posttoday

หุ้นไทยพุ่งแรง ปิดบวก 11.36 จุด

07 กันยายน 2560

หุ้นไทย 7 ก.ย. ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกก่อนปิดที่ 1,632.66 จุด เพิ่มขึ้น 11.36 จุด มูลค่าการซื้อขาย 62,941.64 ล้านบาท

หุ้นไทย 7 ก.ย. ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกก่อนปิดที่ 1,632.66 จุด เพิ่มขึ้น 11.36 จุด มูลค่าการซื้อขาย 62,941.64 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นในแดนบวกตั้งแต่เปิดตลาดเช้าและดีดขึ้นแรงโดยเฉพาะช่วงท้านตลาดบ่าย จนมาปิดที่  1,632.66 จุด เพิ่มขึ้น 11.36 จุด หรือ 0.70 % มูลค่าการซื้อขาย 62,941.64 ล้านบาท

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า  ปัจจัยพื้นฐานเป็นสิ่งที่ทำให้หุ้นไทยพร้อมจะขึ้นตลอดเวลา แต่ที่ผ่านมารอเม็ดเงินต่างชาติไหลกลับเข้ามา ซึ่งจุดเปลี่ยนคือปลายเดือน ส.ค. ที่มูลค่าการซื้อขาย 9.5 หมื่น และหุ้นทะลุ 1,600 จุด ยืนได้ จากนั้นทำให้วอลุ่มซื้อขายเพื่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.5 -5 หมื่นล้านบาท/วัน  ซึ่งถือเป็นสัญญาณการไหลเข้ามาของเม็ดเงินต่างชาติ เพราะที่ผ่านมาสถานการณ์การถือครองหุ้นต่างชาติในหุ้นไทยยังต่ำอยู่ในรอบ 10 ปี

แต่อย่างไรก็ตาม ต้องชำเลืองไปดูคาบสมุทรเกาหลีด้วย ซึ่งถ้าไม่มีอะไรรุนแรงคงเห็นฟันด์โฟว์ชัดเจนขึ้น ตอนนี้ดัชนีได้ผ่านจุดที่ประเมินของปีนี้แล้วที่ 1,622 จุด ที่ระดับพี/อี 16 เท่า ซึ่งถ้ามีวอลุ่มสนับสนุนอย่างต่อเนื่องทุก 1 เท่าของ พี/อ อี ที่ขยับขึ้นปกติหุ้นจะขึ้นประมาณ 100-101 จุด จึงคาดว่าถ้ามีวอลุ่มเข้าต่อมีโอกาสที่หุ้นจะแตะ 1,700 จุดได้

ทั้งนี้ มองว่ามูลค่าพื้นฐานหุ้นกลุ่มพลังงานและแบงก์ยังมีอัพไซต์อยู่ เชื่อว่าราคายังมีการขยับขึ้นไปได้ รวมถึงกลุ่มที่คิดว่าผลประกอบการครึ่งปีหลังจะออกมามากกว่าครึ่งปีแรกได้

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มกองทุนต่างชาติทยอยเก็บหุ้นไทยต่อ และมองว่าตลาดยังขึ้นต่อเนื่องแม้ฝรั่งจะซื้อหรือไม่ซื้อเพราะหุ้นไทยยังขึ้นต่อได้ เนื่องจากเงินในประเทศยังมีเยอะ เพราะเศรษฐกิจในประเทศเริ่มเข้ารูปเข้ารอย การส่งออก การบริโภคเริ่มดีขึ้น มีการประมูลภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องคาบสมุทรเกาหลีคาดว่าจะคลี่คลายได้

แนะนำหุ้นกลุ่มพลังงาานที่ราคาหุ้นยังถูก ราคาน้ำมันก็ขึ้น ปิโตรเคมีก็ได้อานิสงส์สเปรดที่ปรับขึ้นสูง โดยเฉพาะหลังที่สหรัฐโดยพายุไป รวมถึงหุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นนิคมอุตสาหกรรม และกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ราคายังไม่ได้ปรับฐานขึ้นหลังจากเริ่มลงมาได้สักพัก

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,919 ล้านบาท ปิดที่       406.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 (+2.01%)

WHA มูลค่าการซื้อขาย 2,376 ล้านบาท ปิดที่    3.38 บาท เพิ่มขึ้น 0.22 (+6.96%)

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,065 ล้านบาท ปิดที่ 90.50      บาท เพิ่มขึ้น 2.25 (+2.55%)

SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,863 ล้านบาท ปิดที่ 498.00 บาท ลดลง 2.00 (-0.40%)

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,538 ล้านบาท ปิดที่ 147.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 (+0.34%)