posttoday

ชลลดา สมานมิตร บทเรียนสอนใจอย่าให้ผิดพลาดซ้ำ

08 ตุลาคม 2560

คำเปรียบเปรยที่ว่า สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง นั้นเป็นการเปรียบเทียบว่าคนเรามีโอกาสผิดพลาดกันได้

โดย อณุสรา ทองอุไร ภาพ : วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี 

คำเปรียบเปรยที่ว่า สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง นั้นเป็นการเปรียบเทียบว่าคนเรามีโอกาสผิดพลาดกันได้ คนที่ไม่เคยพลาดเลยก็คือคนที่ไม่เคยลงมือทำอะไร ดังนั้นอย่ากลัวหากชีวิตจะพบเจอกับความผิดพลาดบ้าง เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วคนเรามักจะเรียนรู้จากความผิดพลาดมากกว่าเรียนรู้จากความสำเร็จ หากคุณผิดพลาดบ่อยๆจะทำให้ประสบการณ์ของคุณแน่นหนา แต่ทางที่ดีก็พยายามเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น อย่าให้คุณผิดพลาดไปโดยไม่ได้บทเรียนสอนใจใดๆ เลย จนอาจจะกลายเป็นการทำผิดพลาดซ้ำ แต่เอาความผิดพลาดเป็นครูคอยสนใจให้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงแข็งแรง

ชลลดา สมานมิตร บทเรียนสอนใจอย่าให้ผิดพลาดซ้ำ

จบใหม่ไฟแรง

อยากทำธุรกิจของตัวเอง

เช่นเดียวกับเธอคนนี้ ผู้หญิงวัย 33 ปี ที่เริ่มก่อตั้งธุรกิจของตัวเองด้วยวัยเพียง 26 ปี ปู-ชลลดา สมานมิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ด อีซี่ ผู้นำเข้าและส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งและผู้ผลิตอาหารญี่ปุ่นพร้อมรับประทานให้กับร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารญี่ปุ่นหลายรายในกรุงเทพฯ เธอเล่าถึงบทเรียนสอนใจที่ไม่มีวันลืมว่า หลังจากเรียนจบปริญญาตรีทางด้านฟู้ดไซน์ ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือแล้ว เธอก็ทำงานทางด้านอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารที่บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งอยู่สองสามปี ทำให้รู้จักบริษัทนำเข้าอาหารทะเลจากประเทศญี่ปุ่นอยู่หลายบริษัท

หลังจากบ่มเพาะประสบการณ์ในการทำงานมาได้ 3 ปีเศษ เธอจึงลาออกมาทำอาชีพอิสระนำเข้าปลาแซลมอน ปลาดิบต่างๆ จากต่างประเทศส่งให้กับผู้ผลิตและผู้ที่ทำร้านอาหารญี่ปุ่นหลายรายในประเทศไทย “ก็คือเราอยากจะมีธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเองทำงานมา 3 ปีกว่าแล้วแบบว่าร้อนวิชาพอมองเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ ก็เลยลาออกจากงานมาทำจ๊อบอิสระอยู่ปีกว่า ทำคนเดียวเลยยังไม่ได้เปิดบริษัท ผ่านไป 1 ปี พิจารณาว่าน่าจะไปรอดจึงเปิดบริษัทมีคนทำงาน 2-3 คน ตอนนั้นอายุยังไม่เต็ม 27 ปีดีเลย (หัวเราะ) ถือว่าประสบการณ์ตอนนั้นก็น้อยมากแต่เราใจสู้ถึงเวลาต้องโต ต้องกล้าตัดสินใจ ก็ไม่ได้มีความพร้อมเท่าไร เพียงแต่มองเห็นโอกาสแล้วก็ลุยเลย จะตีเหล็กก็ต้องตีตอนร้อนอย่ารีรอ” เธอเล่าถึงจุดเริ่มต้นให้ฟัง

หลังจากที่เปิดบริษัทได้ไม่ถึงปี ทุกอย่างก็ดูไปได้ดี มีลูกค้าพอใช้ได้ เริ่มมีลูกค้าประจำอยู่หลายราย ส่วนใหญ่จะเป็นรายเล็กๆ 5-6 ราย แต่มีรายใหญ่เพียงรายเดียว ซึ่งเคยค้าขายกันมาหลายครั้งและมิตรภาพทางธุรกิจก็ดีงามไม่เคยมีปัญหาใดๆ กันเลย แต่แล้วเหมือนฟ้าผ่ามากลางใจลูกค้ารายใหญ่เพียงรายเดียวที่มีอยู่เคยสั่งนำเข้ากันมาหลายรอบ ครั้งนี้เขาสั่งปลาแซลมอนและปลาดิบล็อตใหญ่กว่าที่เคยสั่งมูลค่าเกือบ 40 ล้านบาท ของมาถึงโกดังเรียบร้อยพร้อมส่ง เขาขอยกเลิกการซื้อกลางคันโดยไม่แจ้งเหตุผลว่าเพราะอะไร

ชลลดา สมานมิตร บทเรียนสอนใจอย่าให้ผิดพลาดซ้ำ

เหมือนฟ้าผ่ามากลางใจ

เป็นหนี้เกือบ 60 ล้าน

ชลลดา กล่าวว่า ตอนนั้นสตั๊นแล้วก็ช็อกไป 15 นาที ห๊า!! อะไรนะ ยกเลิกออร์เดอร์เหรอ? เธอบอกว่า งง!!! สติแตกทำอะไรไม่ถูกนั่งนิ่งอยู่เกือบ 20 นาที โทรไปถามเหตุผลเลขาฯเขาก็ไม่ให้รับสาย ขอนัดไปพบก็บอกว่าไม่ว่าง ทั้งที่อยู่เขาก็แอบหลบบอกไม่อยู่ ตอนนั้นเครียดมากร้องไห้อยู่พักใหญ่เงินตั้ง 40 กว่าล้านที่เธอเครดิตสินค้าเขามาจะเอาเงินที่ไหนจ่าย เงินติดตัวมีอยู่ตอนนั้นไม่ถึงสองล้านบาท ไม่พูดไม่คุยกับใครเลยทั้งวัน ไม่กล้าเล่าให้คุณแม่ฟังเพราะกลัวท่านจะเครียดตามไปด้วย

จนคืนนั้นเธอมาคิดได้ว่าต้องนำปลาดิบที่มีอยู่นำมาแปรรูปสินค้า  รีบโทรหาเพื่อนๆ โทรหารุ่นพี่ เพื่อปรึกษาเขาว่าจะแปรรูปเป็นอาหารแบบไหนได้บ้าง ทำได้กี่อย่างกี่แบบ แล้วก็ไปหาตลาดเพื่อหาช่องทางการจำหน่าย เนื่องจากเธอจะเศร้าแล้วทอดอาลัยในชีวิตและโชคชะตานานไม่ได้สินค้าจะเสียหายไปกว่านี้ ยังไงชีวิตต้องเดินต่อไป เก็บความเสียใจไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ ท้อได้แต่อย่าถอย

เนื่องจากเธอมาสืบทราบภายหลังจากนั้นว่า บริษัทที่ยกเลิกการนำเข้าจากเธอนั้นได้ผู้นำเข้ารายใหม่ที่ได้ราคาถูกกว่าของเธอ เขาก็มายกเลิกเธอทันที โดยไม่ได้บอกหรือว่าขอลดราคาจากเธอลงบ้างก็ยังดีเสียกว่า “ตอนนั้นเราเองก็ยังเด็กไม่มีประสบการณ์มองโลกในแง่ดีเกินไป เชื่อใจคนง่ายเพราะเห็นว่าค้าขายกันมาหลายครั้งแล้วคงเชื่อใจเชื่อคำพูดกันได้ สัญญาก็เขียนกันเองง่ายๆ ไม่รัดกุม ไม่ปรึกษาทนาย ทำให้เกิดช่องโหว่ทางกฎหมาย แต่ในที่สุดเราก็ตัดสินใจฟ้องเขานะ และคาดว่าจะชนะ แต่ตัวเลขที่เขายอมจะจ่ายนั้นยังไม่ถึง 5 ล้านบาทด้วยซ้ำ เพราะเขาก็ไม่มีจ่ายเขายอมโดนฟ้องล้มละลาย แต่เราก็ต้องฟ้องไปตามระบบถือเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับเราอย่างมาก แล้วของที่แปรรูปเป็นอาหารสำเร็จรูปก็ขายได้ไม่ถึง 20 ล้านบาท” เธอกล่าวอย่างคนพยายามจะทำใจให้ได้

สำหรับเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอเป็นหนี้ทันที 60 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยผิดนัดชำระ เพราะหาเงินไปจ่ายเขาไม่ทัน เพราะเขาให้เครดิตเธอเพียง 4 เดือน เธอจึงต้องขอผ่อนชำระพร้อมดอกเบี้ยบริษัทที่ไปซื้อสินค้าเป็นงวดๆ ซึ่งเธอต้องหมุนหาเงินอย่างหนักกว่าจะจ่ายเขาได้ครบภายใน 3 ปี

ตลอด 3 ปีแห่งการหาเงินมาจ่ายหนี้ ทำให้เธอทั้งเหนื่อยและเครียดอย่างแสนสาหัส เป็นบทเรียนที่เธอจะไม่ยอมผิดพลาดซ้ำ ทุกวันนี้จะทำสัญญาอะไรเธอจะต้องมีทนายเป็นที่ปรึกษาทุกครั้ง ไม่มองโลกสวย ทุกอย่างต้องเป็นไปตามหลักการทางกฎหมายจะสนิทชิดเชื้ออย่างไรก็ต้องทำไปตามเนื้อผ้า ของแบบนี้รู้หน้าไม่รู้ใจ ทำทุกอย่างให้ถูกต้องไว้ดีกว่าจะได้ไม่มีปัญหาทีหลังเสียเวลา เสียเงิน เสียเพื่อน เสียความรู้สึก บทเรียนแบบนี้ครั้งเดียวก็เกินพอ

ในความโชคร้ายยังมีความโชคดี

ชลลดา สมานมิตร บทเรียนสอนใจอย่าให้ผิดพลาดซ้ำ

ปัญหาครั้งนั้นทำให้เธอจะเศร้านานไม่ได้ ปลาจะเน่าเสียหายหมดของต้องสดในระยะเวลาที่กำหนดต้องรีบหาทางออก เธอยังโชคดีที่มีพี่ๆ เพื่อนๆ ก็ช่วยกันคิดแปรรูปเป็นอาหารสำเร็จรูปมาให้เลือกหลายแบบ ขณะที่เธอก็วิ่งเต้นหาตลาด พร้อมๆ กับหาลูกค้ารายอื่นเพื่อส่งปลาให้กับร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งก็ค่อนข้างยาก เพราะแต่ละร้านจะมีสเปกของตัวเองว่าเขาต้องการปลาแบบไหนอย่างไรและส่วนใหญ่เขาจะมีซัพพลายเออร์ส่งของที่เขาเคยดิลกันเป็นประจำอยู่แล้ว แล้วปลาที่เธอนำเข้ามาก็เป็นปลาที่สั่งเฉพาะไม่เหมือนกับปลาทั่วไปเป็นสายพันธุ์เฉพาะตัวจริงๆ  ขณะที่เธอเองก็ไม่อยากไปขายตัดราคาให้เสียความรู้สึกแล้ว ทำให้กลไกราคาตลาดเสียหายในระยะยาว

อีกทั้งเธอก็สืบทราบมาว่าที่ลูกค้ารายใหญ่คราวที่แล้วยกเลิกสินค้าของเธอเพราะไปได้ลูกค้ารายใหม่ที่ราคาถูกว่า และเธอก็ไม่อยากไปเกี่ยวข้องกับคนทำธุรกิจแบบที่ไม่มีจรรยาบรรณค้าขายตัดราคาแย่งลูกค้าคนอื่น ก็ยอมตายอย่างเสือ ไม่ยอมไปขายตัดราคาให้ใคร ยอมพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาแล้วไปหาตลาดใหม่ๆ ทดแทนซึ่งเหนื่อยมาก

จากเดิมที่เราส่งแต่วัตถุดิบให้กับร้านค้าต่างๆ เท่านั้น ทำให้ต้องคิดใหม่ ต่อยอดทำเป็นอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานเวลาพัฒนารูปแบบสินค้า จนหาร้านสะดวกซื้อได้ก็หลายเดือน ขณะที่ดอกเบี้ยก็วิ่งไปเรื่อยๆ เธอจึงหยุดคิดไม่ได้

ถือว่าในร้ายมีดี ในดีมีร้าย การยกเลิกออร์เดอร์ครั้งนั้น ทำให้เธอได้ทำสินค้ารูปแบบใหม่ๆ ที่มีความยั่งยืนกว่าในระยะยาว ได้มูลค่ามากกว่าและมีแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเองภายใต้ชื่อแบรนด์ “ฟู้ด อีซี่” เป็นข้าวห่อสาหร่ายโอนิกิริ ข้าวกล่องหน้าปลาและสปาเกตตีปลาแซลมอน เป็นที่แน่นอนว่าหลังจากนี้เธอจะพัฒนาประเภทของสินค้าให้มากขึ้นอีก และผลิตแบบ OEM ให้ลูกค้าไปติดยี่ห้อของตัวเองด้วย จากเดิมที่ส่งเพียงวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว ซึ่งไม่มีความยั่งยืน พอใครมาขายตัดราคาได้ถูกกว่าลูกค้าก็เลิกสั่งเธอไปทันที การยกเลิกครั้งนี้ทำให้เธอต้องคิดหาหนทางใหม่ๆ มากขึ้น ซึ่งกลับกลายเป็นผลดีกับเธอในภายหลัง

หลังจากที่เพียรพยายามใช้หนี้เกือบ 60 ล้าน เป็นเวลา 3 ปีกว่า ถือเป็นปีที่หนักหน่วงในการทำงานของเธอ เธอต้องทำงานหนักเป็นสองเท่าทุ่มเทสุดกำลัง พอผ่านมาได้ก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก พร้อมกับบทเรียนชีวิตครั้งสำคัญที่ต้องไม่เกิดขึ้นอีกต้องรอบคอบรัดกุมมากกว่านี้

เธอบอกว่าแม้จะเสียใจเพียงใดก็ไม่เคยคิดถอนใจ บอกตัวเองต้องสู้ต่อ เพราะถ้ากลับไปทำงานประจำก็ไม่มีโอกาสใช้หนี้หมดแน่นอนบ้านก็ไม่ร่ำรวยอะไร ต้องเดินหน้าอย่างเดียวเท่านั้น

ชลลดา สมานมิตร บทเรียนสอนใจอย่าให้ผิดพลาดซ้ำ

ล้มได้ก็ลุกได้

มีรายได้ปีละ 600 ล้าน

หลังจากใช้หนี้หมดเธอก็เดินหน้าสร้างแบรนด์อาหารญี่ปุ่นสำเร็จรูปของตัวเอง จนสามารถมียอดขายเดือนละ 50 ล้านบาท หรือปีละ 600 ล้านบาท หลังจากพายุโหมกระหน่ำท้องฟ้าก็มักจะสดใสเสมอ  ประสบการณ์ความผิดพลาดครั้งนั้นสอนเธอว่า เมื่อเจออุปสรรคท้อได้แต่อย่าถอย คนเรานั้นเมื่อแพ้ได้ก็มีวันชนะได้เช่นกัน พยายามมองโลกแง่บวกเข้าไว้ พอเวลาผ่านไปเราจะยิ้มกับปัญหาได้

“ข้อดีคือความผิดพลาดจะทำให้เราเรียนรู้และจดจำ ทำให้เราเจียมตัวและไม่ประมาท แต่ความสำเร็จจะทำให้เรามั่นใจและลำพองเกินตัว ดังนั้นคนที่พบทั้งความผิดพลาดและสมหวังจะทำให้มีประสบการณ์ที่ดีทำให้รู้จักการเดินสายกลาง ข้อดีก็คือยิ่งผิดพลาดตั้งแต่อายุยังน้อยจะทำให้เรารู้ว่าเริ่มต้นใหม่ได้เร็วมีเวลาแก้ตัวใหม่ได้นานขึ้น แต่ถ้าผิดพลาดตอนอายุเยอะๆ เวลาจะลุกขึ้นเริ่มใหม่ก็น้อยลงไป เรี่ยวแรงก็อาจจะตก เหนื่อยท้อ ผ่านมาแล้ว 5 ปี ก็รู้สึกเข้มแข็งมีพลังมากยิ่งขึ้น อย่าไปจมอยู่กับอดีตจงเดินหน้าต่อไป คิดแง่ดีเข้าไว้ว่าอนาคตข้างหน้าย่อมสวยงามกว่าเสมอ เดินต่อไปให้สุดทาง ต้องให้กำลังใจและชื่นชมตัวเองไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีใครในโลกนี้ที่ชีวิตโรยด้วยกลีบกุหลาบ ชีวิตที่ดีต้องมีครบทุกรส สุข ทุกข์ สมหวัง ผิดหวัง สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราสตรอง” เธอกล่าวอย่างมุ่งมั่น

ฝันให้ไกลแล้วพยายามไปให้ถึง เธอว่าหลังจากมีวัคซีนชีวิตมาแล้ว เธอก็พยายามฝันให้ใหญ่ตั้งเป้าหมายให้ใหญ่เข้าไว้แม้ทำไม่ได้ทั้งหมด อย่างน้อยทำได้สักครึ่งก็ถือว่าดีแล้วอย่างน้อยมันก็ช่วยทำให้ชีวิตมีเป้าหมายและไม่หลงทาง