posttoday

เพชรลดา พูลวรลักษณ์ ความสำเร็จคือ ‘คิดให้แตกต่าง’

22 พฤศจิกายน 2560

ชีวิตไลฟ์สไตล์และความรักสัตว์เลี้ยง เป็นแรงบันดาลใจสู่การเป็นผู้พัฒนา โครงการคอนโดมิเนียม Pet Friendly เจ้าแรกๆ

 

ชีวิตไลฟ์สไตล์และความรักสัตว์เลี้ยง เป็นแรงบันดาลใจสู่การเป็นผู้พัฒนา โครงการคอนโดมิเนียม Pet Friendly เจ้าแรกๆ 

เพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ผู้อยู่เบื้องหลังการบริหารจัดการ และขับเคลื่อนโครงการอสังหาริมทรัพย์ มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท และดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารอีก 4 บริษัท ในเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ได้แก่ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอสเตท (MDE) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ฮอสพิทอลลิตี้ (MDH) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออาคารสำนักงาน โรงแรม เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแทนท์ (MDC) บริษัทให้คำปรึกษาด้านการซื้อ ขาย เช่าอสังหาริมทรัพย์ และเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ตเนอร์ (MDP) บริหารจัดการงานนิติบุคคลอาคาร

เพชรลดา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด และปริญญาตรี ด้านศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาการตลาด จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์สเตท รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐ

คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ เพชรลดา บอกว่าไม่อยากบอกว่าการสร้างจุดขาย แต่มาจากไลฟ์สไตล์ที่ชอบเลี้ยงสัตว์อยู่แล้ว และไม่อยากเห็นลูกบ้านแอบอุ้มสัตว์เข้าโครงการ แต่การมีกฎ ระเบียบชัดเจน และบริหารจัดการระเบียบ ทำให้ทุกๆ โครงการของเมเจอร์ฯ เปิดให้เลี้ยงสัตว์ได้ คือการริเริ่ม Pet Friendly บนตึกสูงได้ลงตัว

 

เพชรลดา พูลวรลักษณ์ ความสำเร็จคือ ‘คิดให้แตกต่าง’

 

กล้าริเริ่มนำความแปลกใหม่

จากประสบการณ์คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์มากว่า 18 ปี เพชรลดา มีความมุ่งมั่นบริหารงาน และตั้งใจที่จะพัฒนาโครงการที่พักอาศัยประเภทอาคารสูง คอนโดมิเนียมไฮไรส์และโลว์ไรส์ ในระดับไฮเอนด์มาตรฐานสากล ด้วยความเอาใจใส่ลงมือทำงานเองในทุกรายละเอียด เพื่อให้ทุกโครงการมีความเป็น Top of Class ในทุกทำเล

“เรียนจบจากสหรัฐ 5 ปีแรก มาช่วยคุณพ่อทำโรงหนัง พอทำได้สักพักค่ะ ราว 3-4 ปี ก็เริ่มมองหาแล้วว่าอยากทำอะไร หน้าที่ความรับผิดชอบมาก่อนคะ แล้วแพสชั่นก็เลยจะตามมา อาจจะมองว่าแปลกๆ นะคะ (หัวเราะ) เพราะคนเราก็น่าจะเริ่มทำงานที่ความชอบของตัวเองก่อน แต่สำหรับดิฉัน เมื่อครอบครัวมอบหมายธุรกิจซึ่งไม่ว่างานอะไรให้ทำ ก็จะต้องทำตรงนั้นให้สำเร็จก่อนค่ะ แล้วจึงค่อยค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ

การเรียนการตลาด ทั้งปริญญาตรีและโท ก็ยอมรับเลยนะคะ ว่าก็เรียนแบบไม่ได้ชอบอะไรด้านนี้เลยค่ะ (ว่าแล้วก็หัวเราะอีกครั้ง) แต่เมื่อคุณพ่อ (จำเริญ พูลวรลักษณ์) บุกเบิกทำโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ดิฉันในฐานะลูกสาวคนโตก็ต้องมาทำด้วย กลยุทธ์ได้จากคุณพ่อก็คือ ทำเลต้องดีเยี่ยม ซึ่งแต่ก่อนนั้นโรงหนังจะไม่ได้อยู่บนห้างสรรพสินค้าแบบยุคนี้ คุณพ่อมีประสบการณ์ในเรื่องการหาทำเลทอง และส่งต่อไอเดียนี้ให้ลูกๆ สานธุรกิจของตัวเอง  

ระหว่างที่ช่วยงานครอบครัว ก็มองหาสิ่งที่อยากทำในสิ่งที่แตกต่างจากธุรกิจเดิมของพ่อ ก็มองหามากมายก่ายกองตั้งแต่เอนเตอร์เทนเมนต์ที่อิงกับโรงหนัง เกม และมาลงตัวที่คอนโดมิเนียมโครงการแรก คือ แฮมป์ตัน ดิฉันเลือกซอยทองหล่อ

ดิฉันตัดสินใจเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ ก็เริ่มกู้ธนาคาร คำตอบคือธนาคารสำนักงานใหญ่ที่เพลินจิต เรียกให้ไปดูตึกสูง บอกว่า...ดูสิ ธุรกิจนี้ ซึ่งหลังปี 2540 ตึกทิ้งร้างและสร้างไม่เสร็จหลายแห่งมาก สรุปก็คือกู้ไม่ได้ค่ะ ก็ต้องกลับมากู้คุณพ่อ ซึ่งดอกเบี้ยโหดกว่าธนาคารอีก (หัวเราะ) คุณพ่อไม่เคยให้อะไรมาฟรีๆ ค่ะ อาจเป็นวิธีการสอนอย่างหนึ่งของท่าน เงินดาวน์ก้อนแรกได้จากพ่อ ธุรกิจเริ่มต้นเล็กๆ ก่อนค่ะ แล้วจากนั้นพอเริ่มดีขึ้นๆ ธนาคารก็เริ่มปล่อยสินเชื่อสำหรับพัฒนาธุรกิจก้าวต่อไป”

เพชรลดา เล่าย้อนไปที่จุดเริ่มต้นที่ซอยทองหล่อ คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ตารางเมตรละเกือบ 1 แสนบาท ซึ่งในปี 2542 เป็นความกล้าสวนกระแสขายที่พักอาศัยราคาสูง ในยุคเศรษฐกิจดิ่งเหว

 

เพชรลดา พูลวรลักษณ์ ความสำเร็จคือ ‘คิดให้แตกต่าง’

 

 

บุกเบิกคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้

ถึงแม้จะเป็นโครงการแรก แต่ก็สามารถปิดการขายได้หมดภายในเวลาอันรวดเร็ว จึงเป็นแรงผลักดันให้นักธุรกิจหญิงเก่ง ตระกูลพูลวรลักษณ์ กล้าที่จะก้าวต่อไป จากโครงการ แฮมป์ตัน ทองหล่อ ซอย 10 และอีกหลายโครงการตามมา จนมาถึงปัจจุบันกว่า 20 โครงการแล้ว

ในขณะที่กลยุทธ์การทำธุรกิจปีนี้ มีการลอนช์แบรนด์เพิ่มในราคา 1-2 ล้านกว่าบาท โดยมองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทั้งโปรดักต์และฟังก์ชั่นรองรับความต้องการกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นหลัก

“คนชอบพูดเสมอๆ คำว่า เก่งต้องผสมเฮง ก็ถือว่าเราโชคดีจากก้าวแรกทำคอนโดมิเนียม 80 ยูนิตราคาสูง ขายได้ภายในเวลาไม่ถึง 3 เดือนค่ะ ปีนี้เราแข่งขันด้วยราคาไม่แพงเพื่อคนกลุ่มใหญ่ที่ซื้อได้ จุดเด่นชัดเจนสุดคือดีไซน์ ดิฉันไม่อยากให้โครงการเป็น Just Another Condo เราต้องการให้คนอยู่อาศัย รู้สึกว่าเป็นบ้าน แตกต่างทั้งภาพลักษณ์ตัวตึก ฟาซิลิตี้ที่มากกว่าคู่แข่ง ไม่ว่าโลว์ไรส์ เช่น มาเอสโตร 19 มีคลับเฮาส์แยกต่างหากเป็นตึก 3 ชั้น มีโคเวิร์กกิ้งสเปซ มีลิฟต์ในตัวคลับเฮาส์ด้วย บ้านไม่ใช่แค่ค่ำก็มานอน แล้วเช้าไปทำงานแบบนั้น

อีกไอเดียที่ดิฉันไม่อยากเรียกว่า จุดขายอะไรแบบนั้น แต่เป็นความรู้สึกที่ว่า เข้าใจหัวอกคนเลี้ยงน้องหมาด้วยกันดีกว่าค่ะ ดิฉันเลี้ยงน้องหมาพันธุ์เล็ก 7 ตัว บนคอนโด 160 ตารางเมตร ก็คิดว่าเป็นไปได้สิคะที่สามารถเลี้ยงแมว หรือสุนัข โดยมีการกำหนดน้ำหนักสัตว์เลี้ยง 15 กิโลกรัมบนตึกสูงได้ เพียงแต่มีกฎระเบียบระบุให้เข้าใจตรงกันที่ชัดเจน เช่น การลงทะเบียนสัตว์ กำหนดพื้นที่ที่สัตว์สามารถเดินไปมาได้ สวนด็อกพาร์คสำหรับสัตว์เลี้ยง

ถ้าใครผิดระเบียบก็จะมีค่าปรับ ความผิดร้ายแรงไม่มีค่ะ มีแต่คนเลี้ยงที่ไม่ค่อยมีวินัยในการเลี้ยง ก็โดนค่าปรับไป ซึ่งค่าปรับก็เข้านิติบุคคล พอโดนปรับสัก 2-3 ครั้งก็ไม่กล้าทำผิดกฎอีกแล้วค่ะ

ดิฉันรักสัตว์ทุกชนิด สมัยอยู่สหรัฐก็เลี้ยงนก กระต่าย และด้วยกฎระเบียบคนที่นั่นก็สามารถพาสัตว์เลี้ยง ไปโรงแรม ร้านอาหารได้ ซึ่งก็ได้กลายเป็นเทรนด์ไปทั่วโลกแล้วค่ะ การเปิดพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยงและคนใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข

สุนัขก็เหมือนเด็กค่ะ เราต้องสอนให้เขามีวินัย ไม่ยากค่ะ เช้าพาไปฉี่ กินข้าวเสร็จแล้วก็พาไปอึไปฉี่ทันทีค่ะ ทำแบบนี้ทุกๆ ครั้ง เขาก็จะจดจำ สอนได้ เราอยู่ด้วยกันได้”

รายละเอียดเล็กๆ กลายเป็นไอเดียตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ และเป็นการตอกย้ำปณิธานความมุ่งมั่นของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ในการเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกในประเทศไทยที่สร้างสรรค์ คอนโดมิเนียมคุณภาพระดับไฮเอนด์ในคอนเซ็ปต์ Pet Friendly พร้อมทั้งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยและสัตว์เลี้ยงแสนรักให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว  

โครงการกว่า 20 โครงการ ฝีมือสร้างสรรค์โดยบอสสาวแห่ง เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เพชรลดา ซี่งเผยว่าสำหรับโครงการในฝันคือผสมผสานความโมเดิร์นและความคลาสสิกเข้ากันอย่างลงตัว คือก้าวต่อไปในการพัฒนาธุรกิจวงการอสังหาริมทรัพย์

“ทุกโครงการของเรา ก็จะเห็นค่ะว่ามีความคลาสสิกอยู่ด้วย โครงการล่าสุด คือ เมทริส กลุ่มคนเลือกอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เรียกว่า Millennials หรือกลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี 2527-2539 คนรุ่นนี้ไม่ชอบอะไรเหมือนใครค่ะ งานออกแบบในสไตล์ Mid-Century Modern ยุคสมัยของการออกแบบที่มีความเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น จากการใช้รูปฟอร์มเรขาคณิตที่มี แอบแฝงความดูเป็นมิตรและขี้เล่น รวมไปถึงการกล้าใช้สีสันสดใสที่มีความเฉพาะตัว ซึ่งเป็นหัวใจหลัก ทำให้งานออกแบบในยุคสมัยนี้สวยงามอยู่เหนือกาลเวลา เป็นที่จดจำ

งานออกแบบสถาปัตยกรรมภายในของโครงการ เน้นการสร้างบรรยากาศ Retro Modern ที่มีพื้นหลังเป็นสีสันสนุกสนานขี้เล่น ตัดกับความหรูหรา เลือกใช้วัสดุ และการให้ความสำคัญกับรายละเอียด ซึ่งดิฉันจะร่วมดูแลรูปแบบกับทีมงานค่ะ เช่น โครงการนี้ก็ให้โจทย์ไปให้คนออกแบบ คิดออกมาเป็นโครงการใหม่ๆ”

เพชรลดา บอกทิ้งท้ายว่าจากวันแรก กับการทำธุรกิจเข้ามาพัฒนาธุรกิจอสังหาฯ วันนี้กำลังก้าวสู่ 20 ปีอย่างมั่นคง และกลายเป็นความผูกพัน กับการทำงานเต็มที่เกินร้อย เพื่อมองกลับมาจะไม่เสียดาย โดยมีความสนุกกับการคิดไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆ กล้าคิดแตกต่าง บนพื้นฐานงานก็คือชีวิต ชีวิตก็คืองาน จึงได้เห็นสิ่งใหม่เกิดขึ้นเสมอ