เรียกเธอว่า “เจ้าหญิง”

โดย...กองบรรณาธิการ

“เจ้าหญิง” คำนี้ช่างดูสูงส่ง งดงาม เลอค่าเหลือเกิน หากใครถูกเรียกว่าเจ้าหญิงนะคงจะปลาบปลื้มมิใช่น้อย เพราะเธอคนนั้นต้องคู่ควร แต่กว่าที่จะได้ชื่อว่าเป็นเจ้าหญิง ไม่ได้ง่ายๆ แค่บุญพาวาสนาส่ง...

‘หวานหวาน อรุณณภา’ เจ้าหญิงแห่งวงการนักปั่น

เวลามีคนมาเรียกเราแบบนี้ก็เขินนะคะ เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ได้ยิน (หัวเราะ) บางทีหวานรู้สึกว่า ถ้าได้ฉายาแบบนี้ หวานต้องมีฝีมือระดับได้เหรียญหรือเป็นทีมชาติมากกว่าไหม” นักแสดงและพิธีกรสาวหน้าสวย หวานหวาน-อรุณณภา พาณิชจรูญ บอกกับโพสต์ทูเดย์หลังเราป้อนคำถามว่ารู้สึกอย่างไรกับฉายาที่ใครๆ ยกให้เธอเป็นเจ้าหญิงแห่งวงการนักปั่น

หวานหวานถ่อมตัวว่า ถ้าในวงการนักปั่นจักรยานเธอถือเป็นน้องใหม่คนหนึ่ง ระยะเวลา 2 ปีจากวันที่เริ่มปั่น แต่มาเอาจริงเอาจังเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา ชนิดที่เรียกว่าถ้าไม่ลงแข่งก็ร่วมปั่นเกือบทุกสนาม นักแสดงสาวบอกว่า ที่มาของฉายานี้อาจจะเป็นเพราะช่วงที่เธอเริ่มปั่นออกต่างจังหวัด ซึ่งตอนนั้นผู้หญิงที่ปั่นจักรยานจริงจังมีจำนวนไม่มาก ประกอบกับอาชีพนักแสดงที่เธอทำอยู่ ทำให้มีคนจำได้ มาขอถ่ายรูปและบอกเล่ากันปากต่อปาก

“ภาพที่เขาจำเราได้ตอนนั้นคือ จากบทแม่ศรีเมือง ในเรื่องขุนศึก คนก็มาขอถ่ายรูปเยอะ มีคนมาทักเยอะว่าปั่นหนักนะทำไมไม่ดำ (หัวเราะ) แต่หวานก็แต่งตัวเต็ม อุปกรณ์พร้อม เพราะเราจริงจัง ปั่นไปพักหนึ่งโค้ชของหวานคือ ดร.เอก (ดร.ณัฐกฤษฎ์ ทิวไผ่งาม) ก็พยายามเพิ่มเป้าหมายของเราให้ท้าทายขึ้นเรื่อยๆ เช่น  พาไปขี่ขึ้นเขากรมหลวงชุมพร จ.ชลบุรี ซึ่งมีเนินชันที่สุดในภาคตะวันออก เป็นเนินซ้อมเวลาจะขึ้นเขาใหญ่หรือขึ้นดอย ก็จะฝึกจากตรงนี้ และคนก็เห็นหวานจากการขี่ฝึกแบบนี้ เพราะเราก็จะมีรูปถ่ายกับวิวสวยๆ ตลอด”

เส้นทางของเจ้าหญิงไม่ได้สวยหรือหอมหวานเหมือนชื่อ เพราะเธอเคยทั้งล้มได้รับบาดเจ็บมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ประสบการณ์เหล่านั้นก็เป็นเรื่องราวและจุดแรงบันดาลใจให้คนที่ติดตามเธอลุกขึ้นมาปั่นจักรยานบ้าง “หลายคนเวลาเจอกันเขาจะเดินมาบอกว่า เริ่มปั่นเพราะมีหวานเป็นตัวอย่าง เพราะเราก็ดูบอบบางนะในสายตาเขา แต่ก็ปั่นพิชิตยอดเขามาแล้วหลายที่ (หัวเราะ) เช่น ดอยสุเทพ ดอยแม่สลอง ม่อนแจ่ม ตอนแรกๆ ได้ยินแบบนี้เราก็คิดว่าเขาอวยหรือเปล่า แต่มีคนมาบอกกับหวานแบบนี้เยอะเหมือนกัน ซึ่งหวานก็ดีใจที่ทำให้เขาได้ทำในสิ่งที่อยากทำแต่ไม่กล้า และพอได้ทำแล้วเขาสนุกกับมันเหมือนที่เราสนุก”

“หวานว่า เราโตไปพร้อมกับจักรยานนะคะ เหมือนถ้าศักยภาพของเรายังไม่สูง ก็เหมาะกับรถระดับหนึ่ง แต่ถ้าเราพัฒนาร่างกายได้มากแล้ว จักรยานคู่กายเราก็ต้องมีศักยภาพที่สมน้ำสมเนื้อ และฉายาที่หลายคนมอบให้เป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่ทำให้หวานอยากทำให้ดีขึ้น คือการแสวงหาความรู้และความท้าทายใหม่ๆ หวานเริ่มศึกษาเรื่องจักรยานให้ลึกซึ้งมากขึ้น

เมื่อก่อนหวานไม่รู้ว่าจักรยานที่พุ่ง ไม่พุ่ง คือยังไง ขอบยาง ขอบล้อ อุปกรณ์อะไรไม่รู้เรื่องเลย ได้แต่กะพริบตาและยิ้มตอบไป แต่เมื่อหลายคนมองว่าเราเป็นผู้ที่คลุกคลีกับจักรยานมากคนหนึ่ง เราก็ต้องศึกษาหาข้อมูลให้มากโดยปริยาย เพราะเราก็ไม่อยากบอกข้อมูลที่ผิดให้กับเขา ตอนนี้ก็พอจะเขียนรีวิวเปรียบเทียบรุ่นหรืออุปกรณ์บางอย่างได้ เวลารีวิวก็จะพูดตรงๆ ไม่อวยว่าอันไหนดีเลิศ จะบอกเฉพาะเรื่องที่เราทราบ ถ้าเรายังไม่ได้ใช้ประสิทธิภาพของอุปกรณ์เต็มที่หวานก็จะบอกตรงๆ ว่าเรายังศึกษาไม่มากพอ”

เมื่อถามถึงทริปที่ประจำใจ หวานหวาน บอกว่า เธอลืมทริปขึ้นดอยอินทนนท์ไม่ลง เพราะเป็นช่วงปั่นแรกๆ ยังไม่คล่องตัวนัก แต่ได้สัมผัสกับความทรมานบันเทิง คืออยู่บนจักรยานนาน 4 ชั่วโมง ทั้งเหนื่อย ร้อน หายใจลำบาก ปวดเข่า ตะคริวกินไปหลายรอบ แต่พอทำสำเร็จ ขึ้นดอยได้เจออากาศดีๆ เท่านั้น “ฟิน!! และแฮปปี้กับชีวิตมาก (หัวเราะ)”

เจ้าของฉายาเจ้าหญิงวงการนักปั่น ทิ้งท้ายสำหรับสาวๆ ที่อยากปั่นจักรยานว่า ตอนนี้จักรยานเป็นมากกว่าการออกกำลังกาย “แต่มันคือไลฟ์สไตล์ หวานว่าจะปั่นแบบไหน เสือหมอบ แม่บ้าน หรือวินเทจ ก็เอาที่ชอบและแฮปปี้ อยากแนะนำว่า ให้ดูความคุ้มค่ากับความชอบ ถ้าเริ่มต้นยังไม่จริงจังก็เลือกรุ่นเบาๆ ไปก่อน ถ้าเก่งแล้วก็ขยับรุ่นเอาก็ไม่สาย ที่สำคัญต้องหาข้อมูลความปลอดภัย หมวกกันน็อก ถุงมือ และครีมกันแดดลืมไม่ได้ อีกอย่างหนึ่งสำหรับผู้หญิง เราจะต้องศึกษาเรื่องการซ่อมแซม หรือการถอดประกอบชิ้นส่วนจักรยานเองด้วย เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ทำเองเป็น อย่างน้อยถอดล้อ เปลี่ยนยางเองก็ต้องทำได้”

แต่สำหรับหวานหวาน เธอบอกสั้นๆ ว่า ถ้าหวานวิ่งได้ดีโอเคแล้ว อยากลองลงไตรกีฬาจริงๆ จังๆ ดูบ้าง

‘กวิสรา ปัทมสูต’ เจ้าหญิงแห่งแอนดรอยด์

ในโลกไอทีชื่อของสาวสวยเก่งอย่าง เก่ง-กวิสรา ปัทมสูต เป็นที่รู้จักกันในสมญา “เจ้าหญิงแห่งแอนดรอยด์” ซึ่งเจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า เธออาจจะเขินเล็กน้อยที่มีคนพูดยกย่องเธอเช่นนั้น แต่อีกทางก็น่ายินดีเหลือเกินที่เธอสามารถก้าวมาเป็นเจ้าหญิงได้ในโลกที่ตัวเองไม่ถนัด เก่ง เผยว่า เป็นพื้นที่ที่สาวตัวเล็กๆ อย่างเธอต้องพยายามอย่างมากหลายเท่าตัวเพื่อมีที่ทางอยู่ ณ จุดนี้

แรกเริ่มเธอเองก็คงเหมือนกับผู้หญิงทั่วๆ ไปชอบในความทันสมัยและหลงรักแกดเจ็ต ทำให้มีความสนใจและอยากถ่ายทอดเรื่องราวและประสบการณ์การทดลองใช้แกดเจ็ตต่างๆ ลงในคลิป และด้วยความสามารถของเธอ วันหนึ่งจึงถูกชักชวนจากพี่ๆ บล็อกเกอร์สายไอที ที่เรียกได้ว่าเชี่ยวในเรื่องแอนดรอยด์มากๆ ให้มาร่วมงานด้วย และนั่นเองทำให้เก่งเป็นที่รู้จักในฐานะพิธีกรสาวซ่าแห่งเว็บไอทียอดนิยม droidsans.com คอมมูนิตี้ชื่อดังแห่งโลกแอนดรอยด์

“เมื่อก่อนคนที่อยู่ในวงการไอทีเป็นผู้หญิงมีน้อย ยิ่งเรื่องของการใช้มือถือแอนดรอยด์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่ได้รับความนิยมมากนักยิ่งหายาก แต่ด้วยความที่เก่งสามารถถ่ายทอดเรื่องไอที ซึ่งเป็นข่าวสารที่เข้าใจยากให้คนได้รับรู้และเข้าใจได้ง่าย คงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เก่งเป็นที่รู้จัก”

หากใครเคยได้สัมผัสกับการทำงานของ เก่ง กวิสรา ผ่านรายการที่เธอเป็นพิธีกรหรือในบล็อกรีวิวมือถือ และแม้แต่เรื่องราวของการแนะนำแอพพลิเคชั่น คงรับรู้ได้ไม่ยากว่าสาวคนนี้ไม่ธรรมดา เธอทั้งน่ารักพูดจาฟังแล้วรื่นหู มีมุขตลกมาเล่าให้ฟังอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งเรื่องไอทีที่เธอย่อยมาให้ผู้ชม แม้จะทันสมัยมีศัพท์แสงมากมาย แต่เธอสื่อสารออกมาเข้าใจได้ง่ายด้วยการเปรียบเทียบแบบกวนๆ ทั้งหมดเกิดมาจากความตั้งใจล้วนๆ ซึ่งสาวอักษร จุฬาฯ เล่าให้ฟังถึงการทำงานแบบของเธอ...

“จริงๆ แล้ว ไม่ได้เรียนจบมาจากทางสายไอทีอะไรเลย แต่ที่เก่งทำงานแบบนี้ได้ ต้องบอกเลยว่า เพราะอยู่ข้างคนเก่งเรื่องไอทีเยอะ เลยได้เรียนรู้จากคนรอบข้าง ตอนแรกๆ ที่เรามาทำงานไม่ใช่ว่าอยู่ๆ จะสามารถทำงานได้เลยนะ อย่างการเขียนรีวิว เก่งต้องฝึกเป็นปีถึงจะผ่าน ต้องมานั่งคิดนั่งเขียนถึงคอนเทนต์ต่างๆ ว่าจะทำยังไงให้คนสนใจ เอาวิดีโอมาใส่เพิ่มไหม คนถึงจะเข้ามาอ่าน เก่งก็เขียนอยู่นาน ลองผิดลองถูกอยู่เป็นปี กว่าจะได้ขึ้นบนเว็บ และกว่าที่จะสร้างรายได้จากจุดนั้น เรียกว่าไม่ต่ำกว่า 2 ปีเลย แต่เก่งไม่ได้คิดเรื่องนั้นเป็นหลักนะ เพราะเราสนุกที่ได้ทำ และอยากจะทำให้สำเร็จ”

แน่นอนว่านั่นเป็นเรื่องเล่าบางส่วนที่ทำให้เห็นถึงความตั้งใจของเธอในสายงานไอที และต่อมาเมื่อสาวเจ้าจับทางของตัวเองได้ถูก เก่งกลายเป็นผู้หญิงจากโลกโซเชียลที่มีคนติดตามจำนวนมาก และนั่นยิ่งเป็นเครื่องตอกย้ำว่าผู้คนมิได้ติดตามเพราะความสวยของเธอ หากชื่นชมและชอบในตัวตนที่เธอเป็น ในงานที่เธอรัก จนวันหนึ่งสาวเจ้าก็มาอยู่ในจุดที่น้อยคนนักจะยืนเหยียบ นั่นคือการถูกเรียกว่า “เจ้าหญิง”