่ประเทศนิวซีแลนด์ หลังจบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ ที่จุฬาลงกรณ์ เธอก็เลือกไปเรียนต่อปริญญาโท รัฐศาสตร์ที่ประเทศนิวเซีแลนด์เช่นกัน  เพราะหลงใหลในธรรมชาติอย่างแรงกล้า ชอบเดินทางท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติมาก ชอบต้นไม้ น้ำตก ภูเขา ชอบสีเขียว ชอบท่องเที่ยวแบบเนิบช้า สโลว์ไลฟ์ ชอบดูบ้านเมือง ดูชีวิตผู้คน ที่มีความซื่อใสบริสุทธิ์ ไม่ชอบเมืองท่องเที่ยวที่สะดวกสบาย มีความเป็นธุรกิจมากๆ วุ่นวาย รีบร้อน เร่งรีบแบบนั้นจะไม่ชอบเลย

“เพราะเราจะไปพักผ่อน บ้านเราก็รถติด เร่งด่วน แย่งชิงกันตลอดเวลาอยู่แล้ว เวลาไปเที่ยวจึงอยากเจออะไรที่ช้าๆ สบาย ไม่แย่ง ไม่เบียด ไม่รีบ เจอผู้คนที่มีความเป็นกันเอง ยิ้มแย้ม ไม่ต้องมีอะไรที่เป็นเชิงพาณิชย์กันตลอดเวลา ซึ่งในแหล่งท่องเที่ยวในประเทศดังๆ ที่คนนิยมไปอย่างแพร่หลายนั้นไม่เหลือสิ่งเหล่านี้อีกแล้ว”

ต้นปีที่แล้วเธอเดินทางไปเที่ยวประเทศแถบแอฟริกา โดยเริ่มจากบินสายการบินเคนยา ไปลงที่ซิมบับเว แล้วบินต่อไปประเทศแซมบีย เพื่อไปดูน้ำตกวิคตอเรียฟอลล์ ซึ่งถือว่าเป็นน้ำตกที่ติดอันดับ 2 ของโลก จากสนามบินฮาราเร่ เราต้องต่อเครื่องภายในประเทศ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษก็จะถึงสนามบิน ก่อนเครื่องจะลงจอด เราจะสามารถมองเห็นเหมือนกลุ่มไอหมอกขาวลอยฟุ้งกระจายอยู่แต่ไกล นั่นคือไอน้ำจากน้ำตกวิคตอเรีย หนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก  มีความดิบ ใหญ่โต อลังการ แม้ขนาดว่าใส่เสื้อกันฝนแล้วก็ยังเปียกไปทั้งตัว เป็นน้ำตกที่สวยแบบไม่ปรุงแต่งเลย มีความดิบ มีเสน่ห์แบบของตัวเขาเอง น้ำตกแห่งนี้กินอาณาเขตถึง 3 ประเทศ คือ ประเทศซิมบับเว แซมเบีย และบอตสวานา

เจนจิต ลัดพลี การเดินทางคือของขวัญของชีวิต

เป็นไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือน้ำตกวิคตอเรีย เพื่อชมความยิ่งใหญ่ทางธรรมชาติ น้ำตกที่ได้ชื่อว่ามีม่านน้ำทิ้งตัวยาวที่สุดในโลก น้ำตกวิคตอเรียเป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก ส่วนอุทยานแห่งชาติฮาวังเก้เป็นป่าซาฟารีที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง

“เวลาพูดถึงประเทศแถบแอฟริกาคนก็จะมีอคติคิดว่าน่ากลัว แต่ไม่เลย ที่จริงแล้วคนผิวดำที่นี่น่ารักเป็นมิตร มีอารมณ์ขัน ยิ้มง่าย และความน่ารักของคนซิมบับเวได้เปลี่ยนทัศนคติที่เคยมีต่อคนผิวดำโดยสิ้นเชิง ช่วงที่ไปเป็นช่วง ก.พ. อากาศก็ยังดี สบายๆ 15-20 องศา แต่โดยรวมแล้วอากาศดีเกือบตลอดทั้งปี เพราะป่าไม้ยังอุดมสมบูรณ์ มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความงดงามอย่างน่าอัศจรรย์ใจ”

ส่วนผู้ที่ชอบความหนาวเย็น พื้นที่บริเวณอีสเทิร์น ไฮแลนด์ ซึ่งแวดล้อมด้วยภูเขาสูงและทะเลสาบงามจะคงความหนาวเย็นให้สัมผัสได้ตลอดปี ผู้คนที่นี่รักศิลปะ ทำให้ที่ซิมบับเวมีแกลเลอรี่แสดงงานศิลปะอยู่ทั่วไป ผู้มาเยือนสามารถชมประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ ฟังบทเพลงแห่งท้องทุ่ง และชมการเต้นที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวแบบแอฟริกันของชนเผ่าต่างๆ ได้ตามโรงละครทั่วไป ใกล้ๆ กันจะมีศูนย์หัตถกรรมประจำชาติ รวมของสินค้าพื้นเมือง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวในการเลือกซื้อเป็นของที่ระลึกกลับบ้าน แล้วยังมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ช่วงเย็นมีตลาดดอกไม้สีสันสดใสและสวยแปลกตามากมาย

ระหว่างทางเราจะได้พบต้นไม้รูปร่างแปลกตา อย่างเช่น ต้นมุซาซา หน้าตารูปร่างเหมือนร่มที่กำลังกางอยู่ หรือต้นบาวบับ ต้นไม้เก่าแก่ที่มีลำต้นขนาดใหญ่ มีอายุเป็นพันๆ ปี และชาวพื้นเมืองที่ปลูกพืช ผัก อยู่ริมทาง ยังชีพด้วยการทำกสิกรรม ดูใสๆ สบายตา

เจนจิต ลัดพลี การเดินทางคือของขวัญของชีวิต

อีกแห่งที่ไม่ควรพลาดก็คือ อุทยานแห่งชาติฮาวังเก้ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของแอฟริกา ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1.46 หมื่นตารางกิโลเมตร ฮาวังเก้คืออาณาจักรของสัตว์ป่า เหมาะสำหรับผู้ที่รักการผจญภัย การได้ติดตามชีวิตสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิดและเป็นธรรมชาติทอดยาวจากแซมเบียถึงครึ่งทางที่จะไปเมืองบูราวาโย เป็นระยะทาง 280 กิโลเมตร กินเนื้อที่บางส่วนของประเทศบอตสวานา

ที่อุทยานแห่งนี้มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกว่า 105 ประเภท ซึ่งรวมถึงสัตว์ใหญ่หายากประเภทกินพืช 19 ชนิด และสัตว์ใหญ่หายากประเภทกินเนื้ออีก 8 ชนิด มีช้างป่ากว่า 1.8 หมื่นตัว ซึ่งเป็นจำนวนช้างป่าที่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจที่จะได้เห็นช้างขนาดใหญ่ ทุกพื้นที่ของอุทยานนอกจากสัตว์ป่าขนาดใหญ่เหล่านี้ ยังไม่รวมถึงสัตว์อีกหลายร้อยประเภทที่พักพิงอยู่ในอุทยานแห่งนี้

ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่อยู่ระหว่างเดือน พ.ค-ต.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ฝูงสัตว์จะมารวมตัวกันมากที่สุด ที่นี่มีกิจกรรมพิเศษเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้าสู่การผจญภัยที่น่าตื่นเต้น นั่นคือ Game Drive คือการนั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อเปิดโล่ง 4 ด้าน เพื่อเข้าชมอุทยานดูบ้านของบรรดาสัตว์ป่ามากมาย ในช่วงเช้าตรู่ ซึ่งเราได้เจอกับนกต่างๆ มากมายให้เลือกชม บางพันธุ์เป็นนกหายากที่ใกล้สูญพันธุ์แล้ว ที่นี่มีนกมากกว่า 400 ชนิด และบางชนิดมีเฉพาะที่นี่เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีการนำชมพันธุ์ไม้ป่าหายาก ซึ่งมีมากถึง 250 ชนิด อาทิ นกเงือก บินกันมาเป็นคู่ ซึ่งกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับที่นี่ และอีกหลายชนิดที่เรายังไม่มีใครเคยเห็นที่ไหน และบางชนิดก็สวยแปลกจนลืมไม่ลง

เจนจิต ลัดพลี การเดินทางคือของขวัญของชีวิต

ช่วงบ่ายเราจะได้สัมผัสกับชีวิตสัตว์ใหญ่นานาชนิด อาทิ นักล่าอย่างเสือดาวและสิงโต ช้างป่า และสุนัขป่า คนขับรถจะขับไปตามทางดินแคบๆ บางช่วงเป็นป่าทึบ บางช่วงเป็นทุ่งหญ้าโล่ง จะได้พบกับฝูงควายป่ากำลังกินหญ้า ปนกับฝูงม้าลายจำนวนหนึ่ง และฝูงกวางจำนวนมากที่วิ่งเล่นกันไปมา สักพักก็ได้เจอฝูงยีราฟกำลังยืดคอกินยอดต้นไม้อยู่ไม่ไกล

สัตว์ป่าที่นี่ดูขนาดจะใหญ่กว่าที่เคยเห็นที่บ้านเราเยอะทีเดียว ส่วนสิงโตที่นี่บางตัวก็เชื่องจนสามารถจับตัวเขาได้ ที่นี่มีที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยวในหลากแบบ ทั้งบ้านพักแบบซาฟารีกลางป่าใหญ่ หรือบ้านแบบกะทัดรัดน่ารักบนต้นไม้ หรือลอดจ์ สไตล์อนุรักษ์ธรรมชาติ

หากต้องการชมทิวทัศน์โดยรวมของฮาราเร่ จุดชมเมืองของที่นี่เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด ของฝากอันเลื่องชื่อระดับโลกของซิมบับเว คืองานไม้และงานหินแกะสลัก ซึ่งมีความงามและประณีตที่ยากจะลอกเลียนได้ ด้วยศิลปะพื้นบ้านอันเก่าแก่ ผสมผสานเข้ากับจินตนาการอันสร้างสรรค์และความอุตสาหะ ทำให้ประติมากรรมหินของที่นี่เป็นงานที่มีคุณภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งในแถบแอฟริกาใต้ และนับได้ว่าผลงานแต่ละชนิดมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ 

ฮาราเร่นับเป็นเมืองที่ยังคงความงามแบบคลาสสิกสวยสะอาดตา ที่นี่มีการจัดโซนที่อยู่อาศัยและย่านธุรกิจอย่างเป็นระเบียบชัดเจน อาคารส่วนใหญ่เป็นสไตล์อังกฤษ ถนนสายสำคัญของเมือง คือ เนลสัน แมนเดลา อเวนิว ที่ตั้งชื่อตามวีรบุรุษผิวสีที่ต่อสู้เพื่อสิทธิของชนผิวดำและระบอบประชาธิปไตยมาหลายสิบปี  ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่อยู่ระหว่างเดือน พ.ค.-ต.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ฝูงสัตว์จะมารวมตัวกันมากที่สุด

ออกจากแซมเบียก็เดินทางต่อไปบอตสวานา เป็นประเทศที่น่าสนใจอย่างแท้จริง เป็นประเทศที่มีความโดดเด่นในแง่ทางภูมิศาสตร์จากทะเลทรายคาลา มีอุทยานแห่งชาติ Chobe และเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดสำหรับประชากรช้างที่งดงาม มันเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในบอตสวานา มีสวนสาธารณะที่สามารถดูช้าง สิงโต เสือดาว ควาย และแรด ได้เต็มตาอย่างใกล้ชิด กาโบโรเนเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของบอตสวานา เป็นหนึ่งในเมืองที่เติบโตเร็วที่สุดในซีกโลกใต้ เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาและมีสีสันมากมายที่จะเห็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหอศิลป์และตั้งอยู่ในใจกลางของเมือง

ประเทศสุดท้ายคือซิมบับเว ก็ไปดูน้ำตก ป่า มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มาก ทั้ง 3 ประเทศนี้มีความใกล้เคียงกันมาก มีธรรมชาติและสัตว์ป่าเป็นจุดขายที่แข็งแรง ที่นี่เราได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อชมวิว 5 ดาว เป็นมุมกว้างอันแสนยิ่งใหญ่ และอากาศดีเย็นสบาย กลางวันร้อนขึ้น แต่ก็ไม่มีเหงื่อเป็นร้อนชื้น

เจนจิต ลัดพลี การเดินทางคือของขวัญของชีวิต

อีกประเทศที่ประทับใจที่สุดอีกประเทศหนึ่งก็คือ มอริเชียส เป็นเกาะใกล้ๆ มาดากัสการ์ เป็นเกาะในกลุ่มประเทศแอฟริกา จุดเด่นคือทะเลที่สวยงาม เป็นประเทศที่คนยุโรปนิยมมาพักร้อน เป็นเมืองที่มีความเป็นส่วนตัวสูง พวกราชวงศ์จากยุโรปจะมาฮันนีมูนกันที่นี่บ่อยๆ มีความเป็นยุโรปสูง เพราะเคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส ถือเป็นดินแดนสวรรค์นอกชายฝั่งแอฟริกา กลางมหาสมุทรอินเดียทางตะวันตกเฉียงใต้ โดดเด่นด้วยหาดทรายขาว น้ำทะเลสีฟ้าใส ธรรมชาติป่าเขาสีเขียวขจี บรรยากาศสุดโรแมนติก จุดหมายปลายทางสุดฮิตของคู่รักทั่วโลก

“เป็นประเทศที่สวยงาม มีความเป็นธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่งมาก ดิบแต่สวย ไม่เป็นการค้ามาก คนก็ใสๆซื่อๆ สวรรค์แห่งหาดทรายขาวนุ่มและทะเลสีฟ้าใสราวกับคริสตัล มีกิจกรรมเด่น ว่ายน้ำ ตกปลา เพราะเป็นเกาะที่มีความสวยงามและบรรยากาศโรแมนติกอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว มีประชากรที่เป็นทั้งชาวอเมริกัน ยุโรป อินเดีย ออสเตรเลีย และเอเชีย วัฒนธรรมบนเกาะมอริเชียสจึงมีความหลากหลาย น่าสนุกสนาน”

กิจกรรมบนเกาะมอริเชียสมีให้เลือกทำมากมาย ใครที่ชอบความเงียบสงบและหลงรักท้องทะเล การนอนเล่นบนหาดทรายขาว พร้อมกับอ่านหนังสือเล่มโปรด จึงเป็นสิ่งที่เหมาะมากๆ แต่ถ้าอยากได้ความตื่นเต้นขึ้นมาอีกนิดก็เดินจากชายหาดลงไปสู่ทะเลสีฟ้าสวยใส เพื่อดำดิ่งลงสู่โลกใต้ท้องทะเล แล้วเพลิดเพลินไปกับการชมปะการังและสัตว์ทะเลสุดน่ารัก หรือถ้าใครต้องการความสดชื่นจากป่าเขาก็มีเส้นทางเดินป่าให้เลือก

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การตกปลาในทะเลลึก การเล่นกอล์ฟ การขี่จักรยาน หรือการช็อปปิ้งในตลาดท้องถิ่น ของพื้นเมืองจะเป็นงานฝีมือ ถ้าชอบการเดินทางในเส้นทางใหม่ๆ ไม่ซ้ำใคร ชอบเผชิญกับโลกที่แตกต่าง สาธารณรัฐมอริเชียสก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว ยิ่งถ้าหลงรักหาดทรายขาวสะอาดเนียนนุ่ม กับท้องทะเลสีฟ้าที่ใสราวกับกระจก มอริเชียสก็จะเป็นสวรรค์ที่กำลังตามหา

ที่นี่เป็นสถานที่ชมเต่ายักษ์ที่ดีที่สุดในโลก ที่ Lavanille Nature Park ตรงนี้เป็นฟาร์มจระเข้และฟาร์มเพาะพันธุ์เต่ายักษ์อัลดราบ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง และที่มอริเชียสเป็นที่ที่เดินทางมาง่ายที่สุดและมีเต่ายักษ์เยอะที่สุด เต่าอัลดราบ้าถือเป็นเต่าบกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากเต่ายักษ์กัลลาปากอส อีกที่ก็คือ Seven Coloured Earth หรือเนินทราย 7 สี ที่สวยงามจากธรรมชาติสร้างสรรค์

เจนจิต กล่าวว่า การเดินทางคนเดียวหรือเป็นผู้หญิงแค่ 2 คน ก็ไม่ได้น่ากลัวเกินไป เพียงแต่ต้องระวังให้มากขึ้น เพราะไม่ได้ไปกับทัวร์ที่มีคนคอยดูแลจัดการให้ทุกอย่าง เช่น อย่าดื่มเหล้าจนขาดสติ ไม่ไปในที่เปลี่ยวยามค่ำคืน อย่าแต่งตัวโป๊ หรือแต่งตัวโดดเด่นเกินไป ไม่ใส่ของมีค่าล่อตา อย่าไว้ใจคนแปลกหน้าเกินไป ที่สำคัญควรหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่จะไปให้มากๆ