ช่างผมนักปั้น ญาณอมรวัตร จัดของ

โดย...แมงโก้หวาน ภาพ เสกสรร โรจนเมธากุล

หากใครเคยเดินสยามสแควร์วัน ชั้น 3 คงได้เห็นร้านตัดผมชื่อ Phoenix at One ที่จะมีลูกค้ามานั่งรอตัดผมเต็มหน้าร้าน เลยอดไม่ได้ต้องหาโอกาสไปรู้จักเจ้าของร้านผู้แสนจะอัธยาศัยดีเยี่ยม “แจ็ค” ญาณอมรวัตร จัดของ ยอดช่างผมระดับแถวหน้าของเมืองไทยที่เหล่าดารา คนดัง ไฮโซชอบไปใช้บริการ ซึ่งแมงโก้หวานได้แอบรู้มาว่าลูกค้าที่มาจองคิวทำผมที่ร้านไม่ง่าย ต้องอดทนพร้อมที่จะรอคอย เพราะลูกค้าแน่นเอี้ยดตลอด

แล้วก็รู้มาอีกว่า ก่อนที่เขาจะมาเป็นช่างผมคิวทองในวันนี้ผ่านการต่อสู้ชีวิตอย่างหนัก หลายช่วงชีวิตกำลังจะรุ่งกับธุรกิจร้านทำผมก็มีเหตุการณ์ให้สะดุดล้ม แต่ด้วยความที่ไม่เคยยอมแพ้ ปัจจุบันเขามีร้านตัดผมแบรนด์ดังที่มีคำว่า Phoenix เป็นเครื่องหมายการค้าการันตีทั้งหมด 3 ร้าน ได้แก่ ร้าน Phoenix ที่สยาม ร้าน We by Phoenix สาขา 2 ที่อนุสาวรีย์ฯ และ Phoenix at One สาขา 3 ที่สแควร์วัน โดยมีเพื่อนทั้งในวงการและนอกวงร่วมทุนด้วย

“ร้านแรกที่สยาม ลูกค้าตั้งชื่อให้ Phoenix แปลว่า นกที่บินออกมาจากเปลวไฟ ซึ่งต้องบอกว่าธุรกิจร้านทำผมไม่ใช่จะคืนทุนในพริบตา คนที่มาลงทุนต้องเข้าใจ ร้านนี้ขาดทุน 6 เดือนติด มีแต่รายจ่ายท่วมรายรับ แต่วันหนึ่งจำได้ไม่เคยลืม เพื่อนๆ 6-7 คนนัดกันบอกจะเลี้ยงข้าว แต่จุดประสงค์ของพวกเขาคือรวมเงินเอามาช่วย เพราะรู้ว่าเราต้องหมุนทำร้าน ชื่นใจมาก ไม่คิดว่าจะมีคนที่รักเรายินดีช่วยเราขนาดนั้น

กว่าจะอยู่ตัวและเริ่มคืนทุนก็ผ่านไป 2-3 ปี ระหว่างทางมีรายจ่ายมาตลอด แต่พอทุกอย่างเข้าที่ มีกำไรก็เปิดสาขาสอง และสาขาสามตามลำดับ มีเพื่อนๆ ทั้งในวงการและนอกวงการร่วมทุนเป็นหุ้นส่วนด้วย อย่างคุณตู่ (ปิยวดี มาลีนนท์) คุณหญิง (สุกัญญา ไรวินท์) คุณเก๋-ชลลดา (เมฆราตรี) และรุ่นพี่ที่เป็นช่างแต่งหน้ารุ่นใหญ่คอยดูแลในเรื่องความเรียบร้อย”

แจ็คบอกว่า การมีหุ้นส่วนที่ดีเหมือนการเติมเต็มซึ่งกันและกัน ทำให้ชีวิตการทำงานมีแต่ความสุข ซึ่งเขามาทำงานทุกวัน โดยก่อนหน้านี้หลายๆ ปี ไม่มีวันหยุดจนลูกค้าขนานนามว่า กะเทยมาราธอน ตอนหลังมีเด็กเยอะขึ้นเลยหยุดปีละ 5 วัน ช่วงสงกรานต์ให้เด็กๆ พักและเขาก็ถือโอกาสไปพักผ่อนด้วย

เมื่อถามถึงผลงานของการเป็นช่างผมมือโปร แจ็คบอกว่า เขาไม่มีผลงานอะไรที่เป็นความภูมิใจในชีวิตมากไปกว่าการได้ปั้นคนปั้นเด็กๆ ให้เป็นช่างผม สร้างคนเป็นๆ ให้มีความสามารถในการทำผมระดับมืออาชีพ

“แจ็คภูมิใจกับการปั้นเด็กนะ ขอย้ำว่า ปั้นเด็กจริงๆ ไม่มีวาระซ่อนเร้น แจ็คถือคติสมภารย่อมไม่กินไก่วัด วิธีการสอนของแจ็คจะเก็บทุกรายละเอียด และเข้มงวดเรื่องวินัยมากๆ ช่างใหม่จะเข้างานเวลา 12.00-24.00 น. เลิกดึกเพราะต้องสอนทำผมหลังเลิกงาน เราให้เขาโดยไม่คาดหวัง สอนทุกอย่าง ถ่ายทอดให้หมดทั้งความรู้ เทคนิคต่างๆ เช่น ปรับบุคลิกภาพ สอนจิตวิทยาการคุยกับลูกค้าไม่ให้เครียด ถ่ายทอดให้หมด จะได้มากได้น้อยขึ้นอยู่กับตัวเด็กเอง”

พร้อมยกเด็กปั้นในยุคแรกให้ฟังหลายคน เช่น ช่างตั้ม ตอนมาใหม่ๆ เป็นคนที่ไม่ชอบคนแพร่ (แต่แจ็คเป็นคนแพร่) เพราะมีอดีตฝังใจกับครอบครัว ต้องปรับตัวเรียนรู้นิสัยใจคอ จนในที่สุดเขาเรียนรู้งานและพัฒนาตัวเองจนเก่งมีฝีมือ ทุกวันนี้ทำงานกันมา 16 ปี ชีวิตเริ่มจากศูนย์ แต่รายได้ของเขาต่อเดือนขึ้นเลข 6 หลักไปแล้ว

“คนนี้รักพี่แจ็คมาก ใครว่าแจ็คไม่ได้ ตั้มแทบจะชกหน้าคนพูดเลย เขาจะบอกว่าอย่ามาว่าแม่นะ คิดดูว่าแจ็คจะภูมิใจกับเด็กคนนี้มากขนาดไหน”

 

อีกคนที่ภูมิใจคือ ช่างเจี๊ยบ ช่างผมนักปั้นเล่าว่า ทำงานด้วยกันมา 12-13 ปี มาตอนแรกหน้าตาบ้านๆ ไม่สวยเลย ต้องปรับบุคลิกและสมาธิอย่างมาก เพราะเวลาลูกค้าคุยด้วยเขาจะไม่มีสมาธิ ตัดผมไม่ได้ ต้องหยุดคุยถึงตัดได้ กว่าจะตัดเสร็จแต่ละหัวต้องใช้เวลานาน แต่พอฝึกไปเรื่อยๆ จากช่างหน้าตาบ้านๆ ก็กลายเป็นช่างที่ดูดีและมีลูกค้าติดใจมาก รายได้ไม่ต้องพูด ขยับแตะเลข 6 หลักเข้าไปทุกที

“บางคนมาคนเดียว เช่น ช่างอาร์ม จากมุกดาหาร เคยไปเรียนทำผมมาหมดค่าเรียนไป 2-3 แสนบาท แต่ทำอะไรยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน พอมาอยู่ที่ร้านแจ็คช่วยปั้น ปรับบุคลิก อยู่ๆ ไปแล้วมีความสุขเลยไปพาน้องมาอีกสามคน และเมื่อเร็วๆ นี้ แม่ของ 3 หนุ่มก็แวะมาเยี่ยมฝากดูแลลูกชาย แม่กับพี่สาวเห็นก็แฮปปี้ เพราะมีงานทำ มีที่อยู่สบาย ทำไปทำมาตอนนี้บ้านแจ็คกลายเป็นครอบครัวใหญ่ มีช่างตามไปอยู่กันอีก 5 คน” ช่างแจ็คเล่าไปยิ้มไป

นอกจากการปั้นช่างผมหน้าใหม่ขึ้นมาประดับวงการช่างผมไทยแล้ว ร้านของเขาก็ได้รับความนิยมอย่างมากจากลูกค้า เห็นได้จากยอดการสั่งสีผมจากบริษัทชั้นนำ ร้านของเขาเป็นหนึ่งในห้าของประเทศ ซึ่งบางร้านเป็นแฟรนไชส์มีสาขามากมาย แต่ถ้าเทียบกันร้านต่อร้าน แค่ร้านเขาร้านเดียวก็มียอดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ เหนืออื่นใดเขาได้รับรางวัลนักธุรกิจดีเด่นแห่งปี 2558 จากสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ด้วย

ปั้นเก่งขนาดนี้ อยากให้ปั้นแมงโก้หวานสักคนจัง