posttoday

มิ่งขวัญ พัฒนวงศ์ เปลี่ยน...ให้ชีวิตดีขึ้น

13 มิถุนายน 2560

ผู้บริหารหญิงคนเก่งของธนาคารทหารไทย กับประสบการณ์และผลงานในสายงานการสร้างแบรนด์ การตลาด และการสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร

โดย...อณุสรา ทองอุไร ภาพ  กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร

เป็นเรื่องน่าภูมิใจที่ผู้หญิงไทยเรามีโอกาสเจริญเติบโตทางหน้าที่การงานได้ไม่แพ้ผู้ชายในองค์กรขนาดใหญ่หลายๆ แห่ง โดยเฉพาะในแวดวงการเงินก็มีให้เห็นหนาตาขึ้นทุกวัน วันนี้มีโอกาสได้สัมภาษณ์ผู้บริหารหญิงคนเก่งของธนาคารทหารไทย หรือ TMB มิ่งขวัญ พัฒนวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ส่งเสริมการตลาดลูกค้าบุคคล ดูแลทางด้านบัตรเครดิตและเดบิตของธนาคาร ที่เข้ามาร่วมงานกับธนาคารทหารไทยมานานเกือบ 4 ปี

เธอมีประสบการณ์และผลงานในสายงานการสร้างแบรนด์ การตลาด และการสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร  เธอทำงานด้านการตลาดมานานกว่า 20 ปี เริ่มต้นการทำงานด้านการตลาดกับบริษัท พรอคเตอร์แอนด์แกมเบิล (Procter & Gamble) โดยประจำสำนักงานที่ประเทศไทยและสำนักงานส่วนภูมิภาคที่สิงคโปร์ ตำแหน่งสุดท้ายคือ Country Marketing Manager ดูแลรับผิดชอบการตลาดผลิตภัณฑ์ P&G ในประเทศไทย

ก่อนจะผันตัวเองเข้าทำงานกับบริษัทประกันชีวิต อลิอันซ์ อยุธยา (Allianz Ayudhya) ที่มีหนึ่งในผู้ถือหุ้นหลักเป็นบริษัทชั้นนำทางการเงินของโลกอย่างอลิอันซ์ โดยรับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร ดูแลรับผิดชอบการสร้างแบรนด์ การประชาสัมพันธ์ การทำกิจกรรมเพื่อสังคม การตลาดผลิตภัณฑ์ การตลาดเพื่อสนับสนุนช่องทางการขาย และการสื่อสารการตลาดผ่านดิจิทัล

เธอบอกว่า ในยุคนับจากนี้ต่อไปเทคโนโลยีด้านการเงินจะมีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนไทยมากขึ้นทุกที ทุกคนต้องอยู่ในโลกดิจิทัล รวมทั้งรัฐบาลเองก็ประกาศนโยบายประเทศไทย 4.0 ทางธนาคารเองก็เตรียมแผนรองรับนโยบายนี้อย่างเต็มรูปแบบ

เนื่องจากรัฐบาลเองก็มีการกระตุ้นไม่ให้คนไทยใช้เงินสด เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณในการผลิตธนบัตรและเหรียญ โดยจะให้ลดการถือเงินสดลงไปเรื่อยๆ การทำธุรกรรมทางการเงินจะใช้ในรูปแบบของการโอนต่างๆ หรือบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ซึ่งต่างประเทศในแถบยุโรปและอเมริกานั้นเขาทำกันมานานแล้ว คือต่อไปนี้มีโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวคนเราก็สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ทุกที่ทุกเวลาเหมือนมีธนาคารส่วนตัว และใช้เทคโนโลยีในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด ทุกคนจึงต้องเปลี่ยนเพื่อให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น

ตัวเธอเองทำงานด้านการตลาดมาตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี เรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคมาตลอดเวลา เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงมาตลอด ตั้งแต่ยุคฟรีทีวีที่มีอิทธิพลมากที่สุด จนขณะนี้ที่มาเห็นว่าเด็กรุ่นใหม่แทบจะไม่ดูทีวีกันแล้ว เขาเสพและสื่อสารทุกอย่างผ่านโลกดิจิทัล การรับสื่อเปลี่ยนแปลงออกไปอย่างสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตาม หัวใจของการตลาดก็ยังคงเหมือนเดิม ก็คือต้องเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญ และต้องแบ่งแยกย่อยกลุ่มลูกค้าให้ตรงจุดมากขึ้น มองในมุมของลูกค้าให้มากขึ้น หลักการก็คือยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจไหนก็ตาม ถ้าเข้าใจ เข้าถึง ก็จะเจอว่าลูกค้าคือใคร อยู่ที่ไหน แล้วจึงออกผลิตภัณฑ์มาให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ลูกค้าไม่ชอบวุ่นวายนั่งเขียนใบฝากใบถอน เบื่อหน่ายในการเสียค่าธรรมเนียมยุบยิบ ลูกค้าไม่เข้าใจว่าทำไมโอนข้ามเขตต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม

“เราจึงเป็นธนาคารแรกที่ไม่ต้องเขียนใบฝากถอนหน้าเคาน์เตอร์ ไม่เสียค่าธรรมเนียมข้ามเขต หรือโอนต่างธนาคาร การรับเงินคืนเมื่อใช้บัตรกดเงินสดไม่เสียค่าธรรมเนียม หรือการชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ก็ฟรีค่าธรรมเนียม ซึ่งยอดการใช้จ่ายพวกนี้รวมๆ กันแล้วเดือนหนึ่งก็ร่วมพันบาท  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระ เพิ่มความสะดวก และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ามากที่สุด ยิ่งธุรกิจบัตรเครดิตมีการแข่งขันกันสูงมากๆ ผู้บริโภคคนหนึ่งๆ มักจะถือบัตรเครดิตกันคนละ 2-4 ใบ ดังนั้นทุกธนาคารจึงต้องหากลยุทธ์ว่าทำอย่างไรให้ลูกค้าหยิบบัตรเครดิตของธนาคารเราเป็นใบแรก เป็นบัตรที่อยู่ในใจลูกค้าเสมอ ซึ่งการแข่งขันนั้นดุเดือดขึ้นทุกวัน” เธอกล่าวอย่างจริงจัง

ในปีที่ผ่านมาสามารถสร้างการเติบโตของฐานลูกค้าใหม่ได้ถึง 27% และตั้งเป้าการเติบโตปีนี้ที่ 40% แม้ธุรกิจบัตรเครดิตจะมีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้นทุกวัน แต่ประโยชน์จะตกเป็นของผู้บริโภคมากที่สุด เพราะจะมีโปรโมชั่นใหม่ๆ มาให้เลือกเสมอ โดยล่าสุดบัตรทีเอ็มบีก็ออกโปรโมชั่น ผ่อน 0% นาน 3 เดือน ทุกรายการทุกวงเงินที่ใช้ทันที รวมทั้งแต้มสะสม 1 แต้ม ทุก 10 บาท ขณะที่บัตรอื่นต้อง 25 บาท 1 แต้ม เรียกว่าลูกค้าจะได้ประโยชน์มากที่สุดทั้งบัญชีเพื่อใช้และเพื่อการออม  รวมทั้งส่งเสริมเรื่องการออมด้วยการให้ดอกเบี้ยเงินฝากสูงแบบไม่มีขั้นต่ำและไม่กำหนดเวลา

“ที่ถือเป็นไฮไลต์ที่สุดก็คือ บัตรเครดิตทีเอ็มบีสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะกลุ่มมิลเลนเนียม ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ในการซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่มักไม่มีโปรโมชั่นผ่อนชำระ 0% เหมือนกับร้านค้าออฟไลน์ ดังนั้น บัตรเครดิตทีเอ็มบีและบริการทีเอ็มบี โซกู๊ด จึงเข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ได้อย่างลงตัว เพราะทุกการใช้จ่ายออนไลน์ ลูกค้าสามารถเลือกรายการที่ต้องการผ่อนชำระโดยไร้ดอกเบี้ยได้ด้วยตนเอง”

นี่เป็นสิ่งที่เธอต้องคิดเพื่อลูกค้า การตลาดเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าโลกหรือเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่ผู้บริโภคต้องมาเป็นที่หนึ่งเสมอ ถือเป็นเรื่องสนุกที่ต้องคิดอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ ทำให้ไม่หยุดนิ่ง ต้องแยกแยะบัตรให้มีความหลากหลาย ให้สิทธิประโยชน์ที่ตรงใจผู้บริโภคครบทุกกลุ่มเป้าหมาย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของทุกคน

มิ่งขวัญ พัฒนวงศ์ เปลี่ยน...ให้ชีวิตดีขึ้น


ทางด้านหลักการทำงาน เธอบอกว่า "ต้องยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ไม่ว่าจะทำตลาดสินค้าอะไรก็ตาม รวมทั้งผู้บริหารที่ดีควรทำให้เป็นแบบอย่างที่ดีของลูกน้อง รับฟังข้อมูลทุกด้าน ให้ความสำคัญกับทีมงาน และสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ส่งเสริมลูกน้องให้พัฒนายิ่งขึ้นไป"

เธอมองภาพตัวเองในอนาคตอันใกล้ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้านี้ ก็ยังคงทำงานทางด้านการตลาดต่อไป เพราะเป็นสายงานที่รักและมีความถนัด หากได้ทำงานที่รักที่ชอบก็จะมีความสุขกับการทำงานและได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าไปทำงานที่ไม่ถูกใจ

สำหรับแม่แบบในการทำงานของเธอก็คือเจ้านายเก่าที่ P&G คุณอรพิม มิลินทสูต ที่เป็นนักการตลาดที่เก่งและมีวิสัยทัศน์กว้างไกล และเป็นผู้หญิงไทยคนแรกที่ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารที่ดูแลภูมิภาคของ P&G แม้จะเป็นเจ้านายที่ดุ ทำงานด้วยยาก แต่ก็สอนและให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกน้องเสมอ

เธอเป็นแบบฉบับของผู้หญิงยุคนี้ ที่ Work Hard and Play Hard เวลางานคือทุ่มเทเต็มที่ แต่เมื่อพักเธอจะออกเดินทางไปท่องเที่ยวในที่แปลกใหม่ที่ไปยากๆ และลุย อย่างทริปล่าสุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเธอไปดูแสงเหนือที่ประเทศรัสเซีย ในขณะที่อุณหภูมิติดลบถึง 30 องศา ซึ่งเธอจะเดินทางไปกับเพื่อนขาลุยกันเอง หรือการเดินทางไปทิเบต ผ่านเมืองลาซา ไปเบสแคมป์ที่เอเวอเรสต์ ที่ระดับความสูงกว่าน้ำทะเลถึง 5,800 ฟุต

โดยเธอจะเดินทางปีละ 2 ครั้ง ปลายปีนี้เธอตั้งใจจะเดินทางกลับไปดูแสงเหนืออีกครั้ง เพราะถือว่าเป็นการชาร์จแบตและให้รางวัลตัวเอง  เนื่องจากการเดินทางสำหรับเธอคือการสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต เธอคิดว่าคนเราควรใช้ชีวิตให้มีความหลากหลายแง่มุม เพราะโลกคือการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด

ก่อนหน้านี้เธอมักจะเขียนเรื่องท่องเที่ยวไปลงตามนิตยสารต่างๆ บ้าง เพราะชอบเขียนและมีงานอดิเรกคือการถ่ายรูป แต่ช่วงหลังการเขียนเรื่องท่องเที่ยวลดน้อยลงไปมาก เหลือเพียงการถ่ายรูปเพียงอย่างเดียว ถือได้ว่าการถ่ายรูปคืองานอดิเรกของเธอ

นอกจากนี้ ยังเป็นอาจารย์พิเศษที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ สอนวิชา Advance Marketing Communications (Marketing PR) ให้แก่นิสิตชั้นปริญญาตรีและปริญญาโท มาตั้งแต่ปี 2006 จนถึงปัจจุบัน

ทางด้านการศึกษานั้น เธอจบการศึกษา ปริญญาโทด้านการตลาดจากมหาวิทยาลัยโคเวนทรี ประเทศอังกฤษ ประกาศนียบัตรวิชาชีพการตลาดขั้นสูงจาก The Chartered Institute of Marketing ประเทศอังกฤษ ปริญญาตรีเกียรตินิยม จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ