posttoday

บทบาทใหม่ ของ ใหม่ เจริญปุระ

11 ธันวาคม 2557

หากใครได้ติดตามรายการ “ร้องสู้ไฟ Keep Your Light Shining Thailand” ที่ออกอากาศทางช่อง 7 สี ทุกวันเสาร์ เวลา 16.15-17.30 น.

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร

หากใครได้ติดตามรายการ “ร้องสู้ไฟ Keep Your Light Shining Thailand” ที่ออกอากาศทางช่อง 7 สี ทุกวันเสาร์ เวลา 16.15-17.30 น. คงรู้ดีว่ารายการนี้เป็นรายการประกวดร้องเพลงที่ใช้ “ไฟ” เป็นตัวบ่งบอกว่าผู้เข้าแข่งขันจะได้ไปต่อหรือไม่ อีกทั้งยังได้สาวทรงพลังอย่าง “ใหม่ เจริญปุระ” มาเป็นกรรมการตัดสินอีกด้วย (ถือเป็นครั้งแรกของเธอ)

วันนี้เราจะมาคุยถึงบทบาทใหม่ ของผู้หญิงชื่อใหม่ ซึ่งเป็นบทบาทที่ท้าทาย และให้อะไรกับชีวิตของเธอได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

“อย่างที่รู้ๆ กันว่า ใหม่อยู่ในวงการนี้มานาน เพิ่งจะมีโอกาสเป็นกรรมการตัดสินครั้งแรก ยิ่งเป็นรายการจากต่างประเทศ ใหม่เลยต้องเตรียมทำการบ้านไม่เบาเหมือนกัน เพราะต้องการเฟ้นหาคนที่ดีที่สุด ใหม่เชื่อว่ารายการนี้จะได้นักร้องที่มีคุณภาพอีกคนหนึ่งมาประดับวงการบันเทิงอย่างแน่นอน”

ใหม่เผยว่า การที่เธอได้รับความไว้วางใจจากทางผู้จัดรายการให้มาทำรายการนี้ คือสิ่งที่ถูกเวลาเป็นที่สุดแล้ว “ใหม่คิดว่ามันเป็นโชคชะตา ฟ้าคงลิขิตให้ใหม่ได้มาทำงานชิ้นนี้แล้ว มันถึงเวลาของใหม่แล้ว (ยิ้ม)”

สิ่งที่เธอได้ค้นพบจากผู้เข้าแข่งขัน นั่นคือการได้เห็นแววตาอันมีประกายแห่งความฝัน และอยากจะก้าวมายืนอยู่ในจุดที่เธอยืนอยู่ ซึ่งเธอเชื่อว่า แววตาอันมีประกายนี้นี่แหละ จะนำพาผู้เข้าแข่งขันก้าวไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต

บทบาทใหม่ ของ ใหม่ เจริญปุระ

 

“เวลาใหม่ได้เห็นแววตาที่มีประกายของน้องๆ เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของน้องๆ ใหม่รู้สึกดีนะ แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วจะต้องมีคนได้ไปต่อ และไม่ได้ไปต่อ ใหม่ก็ยังอยากเห็นคนที่ไม่ได้ไปต่อ พึงรักษาแววตาอันมีประกายแห่งความฝันนี้ไว้ เพราะแม้เราตกรอบ มันไม่ได้แปลว่าชีวิตเราจะจบลงแค่ตรงนั้น คนที่ตกรอบก็เป็นคนที่มีความสามารถไม่แพ้คนที่ผ่านเข้ารอบ บางคนเป็นครูมาก่อน เขาก็สามารถเอาตรงนี้เป็นประสบการณ์ต่อเนื่องให้กับชีวิตเขาได้”

นอกจากได้เห็นแววตาอันมีประกายจากผู้เข้าแข่งขันแล้ว ผู้หญิงชื่อใหม่ ยังได้เห็นประกายไฟในตัวผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งเป็นประกายไฟที่พวกเขาต้องเอาไว้ใช้สู้ทั้งไฟในรายการ สู้ทั้งผู้แข่งขันที่มีประกายไฟในตัวไม่ต่างกัน

“ด้วยความที่รายการนี้มันพิเศษกว่ารายการอื่นตรงที่ว่า ผู้เข้าแข่งขันต้องฟาดฟันกันเอง ด้วยเพลงเดียวกัน บนเวทีเดียวกัน แล้วยังต้องร้องสู้ไฟ เพื่อให้ไฟมันส่องแสงสว่างให้กับเราจนจบเพลง ไม่ถูกดับไฟไปเสียดื้อๆ ซึ่งทางออกเดียวที่เราจะไม่ได้กลายเป็นคนที่ถูกดับไฟลง เราต้องร้องเพลงสู้กับไฟในตัวเอง เมื่อคุณอยู่บนเวทีแล้ว คุณต้องสู้จนสุดใจ ร้องเพลงให้เจิดจรัสและเปล่งประกายมากที่สุด แม้ว่าเพลงที่คุณถูกเลือกให้ร้อง จะไม่ใช่แนวเพลงที่คุณถนัด แต่ถ้าคุณมีความสุขกับการร้อง คุณจะลืมไปเลยว่าคุณกำลังร้องเพลงที่ไม่ถนัดอยู่ ซึ่งตั้งแต่ใหม่ทำรายการนี้มา ใหม่เห็นเลยว่า บางคนร้องเพลงดีมาก เตรียมการซ้อมเพลงของตัวเองมาดีมาก แต่อาจไปเจอเพลงที่ตัวเองไม่ถนัด ทำให้ประหม่า เลยทำให้ทำผลงานออกมาได้ไม่ดีพอ”

บทบาทใหม่ ของ ใหม่ เจริญปุระ

 

ใหม่เผยว่า เมื่อตัวเองได้มาทำรายการนี้ ทำให้เธอได้นึกย้อนไปถึงตอนที่เธอก้าวเข้ามาเป็นนักร้องน้องใหม่ ในวันนั้นเธอต้องต่อสู้ฟาดฟันกับการที่ผู้คนต่างจับตามองว่าเป็นดารามาร้องเพลง แล้วจะร้องได้ดีหรือเปล่า จะไปรอดหรือไม่

“ย้อนกลับไปในยุคนั้น ช่วงนั้นดารานางแบบนายแบบมาเป็นนักร้องกันเยอะ นักมวยยังมาเป็นนักร้องเลย (หัวเราะ) ทุกคนจะโดนจับตามมองกันมากว่า คุณไปต่อได้ไหม คุณสามารถเอาความเป็นดาราของคุณมาเจิดจรัสบนเส้นทางการเป็นนักร้องได้ไหม คนที่จะก้าวไปสู่จุดสำเร็จได้ มันต้องผ่านอะไรมามากมาย ต้องต่อสู้ทั้งกับไฟในตัวเอง และทั้งกับสปอตไลต์ที่ต่างจับจ้องมองมายังตัวคุณ”

มาที่เรื่องความรักของผู้หญิงคนนี้กันบ้าง หากใครติดตามเรื่องราวชีวิตของเธอผ่านสื่อโซเชียล
มีเดียอย่างอินสตาแกรม จะเห็นว่าเธอมีรูปที่เธอถ่ายกับเพื่อนคู่ใจ คลับคล้ายหญิงรักหญิง หาใช่หนุ่มรูปหล่อกล้ามใหญ่ไม่ ใหม่เผยว่า โปรดอย่าให้เธอต้องนิยามความหมายของความสัมพันธ์นี้เป็นอื่นใดเลย นอกจากคำว่า “กัลยาณมิตร”

“ใหม่เคยมีแฟนแบบสุดโต่ง วิ่งตามหาความรักมาก็เยอะ เพราะฉะนั้นตอนนี้ใหม่ขอเดินสายกลาง ไม่หวือหวาวูบวาบ มีความสุขกับครอบครัว กับเพื่อนๆ ที่เป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน ไม่หวังพึ่งใครนอกจากทำด้วยตัวเอง อยากได้อะไร ก็ซื้อหาด้วยตัวเอง ไม่เฝ้ารอให้ใครมาซื้อหาหรือมาดูแล”

ใหม่เผยว่า นอกจากรายการนี้ที่จะมีรอบตัดสินในวันที่ 27 ธ.ค.นี้ เธอก็จะมีคอนเสิร์ตใหญ่อยู่ 2 คอนเสิร์ต ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต The Masterpiece 30 ปี นิติพงษ์ ห่อนาค และคอนเสิร์ตขนนกกับดอกไม้

“ใหม่ร้องสู้ไฟ สู้จนสุดใจขาดดิ้นอย่างแน่นอน อย่าลืมมาเป็นกำลังใจให้ใหม่กันเยอะๆ นะคะ”