ระนาด กับ กรกันต์ สุทธิโกเศศ คือพรสวรรค์และพรแสวง
จากการเล่นละครเวทีในรั้วมหาวิทยาลัย สู่การเป็นนักร้องระดับมือรางวัล จนมาถึงบทบาทการเป็นนักแสดงละครเวทีแนวมิวสิคัล
โดย...ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน
จากการเล่นละครเวทีในรั้วมหาวิทยาลัย สู่การเป็นนักร้องระดับมือรางวัล จนมาถึงบทบาทการเป็นนักแสดงละครเวทีแนวมิวสิคัล ที่ผ่านสายตาผู้ชมมาแล้วสองเรื่อง จนมาถึงเรื่องล่าสุด โหมโรง เดอะ มิวสิคัล อาร์ม-กรกันต์ สุทธิโกเศศ ผู้รับบทเป็น ศร ตัวละครเอกของเรื่องที่ต้องตีระนาดกว่า 10 เพลง
วันนี้เขากับระนาดถือเป็นของคู่กัน และเป็นภาพจำที่คนที่ได้ดูละครเวทีเรื่องนี้การันตีว่า นี่คือซิกเนเจอร์ของอาร์ม-กรกันต์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ล่าสุดเพิ่มรอบการแสดงไปจนถึงวันที่ 16 พ.ค. ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น 7 สยามสแควร์วัน)
“หลายคนแปลกใจที่อาร์มสามารถตีระนาดได้ จริงๆ แล้ว อาร์มเรียนระนาดมาตั้งแต่ชั้น ป.2 ที่โรงเรียนเซนต์ดอมินิก และระนาดก็คือเครื่องดนตรีชิ้นแรกในชีวิต และเรียนอย่างจริงจังตอน ป.4 ยิ่งครูผู้สอนพาอาร์มไปดูสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงระนาดที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยิ่งทำให้เรามุมานะที่จะเรียนและซ้อมให้หนัก ซ้อมทุกวันเลย ถามว่าเก่งมั้ย ก็ไม่ได้เก่งครับ แต่พอเล่นได้ จนขึ้นชั้น ม.1 อาร์มก็เริ่มห่างจากระนาด และหันไปเอาจริงเอาจังเรื่องร้องเพลง”
สำหรับการได้มารับบท ศร ในโหมโรง เดอะ มิวสิคัล เกิดจากการที่กรกันต์ไปเรียนการแสดงกับครูเงาะ-รสสุคนธ์ กองเกตุ
“อาร์มได้ยินครูเงาะพูดกับเพื่อนของอาร์มที่เป็นผู้ช่วยครู ว่าให้เขาไปจัดการเรื่องแคสติ้งนักแสดงเรื่องโหมโรง เดอะ มิวสิคัล อาร์มก็หูผึ่ง รีบขอครูเงาะว่าขอมาแคสติ้งด้วย ซึ่งก่อนไปแคสติ้ง อาร์มก็ไปติวเข้มเรื่องการตีระนาด พอมาแคสติ้ง ก็ตีระนาดก่อนเลย หลังจากนั้นก็แคสติ้งเรื่องร้อง เรื่องการแสดง พอแคสติ้งเสร็จ กำลังขับรถกลับบ้าน ครูเงาะก็รีบโทรมาบอกว่าอาร์มได้ อาร์มก็ตกใจว่าผลมันออกมาเร็วมาก แต่พอหายช็อก ก็ดีใจมากที่ได้รับบทนี้”
หลังจากนั้นชีวิตของกรกันต์ก็อยู่กับระนาด โดยเขากลับไปเรียนระนาดอย่างหนักกับคุณครูหลากหลายท่านร่วม 8 เดือน มีระนาดวางข้างเตียง เพื่อที่จะได้ซ้อมก่อนนอน
“พอเข้าบท ฉากเด็ดคือฉากประชัน ถือเป็นฉากที่ยากสุดและเครียดสุด โชคดีที่ซ้อมฉากนี้ก่อนใครเพื่อน สำหรับเพลงระนาดที่อาร์มต้องเล่นทั้งหมดก็ประมาณ 10 เพลง และทุกรอบ ก็ตีระนาดจริงครับ (ยิ้ม)”
มาจนถึงวันนี้ ภาพจำของกรกันต์ที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ นั่นคือใส่ชุดไทยตีระนาด “ผมรักเครื่องดนตรีชิ้นนี้นะครับ ผมอยากให้คนไทยรู้สึกว่าระนาดไม่ใช่ของสูง หรือของที่แตะต้องแล้วผีจะหลอก หากย้อนกลับไปในยุคสมัยที่ระนาดเฟื่องฟู มันก็ได้รับความนิยมไม่ต่างจากกีตาร์หรือเปียโน ที่คนชอบเล่นกัน พอมาในวันนี้ เมื่ออาร์มได้ถ่ายทอดการตีระนาดผ่านละครเวทีเรื่องนี้ แล้วคนดูได้ชมได้ฟังแล้วเกิดความรู้สึกว่า เครื่องดนตรีชิ้นนี้มีความไพเราะ อาร์มถือว่าประสบผลสำเร็จแล้วในความรู้สึก”
หลังจากนี้ เมื่อละครเวทีเรื่องนี้ปิดฉากลง กรกันต์เผยว่า หากมีเวลาว่าง เขาจะยังคงตีระนาดต่อไป และกับงานละครเวที หากเขามีโอกาสได้เล่น เขาก็จะเล่นไปเรื่อยๆ อยู่ในสายละครเวที แนวมิวสิคัลไปอย่างนี้เรื่อยๆ
“ผมได้เรียนรู้ว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นชีวิต มันคือการลากเส้นต่อจุด จากการเรียนตีระนาดในวันนั้น มันก็นำเรานำมาสู่การเล่นละครเวทีเรื่องโหมโรง เดอะ มิวสิคัลในวันนี้”