มาช่า วัฒนพานิช โลกใบนี้ไม่มีใครเพอร์เฟกต์

ไม่ว่าจะย้อนวัยไปเมื่อ 10 ปี 20 ปีก่อน จนถึง ณ วันนี้ มาช่า วัฒนพานิช ยังถูกจัดให้เป็นผู้หญิงอันดับต้นๆ ที่ฉายความมั่นใจภายในออกมาได้เด่นชัด เรียกว่าเป็นผู้หญิงที่มีความเป็นขบถอยู่ในที ที่กล้าคิดกล้าทำในสิ่งที่แตกต่าง ถ้าใช้คำอย่างยุคนี้ต้องบอกว่า เป็นตัวแม่ และเป็นแม่มานานแล้ว

ไม่นิยมจับปลาสองมือ

การปรากฏตัวของมาช่าในทุกงาน มีความฮือฮาอยู่เสมอ อาจเป็นเพราะนานๆ ทีจะมีผลงานชิ้นใหญ่ออกมา

“ถ้ารับงานเล็กๆ น้อยๆ อาจจะพอได้สองงาน แต่ถ้ารับงานใหญ่ๆ ตีกันไม่ได้ ยิ่งเป็นโปรเจกต์ยากๆ สมาธิต้องเรื่องเดียวเลยค่ะ ต้องโฟกัส เพราะว่าไหนจะเนื้อเพลงที่ต้องจำ ไหนจะอะไรต่างๆ ถ้าเกิดสวิตช์ไปสวิตช์มา กลายเป็นบางทีเดี๋ยวมึน

ละครเหมือนกัน ช่าจะไม่เล่นซ้อน ยกเว้นอันนี้มันเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เพราะบางทีช่างงตัวละครเหมือนกันนะคะ ไปเล่นเรื่องนี้ปุ๊บ อ้าวอีกวันเปลี่ยนเป็นอีกคน ซึ่งบางทีเขา 2 คาแรกเตอร์เลย

งานมีติดต่อมาหมดทุกแบบ เพียงแต่ว่าจะเป็นงานลักษณะไหน ช่าก็ไม่ใช่ว่ารับทุกงาน จะดูด้วยว่ามันเข้ากับเราไหม หรือว่าอันนี้โอเคไหม ถ้าบางอย่างเรายังรู้สึกงงกับมันก็ไม่รับ

ละครมีติดต่อมา ก็จะดูบทเป็นยังไง ทำงานกับใคร ไม่ใช่มาถึงปุ๊บ ค่ะๆ มันไม่ได้ คือเราจะทำอะไรเราต้องรู้ก่อนว่าเราจะไปทำอะไร คอนเซ็ปต์เขาต้องการอะไร เรื่องเป็นยังไง เรากำลังจะเดินไปเป็นใคร ถ้าอย่างเป็นเพลง โอเคก็เป็นตัวเองเนี่ยแหละ แต่มันก็ต้องมีการซ้อม แต่ถ้าเป็นอย่างละคร เราไปเล่นเป็นคนอื่นเราต้องไปเป็นเขา เราต้องชอบเขาด้วยนะ สมมติเราไม่ชอบเขาเราจะไปทรมานตัวเองทำไม เพราะฉะนั้นช่าจะต้องดูก่อนว่าเราทำอะไร”

ทำงานจบหนึ่งงาน ต้องมีเวลารีเฟรชตัวเอง “คือร่างกายคนเราเอาจริงๆ มันต้องมีช่วงเบรกบ้าง ถ้าเป็นช่วงเด็กๆ มันยังพอได้ แต่เราโตขึ้นมาในระดับหนึ่งเราก็รู้สึกว่าอะไรบางอย่างบางทีมันไม่ได้จำเป็นเราก็ไม่เอาละ มันเหนื่อยไป หรืออันตรายไปต่อสุขภาพร่างกาย เราก็ต้องเวตน้ำหนักเราด้วย อย่างเล่นคอนเสิร์ต เรารู้เดี๋ยวต้องซ้อมเยอะ ช่าก็จะไม่เอาอะไรมาให้เราเหนื่อยกว่าเดิม ที่เหลือคือพักผ่อน นอนหลับ รับประทานอะไรดีๆ นอนตรงเวลา ทำอะไรให้เรารู้สึกว่ามันเฟรช”

คู่ซี้ Amp-Sha Concert

เป็นเพื่อนซี้ 2 ขั้วตัวแม่ที่สนิทสนมกันมานาน ระหว่าง มาช่า กับ แอม-เสาวลักษณ์ ลีละบุตร เคยร่วมงานกันมาหลายวาระแต่ยังไม่มีคอนเสิร์ตใหญ่คู่กันเลยสักครั้งเดียว จน เอ-ไทม์ โชว์บิส จัดทั้งคู่มาอยู่บนเวทีเดียวกัน ใน “Amp-Sha Concert” ในวันที่ 3-4 ก.พ. ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน

“เคยมีคอนเสิร์ตเดี่ยวแต่นานมาก ช่าว่ามันเหนื่อยนะ ทำคอนเสิร์ตหนึ่งต้องใช้เวลาซ้อม ใช้เวลาคิด ช่าก็เลยไม่ค่อยจะเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ๆ แบบคนเดียวไง เพราะรู้สึกว่าเวลาไปแจมกับชาวบ้านแล้วมันดูสนุก มีคนช่วยกัน และมันก็มีเพื่อนด้วย

มาช่า เป็นไอดอลของผู้หญิงหลายคนมาตั้งแต่ยุคเอทตีส์ ไนน์ตีส์ ตั้งแต่บทบาทนักแสดงมาจนถึงนักร้อง ไม่ว่าจะผันตัวเองไปในเส้นทางไหน แต่ชื่อชั้นของเธอไม่เคยหายไปจากทำเนียบตัวแม่ในวงการบันเทิงไทย

“น้องๆ บอกว่าพี่ช่า สวยๆ ช่าเองก็มีอะไรที่บกพร่องบางเรื่องเหมือนกัน ช่าก็รู้สึกว่าไม่ค่อยชอบตรงนี้ จะบอกว่าไม่มีใครเพอร์เฟกต์ 100% ในโลกใบนี้ 

อย่างการแต่งตัว ก็ดูให้มันรู้จักกาลเทศะ ว่ากำลังจะไปไหน ถ้าคุณจะต้องไปที่แบบมันโอเค มีการเข้าสังคมมันก็คงต้องมีอัพอะไรขึ้นมานิดหนึ่ง ช่าอาจจะติดตรงแต่งตัวสบายมากไม่ได้ เหมือนลุกออกมาจากที่นอนเลยมันไม่ใช่ เพราะช่ารู้ว่าเดี๋ยวออกไปก็ต้องเจอคนขอถ่ายรูป ก็จะมีทาปากบ้าง รวบผมให้ดีๆ หน่อย เพราะเราเป็นบุคคลสาธารณะ”

ปัจจุบันผู้หญิงนิยมแข่งขันกันเรื่องความสวยงามจากภายนอก จนดูสวยงามดาษดื่นไปเสียหมด มาช่าให้ความเห็นว่า อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครมากนัก เอาไปเปรียบเทียบมากๆ จนตัวเองไม่ดูดีอะไรเลยก็ไม่ใช่

“เราต้องรู้จักว่าเราก็เป็นเรา เอาที่เราแฮปปี้ เราต้องมีสไตล์ ต้องมีรสนิยมของตัวเราเอง ถ้าเราไม่มีความมั่นใจในตัวเองซะก่อนแล้ว เราไปมองแต่คนอื่น มันก็จะทำให้ 1.ไม่มีรสนิยมของตัวเราเอง 2.เราก็จะไล่ตามคนอื่นเขาตลอดเวลา ซึ่งมันไม่มีทางเหมือนหรอก เพราะทุกคนเกิดมาเพื่อเป็นตัวเอง เป็นแบบที่ตัวเองเป็น ตรงไหนที่รู้สึกไม่มั่นใจก็แก้ไขไป แล้วก็ดูกาลเทศะ

ช่าว่าจุดนี้มันอาจจะง่ายกว่าการไปวิ่งตามแฟชั่น เพราะแฟชั่นมาไวไปไว ถ้าเป็นแบบนี้คือกลายเป็นคนแบบเรียกว่าอะไรมา หูตาตื่นไปหมด ช่าว่าเราเป็นตัวของตัวเอง แล้วก็รู้จักวิธีที่เราจะสวย ดูแลตัวเอง ในแบบของตัวเองบ้างก็ได้ ไม่เห็นจะต้องเหมือนกันไปหมดเลย ทุกคนทุกวันนี้ก็จะเป็นบล็อกเดียวกันอยู่แล้ว

ช่าก็มีมุมไม่มั่นใจเหมือนกัน รู้สึกตื่นเต้น กลัวบ้างอะไรก็มี ไม่ใช่โอ้โหเกิดมามั่นใจหมดทุกอย่าง 100% แบบไม่กลัวอะไรเลยในชีวิตเลย ช่าก็เป็นคนนะ แต่มันเป็นงาน เป็นหน้าที่ ช่าจะไปพูดได้ยังไงว่า ตื่นเต้น กลัว คือมันก็ต้องทำอยู่แล้ว ก็เลยเหมือนกับว่าทุกคนมองว่าช่ามั่นใจมาก

ช่าพูดตรงนี้เลย ฝากบอกเลยว่า จริงๆ ทุกคนเป็นมนุษย์ รู้สึกคล้ายๆ กันหมดแหละ มีร้องไห้ มีหัวเราะ มีกลัว มีไม่กล้า มีแบบระแวง เหมือนกันหมด มันอยู่ที่ว่าเราจะควบคุมมันยังไง

สมมติช่าไม่มั่นใจเรื่องนี้จะแก้ไขยังไง มีเหมือนกัน ใส่ชุดนี้โหยไม่มั่นใจมากขอเปลี่ยนเหอะ แต่มันอยู่ที่ตัวเราเอง ใครจะบอกได้ละ คือเราเกิดมาเพื่อเป็นตัวของเราเอง เพราะฉะนั้นช่าจะไปบอกทุกคนว่าแบบนี้สิ อย่างนี้มันไม่ได้ ไม่ใช่ว่าชอบพี่ช่า ต้องเป็นแบบพี่ช่า มันไม่จำเป็น เพราะว่าธรรมชาติเวลาให้อะไรมา บางคนอาจจะตรงนี้น้อยหน่อย แต่เขาก็อาจจะให้ตรงนั้นมากหน่อย คือเราต้องเข้าใจด้วยว่า Nobody’s Perfect แล้วก็ให้รู้สึกว่าเรามีตัวตนของเรา และเราก็จะเริ่ม เออ ไม่ใช่อย่างที่ช่าบอกว่าอะไรก็ตามกันไปหมด จนช่าเองก็จะจำหน้าใครไม่ได้อยู่แล้ว”

สุดท้ายสิ่งที่ผู้คนจะชื่นชอบ นิยม นับถือ ก็จากภายในไม่ใช่เปลือกที่หุ้มข้างนอก การเป็นตัวของตัวเอง และซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเอง หน้าที่การงาน มันจะปรากฏแก่สายตาคนอื่นเอง ไม่ต้องพยายามทำตัวให้เหมือนใคร