posttoday

ธีรเดช เมธาวรายุทธ หลากเรื่องราว ... ขอเคลียร์

26 สิงหาคม 2558

มีโอกาสได้สนทนากับพรีเซนเตอร์คนใหม่ล่าสุดของ การ์นิเย่ เมน พาวเวอร์ ไวท์ อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ : เสกสรร โรจนเมธากุล

มีโอกาสได้สนทนากับพรีเซนเตอร์คนใหม่ล่าสุดของ การ์นิเย่ เมน พาวเวอร์ ไวท์ อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในนักแสดงของละครเรื่อง “ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ” (28 ส.ค.นี้ ออนแอร์เป็นตอนแรก) ในบรรยากาศสบายๆ หลังฝนพรำ

วันนี้เราคุยกันในหลายเรื่องราวเลยทีเดียว

“ผมเข้าวงการบันเทิงมาเกือบๆ 3 ปีแล้ว สิ่งที่ผมได้รับคือประสบการณ์ในการทำงาน กับการทำงานกับคนที่ไม่รู้จัก เจอคนใหม่ๆ เจอประสบการณ์ใหม่ๆ ถามว่าดีทั้งหมดมั้ย ก็ดีแทบทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้าที่จะเข้าวงการบันเทิง ผมไม่เคยคิดเข้าวงการบันเทิงเลย แอนตี้เสียด้วยซ้ำ คิดแค่ว่าเรียนจบอยากเป็นสจ๊วด ทำงานเก็บตังค์เพื่อเรียนการบิน เป็นนักบิน”

นอกจากธีรเดชจะแอนตี้วงการบันเทิง เขายังเคยปฏิเสธโอกาสดีๆ ที่ผู้ใหญ่มอบให้ แต่เมื่อคำพูดของคุณพ่อที่บอกเขาว่า คนเราไม่ได้มีโอกาสแบบนี้เข้ามาง่ายๆ เขาจึงคว้าโอกาสที่ได้มานั้นไว้ในที่สุด

ธีรเดช เมธาวรายุทธ หลากเรื่องราว ... ขอเคลียร์

 

“ผมเริ่มต้นจากการเรียนการแสดง เรียนอยู่ 1 ปี ที่พอได้เรียนรู้ศาสตร์ของการแสดง ผมก็ได้ค้นพบว่ามันสนุก มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดไว้ จากที่เคยแอนตี้ก็ไม่แอนตี้อีกเลย กลับชอบและรักในการแสดงเสียด้วยซ้ำ เวลาอ่านบทแล้วได้ถ่ายทอดผ่านการแสดง มันมีความสุข ผมคิดว่าที่ผมแอนตี้ เป็นเพราะผมไม่รู้ว่าการแสดงเป็นยังไง การทำงานหน้ากล้องเป็นยังไง พอได้รู้ก็เปลี่ยนความคิดไปโดยทันที”

กับการมีชื่อเสียงเงินทองมากมายในเวลาอันรวดเร็ว ธีรเดชเผยว่า โชคดีที่เขามีครอบครัวที่ดี ที่คอยช่วยจัดการรายรับรายจ่าย และคอยสอนในเรื่องของการทำงาน การวางตัว การมีวินัย และการใช้จ่าย

“ถามว่าเมื่อเข้าวงการบันเทิงมาแล้วเป๋ไปบ้างมั้ย อืม ก็อาจจะมีบ้าง อาจมีติดกับดักของการมีชื่อเสียงไปบ้าง แต่ผมก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ไปช็อปปิ้ง เดินห้าง ดูหนัง เหมือนเดิม และที่สำคัญ ผมไม่ทิ้งเพื่อนเก่า ไม่ยึดเอาเพื่อนใหม่ในวงการบันเทิงมากจนเกินไป ยังไปไหนมาไหนกับเพื่อนเก่าเหมือนเดิม รู้สึกสบายใจ เฮไหนเฮนั่น”

กับการตกเป็นข่าวคู่จิ้นกับรุ่นพี่ในวงการอย่าง จอย-รินลณี ศรีเพ็ญ ธีรเดชเผยว่า อาจเป็นเพราะยังไปไหนมาไหนด้วยกัน มีงานอีเวนต์ที่ทำด้วยกัน รวมทั้งมีแฟนคลับที่คอยตาม คอยถ่ายรูป ทำให้มีรูปคู่ออกมาบ่อยๆ

ธีรเดช เมธาวรายุทธ หลากเรื่องราว ... ขอเคลียร์

 

“การคบหากับพี่จอย พี่จอยเป็นคนที่ให้คำปรึกษาได้ดี เขาเป็นทั้งเพื่อนและเป็นทั้งพี่ที่สนิท อยู่ด้วยแล้วสบายใจ กับการที่แฟนๆ อยากให้ตกล่องปล่องชิ้น ก็เป็นเรื่องของอนาคตและคนสองคน ผมเคยมีแฟนมาคนเดียว คบกันนานมากตั้งแต่สมัยมัธยม แต่พอเลิกกันไปก่อนเข้าวงการบันเทิง เราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ผมเชื่อว่าคนเราจะเป็นแฟนกันต้องรู้จักนิสัยใจคอกันให้ดีพอ ไม่เจอกันปุ๊บๆ แล้วเป็นแฟนกันเลย ส่วนเรื่องอายุหรือฐานะไม่ใช่ส่วนสำคัญ ความรักและความเข้าใจกันสำคัญกว่า เอาเป็นว่าอนาคตผมอยากจะมีครอบครัวที่มั่นคง ดูแลพ่อแม่ได้”

ตอนนี้ ธีรเดชเผยว่า เขาอยากทำงานให้เต็มที่ สลับกับการไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ส่วนเรื่องเรียนต่อระดับปริญญาโท เขาคิดว่าคงไม่ เพราะทุกวันนี้การทำงานในวงการบันเทิงก็ทำให้เขาได้เรียนรู้โลกกว้าง และได้ทำงานกับคนทุกวัยอย่างแท้จริง

“ผมอยากเรียนสายวิชาชีพมากกว่า เช่น การเรียนทำอาหาร ผมชอบทำอาหาร โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่น เพราะมันทำยาก และวัตถุดิบค่อนข้างแปลก อนาคตก็อาจจะเปิดร้านอาหาร นอกจากนี้ ผมยังสนใจเรียนภาษาอังกฤษและภาษาจีนควบคู่กันไป ผมคิดว่าภาษาถือเป็นสิ่งสำคัญของคนในยุคนี้”

ธีรเดช เมธาวรายุทธ หลากเรื่องราว ... ขอเคลียร์

 

เมื่อให้ธีรเดชเปรียบตัวเองเป็นหนังสือสักเล่ม เขาจะเป็นหนังสืออะไรดี ธีรเดชหยุดคิด ก่อนตอบว่า เขาคงเป็นหนังสือการ์ตูนตลก “ผมเป็นคนตลก เป็นคนคิดบวก ไม่เครียด สบายๆ แม้ชีวิตจะพบเจอปัญหาก็ไม่เคยคิดทำให้ปัญหาเล็กๆ กลายเป็นปัญหาใหญ่ๆ หรือถึงแม้จะพบเจอปัญหาที่หนัก ที่ใครมองว่ามันเป็นปัญหาใหญ่ ผมก็ไม่เคยคิดว่ามันเป็นปัญหาใหญ่”

กับการตกเป็นข่าวว่าเขาเป็นเกย์ธีรเดชเผยว่า ถึงเขาจะไม่ใช่ก็จริง แต่เขาก็ต้องย้อนกลับมามองดูตัวเองว่าเขามีการกระทำหรือการแสดงออกที่บ่งบอกว่าเป็น จนทำให้คนเข้าใจผิดหรือเปล่า ถ้ามี ก็พยายามปรับปรุงตัว ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป ยังเป็นธีรเดชคนเดิม

กับข่าวที่ว่าเขากำลังเป็นเบอร์หนึ่งของช่อง หรือข่าวเกาเหลาพระเอกร่วมช่องคนหนึ่ง (เต้ย พงศกร) เพื่อแย่งชิงเป็นเบอร์หนึ่งของช่อง ธีรเดชเผยว่า ข่าวนี้ไม่จริง และข่าวแบบนี้ก็ไม่ดีเอาเสียเลย คนที่ตกเป็นข่าวร่วมกับเขาคือเพื่อนกัน ซึ่งเมื่อมีข่าวแบบนี้ก็มีกระเทือนใจบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไร

“ผมไม่อยากให้มีข่าวแบบนี้เลย เพราะจะทำให้เพื่อนมองหน้ากันไม่ติด ทุกวันนี้เรื่องข่าวถ้าไม่ใช่เรื่องจริงก็ต้องปล่อยไป มุ่งมั่นทำงานดีกว่า ถ้าเหนื่อยกับงานก็ให้คิดเสียว่า มาทำงานแล้วได้เงินมั้ย ถ้าได้ก็ไม่ต้องบ่นและอย่าขี้เกียจ ทุกอย่างที่ทำมันได้กับตัวเราทั้งนั้น”