เทรนด์อะไรกำลังจะมา

โดย...สมแขก

 เมื่อแนวโน้มที่ดินราคาสูงขึ้น การขยายของตัวเมืองกระจายตัวออกสู่รอบนอกมากขึ้น เทรนด์ของการสร้างบ้านจึงมีแนวโน้มที่จะไปสู่การพักอาศัยแบบคอนโดมิเนียมมากขึ้นเช่นกัน

 ด้วยไลฟ์สไตล์และรูปแบบการอยู่อาศัยแบบครอบครัวที่จำนวนคนน้อยลง ดังนั้น จึงมาดูกันว่าเทรนด์ของการอยู่อาศัยระหว่างบ้านและคอนโด มีจุดร่วมใดบ้างที่ผู้พัฒนาที่ดินมองเห็นตรงกันและนำมาใช้เป็นจุดขาย

 เนื่องจากพื้นที่มีน้อยลง การทำให้ห้องพักกลายเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่น ใช้พื้นที่น้อยแต่สามารถใช้สอยประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งแนวโน้มเทรนด์นี้จะได้รับความนิยมไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีกระแสที่กำลังได้รับความนิยม และยังมาแรงอยู่ก็คือ และมีทีท่าว่าจะเป็นที่นิยมไปอีกหลายปี "Back to Nature" การสร้างที่อยู่อาศัยแบบเป็นมิตรกับธรรมชาติ

 ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนหนุ่มสาวและวัยทำงานที่กำลังมองหาที่พักอาศัยรักตัวเอง รักสุขภาพ และรักธรรมชาติมากขึ้น นั่นทำให้เกิดกระแสการออกแบบคอนโดให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น เช่น เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้โครงการมากขึ้น มีสวนลอยฟ้า สวนแนวตั้ง รวมทั้งช่องรับลมและรับแสงธรรมชาติ การแบ่งพื้นที่ของบ้านทำสวน ปลูกผัก ปลูกสมุนไพร เพื่อให้ลูกบ้านได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่

 เทรนด์แรกนำมาสู่ความนิยมกระแสที่สองคือ "Eco Friendly" คือบ้านหรือคอนโดประหยัดพลังงาน

 แม้การอยู่คอนโดหลายคนคิดว่าชีวิตอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม แต่การออกแบบเพื่อประหยัดพลังงานยังคงจำเป็นเช่นกัน หลายโครงการชูจุดเด่นการออกแบบคอนโดที่โปร่ง โล่ง สบาย เน้นจุดขายที่เพดานสูง ทำให้ห้องสี่เหลี่ยมกว้างขวางไม่อึดอัด และเน้นการออกแบบเพื่อรับลมและความเย็นจากธรรมชาติ ซึ่งมาพร้อมกับวิวเมืองยามค่ำคืน ซึ่งการเลือกข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องจะเน้นไปที่การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและก่อมลภาวะน้อยที่สุด

 ต่อมาหนีไม่พ้นการให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี แม้จะสร้างที่อยู่อาศัยให้ใกล้ชิดธรรมชาติหรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ชีวิตในแต่ละวันง่ายขึ้น เทรนด์ของบ้านอัจฉริยะ หรือ "Home Tech" จึงยังคงเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่น่าสนใจ

 เพราะในอนาคตจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ การสร้างบ้านจะต้องคำนึงถึงการรองรับระบบเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาไปอย่างรุดหน้า นั่นหมายความว่าไม่ว่าบ้านหรือคอนโดจะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการอำนวยความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัย การควบคุมระบบต่างๆ จะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นรีโมทคอนโทรล สั่งการด้วยเสียง หรือสมาร์ทโฟน เป็นต้น

 สุดท้ายคือ การออกแบบที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ ปัจจุบันไทยมีสัดส่วนประชากรสูงวัยมากที่สุดในอาเซียน คิดเป็น 10% ของประชากรทั้งหมด ตามมาด้วยสิงคโปร์ 9% และอินโดนีเซีย 7% ซึ่งในอีก 10 ปีข้างหน้า ผู้สูงอายุของไทยจะมีจำนวนมากถึง 20% ของประชากรทั้งประเทศ และอีก 20 ปีข้างหน้าไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัว

 ดังนั้น การสร้างบ้านแห่งอนาคตจะต้องคำนึงถึงเทรนด์นี้ด้วย ดีไซน์และจุดขายที่เรามักจะเห็นในช่วงนี้คือคำว่า "Universal Design" คือการออกแบบที่เป็นมิตรกับคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะ กล่าวคือมีสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่สำหรับผู้สูงอายุมากขึ้น