posttoday

ชาตรี ตรีศิริพิศาล เริ่มต้นที่ศูนย์เป็นเศรษฐีพันล้าน

20 มิถุนายน 2559

เรากล้าที่จะแนะนำกับคนไทยทุกคนว่า เราควรจะได้รู้จักกับชายที่ชื่อ ชาตรี ตรีศิริพิศาล หรือ ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้บริหาร อีโวลฟ์ เอ็ม เอ็ม เอ

โดย...โยธิน อยู่จงดี

เรากล้าที่จะแนะนำกับคนไทยทุกคนว่า เราควรจะได้รู้จักกับชายที่ชื่อ ชาตรี ตรีศิริพิศาล หรือ ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้บริหาร อีโวลฟ์ เอ็ม เอ็ม เอ (Evolve mixed martial arts) สถาบันสอนศิลปะการป้องกันตัวแบบผสมสาน ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และโปรโมเตอร์จัดการแข่งขัน เอ็มเอ็มเอ วันแชมเปี้ยนชิพ (One Championship) เขาเป็นลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น เคยเรียนมวยไทยที่ค่ายศิษย์ยอดธง และได้ทุนเรียนต่อ
ที่ด้านบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา เขาเคยยากจนถึงขนาดอดมื้อกินมื้อกับครอบครัว ก่อนที่เขาจะเรียนจบแล้วกู้เงินเพียง 2,000 เหรียญสหรัฐ มาเปิดบริษัทซอฟต์แวร์จนสามารถขายกิจการต่อได้ถึง 40 ล้านเหรียญสหรัฐ และตอนนี้เขามีธุรกิจหลายอย่างในความดูแลรวมมูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ

มวยไทยสอนให้สู้ชีวิต

“ผมกล้าพูดได้เลยว่าชีวิตผมมีวันนี้ได้เพราะมวยไทย มวยไทยไม่ได้สอนให้ผมต่อสู้ป้องกันตัวเป็น แต่มวยไทยสอนให้ผมมีจิตใจที่แข็งแกร่ง ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหาต่างๆ ครั้งหนึ่งในวัยเด็กผมเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย มีทุกอย่างพร้อม มีครอบครัวที่อบอุ่น คุณพ่อผมเป็นคนไทย คุณแม่เป็นชาวญี่ปุ่น มีน้องชายอีก 1 คน

“ธุรกิจคุณพ่อตั้งอยู่ที่พัทยา ที่นั่นมีค่ายมวยไทยศิษย์ยอดธง ผมสนใจจะเรียนมวยไทยมากจึงเดินทางไปเรียน ท่ามกลางเพื่อนๆ ในวัยเดียวกันแต่มีฐานะยากจนกว่าผมมาก ผมเห็นความลำบากและความฝันของเด็กที่มาเรียนมวยไทยด้วยความฝันอย่างหนึ่งว่าจะลืมตาอ้าปากได้ด้วยการขึ้นชกเลี้ยงชีพ

ชาตรี ตรีศิริพิศาล เริ่มต้นที่ศูนย์เป็นเศรษฐีพันล้าน

 

“ตอนอายุประมาณ 18 ปี ธุรกิจคุณพ่อล้มละลาย เราเสียทุกสิ่งที่มี คุณพ่อหนีหายไปจากชีวิตพวกเรา ทิ้งให้ผมอยู่กับแม่และน้องชาย ตอนนั้นผมกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวโดยไม่ทันตั้งตัว ผมตัดสินใจพาแม่และน้องไปอยู่ที่อเมริกา ตอนนั้นผมเรียนปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยทัฟส์ และต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผมพาทุกคนมาอาศัยอยู่ในหอพักด้วยกัน ทุกวันผมมองแม่และน้องอยู่อย่างลำบากและเขียนบันทึกความฝันของผมหลายอย่างลงในสมุดจด โดยฝันแรกของผมคือต้องมีธุรกิจของตัวเองให้ร่ำรวยเพื่อแม่และน้องอยู่สบาย ฝันที่ 2 ผมจะต้องมีครอบครัวที่อบอุ่น ฝันที่ 3 ของผมคือการมีค่ายมวยไทยเป็นของตัวเอง

“ระหว่างเรียนผมทำงานเป็นโค้ชมวยไทยตามยิมต่างๆ เอาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ถ้าไม่มีวิชามวยไทยที่ติดตัวมาจากเมืองไทยผมคงไม่มีวันนี้แน่นอน พอเรียนจบผมไปจับธุรกิจซอฟต์แวร์และขายกิจการต่อได้เงินมาประมาณ 40 ล้านเหรียญ ซื้อบ้านให้แม่และน้องอยู่ที่นิวยอร์ก ตอนนั้นความฝันของผมบรรลุไปแล้วหนึ่งอย่าง ต่อมาผมทำงานในบริษัทวิเคราะห์การลงทุน

“ตอนนั้นก็มีรายได้ดีมากแต่ดีกว่านั้นคือมีเจ้านายให้ทุนกับผมมาเปิดบริษัทวิเคราะห์การลงทุนประมาณ 500 ล้านเหรียญ ผมบริหารจนกลายเป็นบริษัทวิเคราะห์การลงทุนที่ใหญ่ที่สุดบริษัทหนึ่งของโลกไปแล้ว ต่อมาผมเริ่มลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์และเปิดธุรกิจอีกหลายอย่างของตัวเอง”

ชาตรี ตรีศิริพิศาล เริ่มต้นที่ศูนย์เป็นเศรษฐีพันล้าน

ย้อนกลับมาหาสุขที่แท้จริง

เมื่อเป้าหมายชีวิตหลักของเขาได้ประสบความสำเร็จไปแล้ว เขาจึงกลับมาเปิดสมุดบันทึกความฝันที่เหลืออยู่ แล้วพบว่าเขาฝันอยากเป็นนักมวยไทย อยากมีค่ายมวยเป็นของตัวเอง แม้มีเงินมากแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกมีความสุขในแบบที่ตัวเองอยากจะเป็น จึงตั้งค่ายอีโวลฟ์ เอ็ม เอ็ม เอ แล้วนำนักมวยไทยระดับแชมป์ที่เป็นศิษย์ยอดธงด้วยกันมาเป็นโค้ชในค่าย จากนั้นประมาณ 2 ปีเขาจัดรายการ วันแชมเปี้ยนชิพ (One Championship) รายการต่อสู้เอ็มเอ็มเอที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีผู้ชมมากกว่าพันล้านครัวเรือนชมรายการแข่งขันของเขา จนชาตรีได้รับรางวัลผู้ทรงอิทธิพลในกีฬาเอ็มเอ็มเอ แห่งเอเชีย จาก เว็บไซต์ ยาฮู สปอร์ต (Yahoo Sport) และเอ็มเอสเอ็น สปอร์ต (MSN Sport)

ชาตรีทิ้งท้ายให้กับทุกคนว่า เคล็ดลับที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิตเฉพาะตัวของเขาโดยมีมวยไทยเป็นต้นแบบคือ ข้อแรกเราต้องทำสิ่งที่เรารัก เมื่อเราทำสิ่งที่รัก เราจะทำได้ดีและมีความสุข เหมือนกับที่เขารักมวยไทยและวันหนึ่งก็กลับมาเปิดค่ายมวยไทยได้ฝึกมวยไทย ทุกวันนี้เขามีความสุขมากกับธุรกิจที่ทำ ข้อ 2 เราควรศึกษาชีวิตของคนที่ประสบความสำเร็จมาก่อนว่าเขาประสบความสำเร็จได้อย่างไรเขาเจออุปสรรคและผ่านปัญหานั้นมาด้วยวิธีไหนและนำประสบการณ์มาปรับใช้กับตัวเรา

ข้อที่ 3 ต้องทำชีวิตให้ดีขึ้น 1% ในทุกวันใหม่ที่มาถึง ต้องตั้งเป้าหมายว่าวันนี้เราจะทำอะไรให้ดีขึ้น เราจะทำงานให้เร็วขึ้น 1% เราจะให้เวลากับครอบครัวมากขึ้น เราจะทำอะไรบ้างในชีวิตให้ดีขึ้นอีกนิดและเมื่อดีขึ้น วันหนึ่งเราจะประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำ ข้อ 4 ต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี พยายามพาตัวเราเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมดี คบมิตรที่ดี เพื่อนที่ดีเป็นสิ่งสำคัญมากถ้าคุณมีเพื่อนที่ดีเขาจะพาคุณไปในทางที่ดี และชาตรีเองก็บอกว่าเขาโชคดีมากที่ได้อยู่ท่ามกลางเพื่อนๆ ที่ดีทุกคน และข้อสุดท้ายคุณต้องสู้อย่ายอมแพ้ทุกอย่างมีอุปสรรคหมด ถ้าคุณมีใจสู้ไม่ย่อท้อคุณพยายามคุณจะพบหนทางแห่งความสำเร็จ เหมือนที่มวยไทยสอนให้เราสู้เป็นไม่ใช่แค่กาย
ที่แข็งแรงแต่ใจเราก็ต้องแข็งแกร่งด้วยเช่นกัน