posttoday

ธนวัต อังสนานนท์ เทรนด์ร้านอาหารบนโลกออนไลน์

03 เมษายน 2557

หลังจากจบการศึกษาปริญญาตรี หนุ่มไอทีจากมหาวิทยาลัยฟลอริดา “โอ๊ค” ธนวัต อังสนานนท์ เริ่มชีวิตการงานที่ร้านอาหารของคุณยายในสหรัฐ

โดย...ปอย ภาพ : ภัทรชัย ปรีชาพานิช

หลังจากจบการศึกษาปริญญาตรี หนุ่มไอทีจากมหาวิทยาลัยฟลอริดา “โอ๊ค” ธนวัต อังสนานนท์ เริ่มชีวิตการงานที่ร้านอาหารของคุณยายในสหรัฐ จนกระทั่งได้มีโอกาสกลับมาเมืองไทยเพื่อร่วมพิธีสมรสของพี่ชาย คุณพ่อคุณแม่จึงขอให้กลับมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวร เพื่อบริหารธุรกิจร้านอาหารของตัวเองจริงจัง

สิ่งที่ต้องปรับตัวเมื่อมาอยู่ที่เมืองไทย ธนวัต บอกเมืองไทยอยู่ง่ายกว่าเมืองนอก ทั้งในการใช้ชีวิตประจำวันก็ไม่ต้องทำอะไรทุกๆ อย่างเหมือนเมืองนอก แต่ก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป เมืองไทยก็รถติด การเดินทางไม่ค่อยสะดวก การดำเนินชีวิตมันไม่ค่อยเร็วอย่างใจ

“ผมไปอยู่อเมริกาตั้งแต่ 3 ขวบ เรียนจบปริญญาตรีด้านคอมพิวเตอร์และจบปริญญาโทด้านไอที ผมไม่อยากกลับเมืองไทยเท่าไรนะครับ เพราะอยากช่วยคุณยายทำร้านอาหาร แต่เป็นการกลับที่ทำให้ได้แต่งงาน (บอกพร้อมรอยยิ้ม) 5 ปีแล้วครับ ก็เลยลองทำงานที่นี่ดูแล้วเวิร์กก็เลยตัดสินใจอยู่ต่อ” ธนวัต เริ่มต้นสนทนาพร้อมรอยยิ้ม

ธุรกิจร้านอาหารที่ว่าคือ เกรทอเมริกันริบ ปัจจุบัน ธนวัตทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดและพัฒนาอาหาร ปัจจุบันมี 2 สาขา คือ สุขุมวิท 36 และหัวหิน ล่าสุดได้รับผิดชอบโครงการใหม่ของร้านที่จะเปิดอีกสาขาที่ห้างเซ็นทรัล เอมบาสซี่ ซึ่งเขาเป็นผู้นำเสนอดีไซน์และ Revamping ภาพลักษณ์ให้เป็นร้านอาหารและแบรนด์ด้านบาร์บีคิวสำหรับครอบครัว และนักธุรกิจยังบลัดวางแผนงานในอนาคตทางร้านมีเป้าหมายที่จะขยายสาขาทุก 2 ปี

ผมชอบด้านไอทีมาตั้งแต่เด็กแล้ว เคยไปดูเพื่อนฝรั่งเขาเรียนแล้วชอบ แต่ผมไม่ชอบเรื่องโปรแกรมมิ่ง โปรแกรมบางอย่างมันเป็นเรื่องเฉพาะ และเป็นเรื่องยากเกินไป สไตล์ผมถ้าจะคิดก็คิดไปเลยนะครับ เรื่องโปรแกรมส่วนตัวผมไม่ค่อยเก่ง ซึ่งตอนที่เลือกเรียนก็อยากเปิดร้านอาหารอยู่ตลอดเวลานะครับ ร้านของคุณยายชื่อ บ้านไทย คุณยายเป็นคนทำอาหารเอง รสชาติฝรั่งจะออกหวาน จานขายดีมากที่สุดคือ ผัดไทย ผัดกะเพรา หรือแกงอะไรเขาก็กินได้หมด

การทำร้านอาหารระหว่างเมืองไทยกับเมืองนอก สิ่งที่แตกต่างคือเรื่องของพนักงานครับ เมืองไทยคุมยากกว่า เดี๋ยวก็ไป เดี๋ยวก็มา อยู่ได้ไม่นานก็ไป บริษัทไหนที่มีเงินเยอะกว่าเขาก็ไปแล้ว เรื่องคุมสต๊อกก็น่าปวดหัว ต้องมีการประชุมทีมงานและเข้าไปช่วยควบคุม คนไทยไม่กล้า บุกเอง ทำเอง ไม่มีความกล้าที่จะแก้ปัญหาเอง คนไทยต้องรอผู้ใหญ่ตัดสินใจ แต่ฝรั่งเวลาเจอปัญหาเขาจะแก้เองเลยครับ ระดับเล็กๆ ก็แก้ไขกันเอง คนไทยจะมีความอายหน่อย ผมไม่รู้ว่าเขากลัวอะไรนะครับ (บอกพร้อมรอยยิ้ม)

ธนวัต อังสนานนท์ เทรนด์ร้านอาหารบนโลกออนไลน์

 

สไตล์ร้านคุณยายเรียกว่าโอลด์แฟชั่น ท่านไม่ชอบโฆษณา ไม่ลงเฟซบุ๊ก หรือทำเมนูใหม่ๆ แต่อยากจะทำแบบออริจินัล นั่นคือสิ่งที่ผมเปลี่ยนแปลงระบบของท่าน แต่พอทำเกรทอเมริกันริบ ผมเปลี่ยนแปลงรูปแบบ ใช้ไอที ใช้ไอแพด เซตระบบใหม่ทั้งหมดเลยครับ แอพออนไลน์ใช้ชื่อว่า “เกรทริบ” ทั้งหมด เกรทริบดอทคอม, เกรทริบ อินสตาแกรม, เกรทริบ ทวิตเตอร์, แฟนเพจก็เกรทริบ ยอดคนเขามากดไลค์หลายพันแล้วครับ ซึ่งเป็นแฟนร้านอาหารจริงๆ ส่วนมากคนที่มาโพสต์คุยด้วยก็เป็นภาษาอังกฤษ ถ้าเป็นภาษาไทยผมก็ต้องใช้ Google Translate” ธนวัต บอกพร้อมเสียงหัวเราะ

คนไทยไม่ค่อยโพสต์อาหารลงในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรมมากกว่า โดยเฉพาะโพสต์รูปอาหารสวยๆ ร้านเก๋ๆ ธนวัต บอกจึงเป็นเรื่องที่เขาต้องติดตามทุกๆ วัน

“อินสตาแกรมผมติดมากที่สุดตอนนี้เลยครับ กับโฟร์สแควร์ที่เป็นแอพเช็กอินว่าที่ไหนมีอะไรบ้าง มีร้านเปิดใหม่ตรงไหน ตื่นมาก็ไล่อ่านทุกๆ ภาพที่เป็นอาหาร ไม่อย่างนั้นจะไม่รู้เลยว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ธุรกิจตอนนี้เป็นไง เทรนด์อาหารเป็นแบบไหน เมื่อปีก่อนคนเปิดร้านอาหารเบอร์เกอร์เยอะมากๆ เลย ตอนนี้เริ่มมาเป็นร้านอาหารสวยๆ มีธีมสวย ขอให้มีที่ถ่ายรูป เทรนด์ตอนนี้ต้องโพสต์ลงออนไลน์

ร้านใหม่ที่เอมบาสซี่เน้นแบบนักธุรกิจ นั่งกินข้าว ดื่มเบียร์ ไวน์ ค็อกเทล ก่อนกลับบ้าน เมนูที่โด่งดังของร้านคือ ซี่โครงหมู เป็นซี่โครงหมู 4 ซีกใหญ่ อบ 46 ชั่วโมง สถานที่หรูกว่าร้านเดิม แต่ราคาเท่ากันครับ

หลักในการบริหารธุรกิจ ผมตั้งเป้าเปิดอีก 1 สาขาในทุกปีครึ่ง เราจะพยายามเปิดร้านใหม่ แต่ก็ไม่รู้จะทำได้ขนาดไหน เพราะต้องดูว่าธุรกิจมันไปได้ถึงขนาดไหน ก็ต้องดูภาวะการเมืองด้วย สำคัญมาก ตอนนี้ค่อนข้างจะไปได้ยาก เพราะปีครึ่งคือจะเน้นเข้าไปในห้างสรรพสินค้าอย่างเดียวเลย ร้านสแตนด์อะโลนตอนนี้คิดว่ามันเปลี่ยนเทรนด์ไปแล้ว คนไทยชอบห้าง เอะอะคือเข้าหาห้าง เดินหาแอร์ เพราะอากาศบ้านเราร้อนนะครับ” ธนวัต บอกทิ้งท้ายเดือน พ.ค.นี้ ร้านใหม่บนห้างหรูหราที่สุดในกรุงเทพฯ คัมมิ่งซูนชวนไปชิมกัน

ผมเคยเล่นเอส4 เอส2 เอส3 ของซัมซุงมาหมดแล้ว แต่อยู่ดีๆ อยากลองสมาร์ทโฟนค่ายอื่นบ้าง ที่ใช้อยู่ตอนนี้เป็นของจีน หัวเว่ย (Huawei) ผมไม่ได้ชอบติดใจอะไรนะ ก็แค่อยากลอง ใช้ไปใช้มาก็โอเคเลยนะ ผมติดระบบแอนดรอยด์ ระบบไอโอเอสไม่ชอบเลย เมื่อก่อนเคยใช้นะแต่ว่ามันไม่เวิร์ก มันทำอะไรยากกว่า ต้องใช้หลายสเต็ป อย่างเช่น การส่งอีเมลก็ยากแล้วสำหรับผม กว่าจะได้ส่งหรือแชร์อะไรสักอย่างก็ไม่สามารถทำได้หลายๆ ที่ ไปไม่ได้หมด เพราะจำกัดโปรแกรมในการแชร์ จริงๆ ผมเป็นคนใจร้อน อย่างที่บ้านไวไฟที่ใช้ก็จะต้องเร็วมากๆ ครับ

สมาร์ทโฟนอีกยี่ห้อคือ ออปโป ตอนนี้สู้กับหัวเว่ย แข่งขึ้นเป็นอันดับที่ 3 ของโลก ที่หนึ่งเป็นซัมซุง ที่สองแอปเปิล

ผมมีห้องส่วนตัวที่ใช้อุปกรณ์ที่มีสเปกสูงมาก คือมันจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตที่เร็ว แอพที่ใช้บ่อยตอนนี้ก็จะเป็นทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ผมเป็นคนที่จะต้องติดตามข่าวอยู่ตลอด ตอนนี้ใช้ซัมซุงเอส ซีรีส์ 9 ด้วย ชอบความบาง ใช้กับงานทั่วๆ ไป เพราะเป็น Windows 7

สำหรับอันนี้ซัมซุงเน็กซัส ใช้สำหรับอ่าน ว่างๆ เล่นเกม เคยเล่นแคนดี้ครัชอยู่สักพัก เป็นเกมที่ต้องใช้สมาธิ ผมไม่ค่อยติดเท่าไร เล่นสักพักก็เปลี่ยนแล้ว คือผมยุ่งเรื่องโซเชียลเยอะเกินไป ในการดูเรื่องนี้ ปัจจุบันผมแทบไม่เปิดดูทีวีเลยครับ เพราะสามารถดูจากยูทูบ ย้อนดูซ้ำๆ ก็ได้ ดาวน์โหลดมาดูก็ยังทำได้สบายมาก