เปิดห้องเรียน“ยุ้ย” จีรนันท์ มะโนแจ่ม ถ่ายทอดวิชาการแสดง

โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์

เจ้าของฉายาน้ำตาสั่งได้อย่าง “ยุ้ย” จีรนันท์ มะโนแจ่ม ที่ชื่อชั้นในนาทีนี้ถือเป็นนางเอกระดับแม่เหล็กประจำช่อง 7 สีไปแล้ว จากผลงานละครไม่น้อยกว่า 40 เรื่อง และภาพยนตร์อีก 4 เรื่อง ไม่ว่าจะเล่นละครเรื่องไหนเสียงตอบรับจะต้องดีทุกเรื่องไป โดยล่าสุดผลงานละครของ “ยุ้ย” ที่อยู่ระหว่างการถ่ายทำมี 2 เรื่อง คือ เนตรนาคราช และสุสานคนเป็น ถ่ายทำไปได้ระยะหนึ่งแล้ว อีกไม่นานเกินรอคงจะได้ลงจอให้แฟนๆ ได้ติดตามชมกันทางช่อง 7 สี

ด้วยฝีไม้ลายมือความเป็นนางเอกเจ้าน้ำตาที่เรียกคะแนนความสงสารคนได้ทั้งประเทศกับบทบาทที่ได้รับย้อนกลับไปจากละครเรื่องแรก “คมพยาบาท” ทำให้ทุกวันนี้อาจกล่าวได้ว่า ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเธอ ก็คงไม่ผิด จนกระทั่งการพลิกบทบาทครั้งสำคัญอีกครั้งจากการได้รับบทนางร้ายในละครเรื่อง “นางทาส” จนกระทั่งสามารถคว้ารางรางวัล “นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม” (Best Performance by an Actress) มาครองได้สำเร็จ จากเวที Asian Television Awards 2008

 

เส้นทางของ “ยุ้ย” ไม่ได้เรียบง่าย แต่ด้วยความตั้งใจ ความอดทน ความพยายาม ความกตัญญู ที่ยึดมั่นและสิ่งที่คิดเสมอว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง แต่เราต้องเริ่มจากวันนี้ที่ต้องทำให้ดี หลังจากที่สะสมประสบการณ์มานาน ได้เล่นทุกบทบาท ไม่ว่าจะเป็นบทเจ้าน้ำตา บทบู๊ สาวหวาน สาวห้าว นางร้าย หรือแม้กระทั่งบทผี และได้ร่วมงานกับเด็กรุ่นใหม่หลายๆ คน จะมีน้องๆ นักแสดงหน้าใหม่จะเข้ามาปรึกษาทางด้านเทคนิค ซึ่งบางคนมีแววโดดเด่น แต่ไม่ได้รับการฝึกฝนในทิศทางที่ถูก

ดังนั้น จากประสบการณ์ด้านการแสดงที่สั่งสมมาประกอบกับแรงบันดาลใจและความตั้งใจที่อยากถ่ายทอดประสบการณ์ด้านการแสดงให้กับผู้ที่สนใจ จึงได้ร่วมลงทุนกับเพื่อนๆ ที่มีใจรักเปิด “สปีดวัน สตูดิโอ แอ๊คติ้งเฮาส์” เพื่อเติมเต็มฝันคนรักงานบันเทิงและอาชีพนักแสดงพร้อมแนวคิดในการสร้างสรรค์บุคลากรให้กับแวดวงบันเทิงเมืองไทย

 

ด้วยเจตนารมณ์เพื่อเติมเต็มสานฝันให้กับทุกคนที่อยากก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง จากบริษัทเล็กๆ ก่อร่างสร้างธุรกิจ สร้างดาวประดับวงการบันเทิงมาแล้วหลายครั้งหลายคน อาทิ มิกค์ ทองระย้า แจมปาณิชดา แสงสุวรรณ โยปราณวรินทร์ ดิอุชา ไชยชนากุล เป็นต้น

“มีบ่อยครั้งที่มีปัญหาเข้ามา แต่ทุกครั้งพวกเราจะสู้และมุ่งมั่นในการทำงานมาตลอด จนทำให้ประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ ยุ้ยเชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเดินมาได้ไกลคือหัวใจที่มุ่งมั่นค่ะ” นางเอกสาว กล่าว

จากวันนั้นถึงวันนี้ของโรงเรียนสอนการแสดงกว่า 10 ปีแล้ว ทำให้วันนี้ “ยุ้ย” อยากขยายงานมากขึ้นเพื่อรองรับอุตสาหกรรมบันเทิงที่กำลังมีทิศทางการเติบโตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวงการโทรทัศน์ที่ก้าวเข้าสู่ทีวีระบบดิจิตอล และในอีกไม่กี่ปีจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งเชื่อว่าบุคลากรด้านอุตสาหกรรมบันเทิงจะเป็นที่ต้องการมากขึ้นเช่นกัน พร้อมกันนั้นยังถือเป็นการพิสูจน์ถึงการเติบโตจากความมุ่งมั่นพัฒนาสู่ “สปีดวัน สตูดิโอ แอ๊คติ้งเฮาส์” ที่วันนี้ได้มีการปรับหลักสูตรให้เข้มข้นยิ่งขึ้น

 

“ยุ้ยปรับหลักสูตรของการสอนที่มีมากขึ้น เน้นหลักสูตรเพื่อการแสดงละครทีวี เพื่อให้คนที่มีใจรักในงานแสดงจริงๆ คนที่จะเรียนหลักสูตรนี้ต้องผ่านการเรียนการแสดงเบื้องต้นมาก่อน ซึ่งถ้าเรียนจบหลักสูตรนี้สามารถนำไปปรับใช้กับการแสดงละครทีวีได้จริง นอกจากนั้นยังมีหลักสูตรทั่วไปทั้งการแต่งหน้าเบื้องต้น แต่งหน้าแฟนซี เต้นรำแนวคัฟเวอร์ (เกาหลี) หรือหลักสูตรเตรียมตัวเพื่อการประกวดเวทีสาวงามต่างๆ อีกด้วย”

โดยทุกหลักสูตรจะมีผู้ที่มีประสบการณ์จริงในแต่ละสาขามาสอนโดยเฉพาะ ผู้ที่เรียนจบแต่ละหลักสูตรจะมีความมั่นใจ รู้เทคนิคนำไปใช้ได้ตรงจุดในสาขาวิชานั้นๆ ถ้ามีแววก็อาจจะได้ทำงานในวงการบันเทิงจริงๆ นอกจากนี้ “สปีดวัน สตูดิโอ แอ๊คติ้งเฮาส์” ยังเปิดเป็นห้องสตูดิโอขนาดกลางเพื่อรองรับการถ่ายแบบ ฟิตติ้งละคร โดยมีเป้าหมายให้เป็นศูนย์กลางการทำงานบันเทิงระดับต้นอีกด้วย

ส่วนตัวแล้วเวลาที่ “ยุ้ย” ว่างจากการถ่ายละครจะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและช่วยสอน รวมทั้งนำเทคนิคในกองถ่ายมาต่อยอดกับนักเรียนอีกที ซึ่งจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจแรงกระตุ้นให้เกิดความมุ่งมั่นเพื่อสานฝันให้สำเร็จ อีกทั้งถ้านักเรียนคนไหนฉายแวดโดดเด่น ทางโรงเรียนก็จะสนับสนุนส่งนักเรียนไปคัดเลือกนักแสดงที่ค่ายละครต่างๆ

ยุ้ย ภูมิใจที่วันนี้ได้เห็นน้องๆ ที่เคยผ่านการฝึกสอนการแสดงจากทางคอร์สของโรงเรียนที่เปิดสอนได้โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง พิธีกร แม้จะไม่ง่าย แต่ไม่ได้ยากเกินไปสำหรับคนที่รักและชอบในวงการบันเทิง ขอเพียงมีความตั้งใจ ความมุ่งมั่น ความพยายามที่จะทำให้สำเร็จ และต้องไม่ลืมความอ่อนน้อม ความใฝ่รู้ และความกตัญญู ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน

การเรียนรู้ไม่มีคำว่าสิ้นสุด ไม่มีคำว่าหมด โลกหมุนพร้อมๆ กับการเปลี่ยนแปลงที่มีอยู่ทุกวัน หากเรา “นิ่ง” หรือ “หยุด” ที่จะเรียนรู้ ความสำเร็จคงยิ่งไกลและห่างจากตัวเราไปเรื่อยๆ ที่สำคัญคำว่า “โอกาส” คำนี้สำคัญมากๆ “ยุ้ย” คิดว่าอย่ารอให้โอกาสมาถึงเพียงอย่างเดียว การวิ่งเข้าหาโอกาสเป็นสิ่งที่ทำให้ความฝันของเราสำเร็จเช่นกัน

นี่คือกุญแจแห่งความสำเร็จในวงการบันเทิงของดาราสาวเจ้าน้ำตาผู้นี้ที่หวังว่าจะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ต้องการสานฝันบนเส้นทางบันเทิงได้ไม่มากก็น้อย