posttoday

บาสเตียน เทรลแคท โอกาสการลงทุนที่ไม่ได้มีแค่ในประเทศ

24 ตุลาคม 2559

คนไทยส่วนมากยังคงจำกัดการลงทุนทางธุรกิจไว้เพียงแค่ในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

โดย...โยธิน อยู่จงดี ภาพ ทวีชัย ทวัชปกรณ์

“คนไทยส่วนมากยังคงจำกัดการลงทุนทางธุรกิจไว้เพียงแค่ในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งที่จริงแล้วยังมีอีกหลายประเทศในโลกที่น่าลงทุน ซึ่งประเทศเหล่านี้ให้ผลตอบแทนทางภาษี สิทธิด้านหนังสือเดินทางแก่นักลงทุน และสิทธิการเป็นพลเมือง หน้าที่ของเราก็คือให้คำปรึกษาเรื่องการลงทุนและดูแลด้านกฎหมายต่างๆ แก่นักลงทุนเหล่านี้จนกว่าจะประสบความสำเร็จ” บาสเตียน เทรลแคท หุ้นส่วนผู้จัดการบริษัท ฮาร์วีย์ ลอว์ กรุ๊ป กล่าว

เทรลแคท เป็นนักกฎหมายที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการโยกย้ายถิ่นฐานเพื่อการลงทุน เขาเป็นชาวฝรั่งเศสโดยกำเนิด ครอบครัวของเขามีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย มีธุรกิจของครอบครัวที่พี่น้องต่างก็ช่วยกันดูแลกันไปตามความถนัดและความสามารถของแต่ละคน ซึ่งการที่เขามีธุรกิจเล็กๆ ในครอบครัวนั้นทำให้เขาได้เห็นปัญหาในการดำเนินธุรกิจบางอย่างโดยเฉพาะเรื่องกฎหมายซึ่งไม่มีใครในครอบครัวมีความถนัดในเรื่องนี้ และถ้าเขารู้กฎหมายเขาก็จะช่วยเหลือธุรกิจของเขาได้ เทรลแคทจึงคิดว่า นี่คือหนึ่งในสิ่งที่จะช่วยทำให้ธุรกิจของครอบครัวเดินหน้าได้ดี จึงเลือกที่จะเรียนต่อด้านกฎหมายธุรกิจและทำให้เขามีความอยากรู้ว่าที่มาที่ไปของกฎหมายแต่ละประเทศว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร จึงเริ่มต้นที่จะศึกษากฎหมายของแต่ละประเทศอย่างจริงจัง

เริ่มต้นทำงานในสำนักงานกฎหมายขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศจีน จนกระทั่งออกมาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับ ฮาร์วีย์ ลอว์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นสำนักงานกฎหมายจากประเทศแคนาดา ที่ดูแลในเรื่องช่วยเหลือทางกฎหมายกับนักลงทุนข้ามชาติและคนที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศโดย เทรลแคทเป็นพาร์ตเนอร์ดูแลในภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด

บาสเตียน เทรลแคท โอกาสการลงทุนที่ไม่ได้มีแค่ในประเทศ

 

ปัญหาของนักลงทุนไทย

“จากประสบการณ์ของผมปัญหาใหญ่สำหรับนักลงทุนข้ามชาติชาวไทย ส่วนใหญ่จะรักประเทศไม่ว่าจะไปลงทุนที่ไหนก็จะมีปัญหาที่ทำให้ต้องกลับมาตั้งฐานที่เมืองไทยอีกครั้ง เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความพร้อมในทุกด้าน อยู่สบาย ลงทุนง่าย พูดจาภาษาเดียวกัน และมักจะมีปัญหามากที่สุดในเรื่องของวัฒนธรรมที่เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในการลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน

“จนกระทั่งถึงเวลาที่การแข่งขันในประเทศมีสูงเกินไป จนต้องมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ซึ่งต้องแข่งขันในตลาดโลกก็มักจะมองการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว เมียนมา อินโดนีเซีย แต่การลงทุนในอเมริกาและ ยุโรปนั้น เรียกได้ว่านักลงทุนไทยมีความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในประเทศต่างๆ ในแถบยุโรปเหล่านี้น้อยมาก

“ถ้ารู้จักส่วนมากก็จะรู้จักแค่ประเทศใหญ่ๆ อย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ซึ่งตลาดของประเทศเหล่านี้เรียกได้ว่าเต็มเกือบหมดแล้ว ทั้งที่มีอีกหลายประเทศในยุโรปซึ่งเป็นประเทศเล็กๆ แต่มีกำลังซื้อและความต้องการสูง รวมทั้งรัฐบาลของประเทศเหล่านี้เองก็ได้เสนอผลตอบแทนให้กับนักลงทุนข้ามชาติเข้ามาลงทุน อาจจะอยู่ในรูปแบบของภาษี หรือแม้กระทั่งเป็นพลเมืองมีพาสปอร์ต ผลพลอยได้ที่ตามมาก็คือการที่ประเทศยุโรปรวมกันเป็นอียู พลเมืองของประเทศเหล่านี้มีสิทธิในเรื่องการลงทุน และเดินทางในยุโรปโดยไม่ติดข้อกฎหมายและการขอวีซ่า

“ผมมองว่าปัญหาของนักลงทุนไทยอีกอย่างหนึ่งก็คือพาสปอร์ตไทยนั้น มีความยุ่งยากในการขอวีซ่าอย่างมาก ซึ่งพาสปอร์ตไทยมีไม่กี่ประเทศที่สามารถเข้าออกได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า จึงมีความยุ่งยากในการเตรียมและขอเอกสารกับสถานทูต บางทีนักลงทุนต้องการความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนตารางการเดินทางในต่างประเทศ ซึ่งบางทีต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ ในการขอวีซ่าเข้าในแต่ละประเทศ อาจทำให้คุณเสียโอกาสทางธุรกิจนั้นๆ ไป

“แต่ถ้านักลงทุนไทยไปลงทุนในยุโรปและได้เป็นพลเมืองของที่นั่น หรือถือพาสปอร์ตของยุโรป เวลาทำติดต่อประสานงานทางธุรกิจ ก็จะลดความยุ่งยากในการขอวีซ่า ยกตัวอย่างเช่นประเทศไซปรัส จะให้สิทธิพิเศษกับนักลงทุน ในการปลอดภาษีเพื่อให้นักลงทุนเข้ามาลงทุน เพียงแค่เข้ามาตั้งบริษัทแม่ มีการจ้างงานคนในประเทศของเขา และก็จะได้สิทธิในการเข้าไปลงทุนในประเทศอื่นๆ แต่โดยมากแล้วก็ไม่ค่อยมีปัญหากับนักลงทุนเท่าไหร่แต่ถ้าเกิดปัญหาก็เพียงแค่หาสำนักงานกฎหมายที่มีความรู้กฎหมายในประเทศนั้นเข้ามาให้ความช่วยเหลือกับนักลงทุนให้ได้

“ประเทศที่น่าลงทุนอีกประเทศหนึ่งที่ให้สิทธิกับนักลงทุนก็คือประเทศแคนาดา ประเทศแคนาดาเป็นประเทศที่พลเมืองของเขานั้นสามารถเดินทางเข้าอเมริกา ยุโรป และกลุ่มประเทศสมาชิกอื่นๆ โดยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าได้ แคนาดาก็จะมีโปรแกรมหนึ่งที่ชักชวนนักลงทุนเข้ามาลงทุนโดยได้สิทธิเป็นพลเมืองของแคนาดาที่จะได้รับสิทธิพิเศษเช่นเดียวกับคนที่ได้เกิดที่แคนาดาทุกประการ เพียงแต่การลงทุนเพื่อให้ได้เป็นพลเมือง โดยปกติอาจจะต้องใช้เวลาทำงานใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นประมาณ 10 ปี ถึงจะได้ขอเป็นพลเมือง แต่การลงทุนคือการลัดขั้นตอนร่นระยะเวลาให้ได้สิทธินั้นในทันที”

แนะนำการลงทุนสำหรับมือใหม่

เทรลแคท ให้คำแนะนำสำหรับนักลงทุนชาวไทยต่อว่า สำหรับนักลงทุนใหม่ประเทศแคนาดาเป็นประเทศหนึ่งที่น่าลงทุนมากที่สุดเพราะแคนาดาเป็นประเทศใหญ่ มีภูมิประเทศที่สวยงาม สิ่งแวดล้อมน่าอยู่ มีคุณภาพชีวิตทั้งด้านสาธารณสุข และการศึกษาที่ดี แต่ประชากรของประเทศเขามีน้อยมาก เขาจึงต้องการนักลงทุนที่ช่วยเข้าไปลงทุนในประเทศโดยให้สิทธิทางพลเมืองเป็นการตอบแทน และประโยชน์ต่างๆ แก่นักลงทุนอย่างมาก อย่างเช่นถ้าจะลงทุนในแคนาดาเริ่มต้นการลงทุนประมาณ 12 ล้านบาท ก็จะได้ใบอนุญาตทำงานในแคนาดา หลังจากได้ใบอนุญาตอีกประมาณ 6 เดือน ก็สามารถขอใบที่อนุญาตให้มีถิ่นพำนักในแคนาดาได้ และอีกประมาณ 3 ปี ก็สามารถขอเป็นพลเมืองแคนาดาได้ทันที ในเรื่องของการลงทุนก็มีหลายรูปแบบตั้งแต่เริ่มต้นลงทุนธุรกิจใหม่ที่แคนาดาเลย หรือจะหาคนท้องถิ่นเข้าไปร่วมลงทุนกับเขาก็ได้เช่นกัน เพียงแต่ขอให้เกิดการจ้างงานเกิดขึ้นเท่านั้น เพราะบางคนก็แค่อยากจะเอาเงินไปลงทุนทำกำไรแต่ไม่รู้จะลงทุนทำอะไรก็มีตัวเลือกในการลงทุนนี้เช่นกัน นอกจากนี้ยังให้ผลประโยชน์กับครอบครัวที่สามารถส่งลูกเรียนในโรงเรียนของเขาในราคาที่เหมือนพลเมืองของเขาได้ทันที อย่างที่ทราบกันดีว่าระบบการศึกษาในต่างประเทศนั้นค่อนข้างจะดีกว่าของไทยอยู่มาก

บาสเตียน เทรลแคท โอกาสการลงทุนที่ไม่ได้มีแค่ในประเทศ

 

กล้าเสี่ยงเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

“แนวคิดในการใช้ชีวิตของผมได้มาจากพ่อ และพ่อก็ได้มาจากปู่มาอีกที เราสอนกันมาว่าเวลาจะทำอะไรต้องทำด้วยตัวเองอย่าได้รอความช่วยเหลือคนอื่น แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือการที่เราจะต้องรู้จักตัวเอง รู้ว่าเราเป็นใคร อย่างไรและทำอะไรได้บ้าง บางครั้งชีวิตเราก็ต้องกล้าที่จะเสี่ยงออกจากคอมฟอร์ตโซน เพราะการที่เราใช้ชีวิตอยู่ในคอมฟอร์ตโซนจะทำให้เรารู้สึกสบาย จนขี้เกียจที่จะขวนขวายต่อสู้พัฒนาตัวเอง แต่ก่อนผมก็เป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งที่ทำงานรับเงินเดือนไปเดือนๆ ทำให้เสร็จไปตามสิ่งที่ได้รับมอบหมาย สบายไม่มีอะไรต้องกังวลนอกจากเรื่องงาน

“จนกระทั่งวันหนึ่งผมนึกภาพตัวเองในอีก 3-5 ปีข้างหน้าว่าจะทำอะไร แล้วผมก็พบว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องเริ่มทำในตอนนี้เลยเพื่อในอีก 5 ปีข้างหน้า จะได้ไปยืนอยู่จนจุดนั้น และผมเองก็มีความพร้อมแล้วที่จะเผชิญโลกกว้างข้างหน้า เขาจึงตัดสินใจที่จะออกมาทำธุรกิจกับเพื่อนในประเทศไทย เพราะครั้งหนึ่งผมได้มีโอกาสเดินทางมาที่ประเทศไทยและได้เห็นบางอย่างที่คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสทางธุรกิจที่จะได้เข้ามาลงทุนที่นี่จึงเป็นที่มาที่ทำให้เขามาเปิดสาขาในประเทศไทย

“นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่จะช่วยทำให้คุณประสบความสำเร็จในชีวิตได้ก็คือการออกไปดูโลกกว้าง สมัยผมยังเด็กผมเกิดในหมู่บ้านเล็กๆ ในประเทศฝรั่งเศส ผมมีความคิดว่าวันหนึ่งผมอยากจะออกเดินทางไปดูโลกข้างนอกว่าเป็นอย่างไร ตอนอายุ 14 ผมออกเดินทางไปประเทศอเมริกา อายุ 18 เดินทางไปอินเดียออกเดินทางไปคนเดียวผจญภัยคนเดียว และสมัยที่เคยทำงานให้กับบริษัทอื่นผมก็ได้มีโอกาสเดินทางไปฮ่องกงและประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียทำให้ผมได้เรียนรู้เรื่องความแตกต่างของวัฒนธรรมว่า แต่ละประเทศเป็นอย่างไร และที่สำคัญก็คือทำให้เขาได้เข้าใจตัวเองมากขึ้นจากการเดินทาง เวลาทำงานก็ได้ใช้ประสบการณ์ในชีวิตของการเดินทางไปต่างประเทศเข้ามาช่วยในการทำงานมากขึ้นในเรื่องการติดต่อประสานงานกับแต่ละประเทศเขาต้องทำอย่างไรบ้าง

“สุดท้ายเมื่อเราตัดสินใจเลือกเส้นทางของตัวเองแล้ว ลองเลือกเส้นทางที่เสี่ยงมากที่สุดดูเพราะบางครั้งเส้นทางที่เสี่ยงจะให้ผลตอบแทนกับเราสูงกว่า เส้นทางที่ดูง่ายและสบายที่สุดสำหรับเรา พยายามอย่าล้มเลิก เดินหน้าจนกว่าจะประสบความสำเร็จให้มากที่สุด เราเองก็เคย ผมมีประสบการณ์ในการเปิดธุรกิจใหม่ที่มีแต่อุปสรรคมากมายโดยเฉพาะวันเปิดตัวบริษัทในประเทศไทยเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน เป็นวันแรกที่มีการชุมนุมทางการเมือง ประเทศไม่สงบ ลูกค้าก็มีน้อยแต่เขาเองก็ไม่ย่อท้อ ทุกเช้าผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับความหวังว่าจะต้องดีขึ้น พยายามให้มากขึ้น จนถึงวันนี้ทุกอย่างเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี ธุรกิจได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ามียอดเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ผมคิดว่าสุดท้ายแล้วชีวิตก็ต้องก้าวเดินต่อไปด้วยความหวัง ความฝัน และความพยายามของเราเอง”