ไพลิน อัมพุช สมาร์ท มั่นใจ สไตล์ผู้บริหารแฟชั่น

โดย...ปอย  ภาพ ประกฤษณ์ จันทะวงษ์

สาวสวยลุคเวิร์กกิ้งเกิร์ล ดูสมาร์ทมั่นใจและเตรียมพร้อมสำหรับวันทำงานในแผนกแฟชั่นของห้างสรรพสินค้าเจ้าใหญ่ของเมืองไทย บลู-ไพลิน อัมพุช ผู้จัดการส่วน Corporate Image เดอะมอลล์ กรุ๊ป วันนี้ได้รับผิดชอบงานเพิ่มขึ้นกับตำแหน่ง Brand Manager ร้านแฟชั่นอิมพอร์ตจากเกาหลี “สไตล์นันดา (Stylenanda)” ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ เปิดช็อปเต็มรูปแบบที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ เป็นอีกร้านยอดฮิตของวัยรุ่นสตรีทลุคเคป๊อป 

หลังเรียนจบด้านแฟชั่นดีไซน์ จากมหาวิทยาลัยคิงส์ตัน ประเทศอังกฤษ ด้วยความที่ไฟกำลังคุโชน ร้อนๆ อุ่นๆ ไพลินไม่รีรอกับการเริ่มต้นทำงานทันทีทันใดโดยขออนุญาต คุณอาแอ๊ว-ศุภลักษณ์ อัมพุช เริ่มงานในหน้าที่บายเออร์ และด้วยความที่เป็นสาวสวยตระกูลดัง ทำงานจริงจัง เธอจึงเป็นสาวน้อยวัยทำงานหน้าใสบุคลิกสง่างามในวงการแฟชั่นที่น่าจับตามอง

การเริ่มต้นต้องศึกษาแบรนด์ให้รู้จริง

“ก่อนหน้านี้สินค้าจำพวกแฟชั่น-แอกเซสซอรี่ ห้างจะนำเข้าจากยุโรป เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส และส่วนใหญ่เป็นลักซ์ชัวรี่แบรนด์ เมื่อห้างใหม่จะเปิดขึ้นมาในต้นปีนี้ บลูจึงเสนอไอเดียอยากขยายฐานธุรกิจให้กว้างขึ้นไปที่กลุ่มวัยรุ่น สินค้าราคาจับต้องได้มากขึ้น จึงศึกษาแบรนด์ที่ mass ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย

...เพื่อนๆ ที่ไปโซลก็ชอบไปช็อปปิ้งแบรนด์นี้ ก็เลยบินไปดูถึงเกาหลีแล้วก็เห็นว่าคนไทยเราไปเข้าคิวซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ในร้านนี้เยอะมากเลยนะคะ” ไพลิน เริ่มต้นสนทนาที่มาที่ไปของร้านเก๋ไก๋ใหม่ “สไตล์นันดา” บนห้างใหญ่หรูหราล่าสุดของกรุงเทพฯ

การทำงานในสายแฟชั่น ไพลิน บอกว่าสนุกมากโดยเฉพาะงานบายเออร์ ต้องคลุกคลีได้รู้ได้เห็นสินค้าใหม่ๆ ก่อนใคร การศึกษาเทรนด์ก็มีอะไรสดๆ มานำเสนอให้เลือกอยู่เสมอ แรงบันดาลใจในการทำงานจึงเกิดขึ้นตลอดเวลาเลยก็ว่าได้

“งานแฟชั่นถ้ามีไอเดีย แล้วต้องทำทันทีเลยค่ะ อย่ามัวเก็บไว้ในหัวนาน นอกจากเราอาจไม่ได้ทำแล้วคนก็อาจทำแซงเราไปก่อนก็ได้ (บอกพลางหัวเราะเบาๆ)  

เพราะการค้าปลีกวันนี้มีการแข่งขันกันสูงมากนะคะ แบรนด์ดังใครก็อยากนำเข้ามาขาย ตอนเริ่มคุยกับซีอีโอของแบรนด์นี้ ก็อายุ 30 กว่าปีเท่านั้น ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่อายุไม่แตกต่างจากเรามาก แต่ก็เป็นปัญหาด้านการสื่อสาร ส่งแฟกซ์ อีเมล ไปเป็นอาทิตย์ก็ยังไม่มีการตอบกลับมาเลยนะคะ ซึ่งบลูคิดว่าเขาไม่รู้จักแฟชั่นในเมืองไทย เขา(ยัง)ไม่รู้จักเรา และไม่มีแผนกที่รองรับมาพูดคุยธุรกิจกับเรา จึงคุยกันไม่รู้เรื่องเลยค่ะ

 

บลูจึงต้องแก้ไขปัญหานี้โดยบินไปถึงเกาหลีเลยค่ะ เพื่อแนะนำตัวและแสดงว่าเราต้องการแบรนด์เขาจริงๆ แล้วเมื่อเขาได้เห็นโครงการของ ดิ เอ็มควอเทียร์ เขาก็จัดแผนกอินเตอร์เนชั่นแนลทีมใหม่รองรับการทำงานกับเราทันที

หลักในการทำงานคือ ขยัน มุ่งมั่น ไม่ย่อท้อ ไม่ยอมแพ้กับปัญหาอะไรง่ายๆ ถ้าตั้งเป้าอะไรไว้จะต้องทำให้ได้ค่ะ คุณอาแอ๊วพูดเสมอค่ะว่า ต้องทำงานแบบทรีดี คือ Devotion ศรัทธา Determination มุ่งมั่นค้นหา Diligent ขยัน

คนทำงานรอบข้างจะพูดถึงบลูว่า... ดื้อในทางที่ดี (บอกพลางหัวเราะชอบใจ) เรื่องนี้น่าจะได้มาจากคุณพ่อ (สุรัตน์ อัมพุช) ซึ่งท่านก็ไม่ได้สอนอะไรมากมายเพียงแต่บอกลูกๆ เสมอค่ะว่า สิ่งที่ทำงานยากที่สุดคือคน การบริหารคนจึงต้องใช้ทั้งพระเดชและพระคุณ 

หลังจากเรียนรู้เรื่องบายเออร์ บลูกำลังจะขอลองอะไรใหม่ๆ ต่อไปอีกค่ะ เช่น เลือกแบรนด์ใหม่นำเข้ามา หรือไปทำอีกแผนกคือ Consignment ก็จะเป็นลักษณะการจำหน่ายสินค้าแฟชั่นอีกแบบหนึ่งที่มีให้เราเรียนรู้ไม่จบนะคะ”

‘สไตล์ยูนีค’ ของผู้บริหารงาน

สายแฟชั่น

“บลูคลุกคลีอยู่กับแฟชั่น อยู่กับการแต่งตัวตั้งแต่เด็กๆ เลยค่ะ เพราะคุณแม่ (นันท์นภัส หวันปาเต๊ะ) เปิดห้องเสื้อเล็กๆ รับออร์เดอร์ตัดเสื้อผ้าให้เฉพาะลูกค้าเพื่อนฝูงกันเท่านั้น แล้วคุณแม่ก็ชอบวาดรูป ชอบอาร์ต ก็เหมือนส่งต่อดีเอ็นเอทางศิลปะมาให้ลูกสาวด้วย ตอนไปเรียนปริญญาตรีที่อังกฤษ ก็จะมีการเริ่มเรียนวิชาพื้นฐานก่อน ทั้งไฟน์อาร์ตโฟโต้ กราฟฟิก และแฟชั่นดีไซน์ ซึ่งเราสามารถทำงานออกแบบได้คะแนนดีที่สุด จึงตัดสินใจเรียนทางด้านนี้

อยู่ในวงการแฟชั่น ทำให้การแต่งตัวต้องสอดคล้องกับการอยู่กับความสวยงาม บลูถือว่าสำคัญนะคะ เสื้อผ้าดีไซน์ในสไตล์มินิมอล แต่ก็ไม่ใช่เรียบจนไม่มีอะไรเลย แต่แพตเทิร์นต้องมีความยูนีคเน้นซีลูเอตที่ชัดเจนอย่างเช่น สูทตัวนี้ก็ถือว่ามีการออกแบบที่แตกต่างนะคะ ไม่มีแขน 1 ข้าง มีความเป็นแฟชั่นเปรี้ยวมั่นใจแอบเซ็กซี่เล็กน้อย (บอกพร้อมรอยยิ้ม)

แต่ท็อปตัวบนดูเฉี่ยวแล้ว การแมตช์กางเกงก็เน้นความเรียบสลิมฟิต เพราะสูทจะมีความโอเวอร์ไซส์นิดๆ ค่ะ เสื้อผ้าที่นำเข้ามาเราก็ไม่ได้จำกัดการแต่งตัวไว้ที่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งเช่นกันนะคะ เราอยากให้ทุกคนสนุกกับการมิกซ์ & แมตช์ อย่างเช่น สไตล์นันดา ก็มีกิมมิคในการแต่งแบบเลเยอร์ซ้อนเลเยอร์และเสื้อผ้าโอเวอร์ไซส์

 

วันยุ่งๆ บลูแก้ปัญหาเรื่องไม่มีเวลาแต่งตัวด้วยการหยิบเชิ้ตมาใส่ แต่ไม่เลือกเชิ้ตเรียบร้อย  ดีไซน์เก๋ๆ แปลกๆ สไตล์นี้จะต้องมาเลยค่ะ

เครื่องประดับในวันทำงาน บลูแทบไม่ใส่เลยนะคะ หรือใส่น้อยมากๆ แหวน 1 วงติดนิ้วก็ออกจากบ้านได้แล้ว ลุคผู้บริหารไม่แต่งตัวเยอะค่ะ บลูชอบความทะมัดทะแมง แต่สิ่งที่ให้ความสำคัญมากๆ คือ รองเท้า ชอบแบรนด์อิตาลี Manolo Blahnik กับ YSL มีความคลาสสิกเวลาไปทำงานเลือกใส่ส้นไม่สูงมากนักนะคะ หรือรองเท้าเปรี้ยวเฉี่ยว Christian Louboutin ก็เลือกใส่ไปงานอีเวนต์ซึ่งต้องเป็นรองเท้าส้นสูงเท่านั้นค่ะ อย่างน้อยต้อง 4 นิ้วอัพ

ตั้งแต่มาทำแบรนด์ สไตล์นันดา มีแต่คนทักว่าเราหน้าตาเหมือนนางแบบเกาหลี ไม่เลยนะคะ ไม่เหมือนค่ะ” ไพลิน บอกย้ำประโยคทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงหัวเราะเขินๆ เล็กๆ เหมือนจะบอกว่าบุคลิกภายนอกหวานสวยแบบนี้ แต่ขอวางตัวเป็นหญิงแกร่งในวงการแฟชั่นค้าปลีกที่ไม่แพ้รุ่นคุณอาแอ๊ว น่าจะลุคสมาร์ทกว่าเยอะ