posttoday

"หมอเสริฐ"คว้าแชมป์เศรษฐีหุ้นปี 58

09 ธันวาคม 2558

นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของร.พ.กรุงเทพฯ แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2558 รวย 62,000 ล้านบาท ขณะที่ตระกูลปราสาททองโอสถ ก้าวขึ้นแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทย 88,000 ล้านบาท

นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของร.พ.กรุงเทพฯ แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2558 รวย 62,000 ล้านบาท ขณะที่ตระกูลปราสาททองโอสถ ก้าวขึ้นแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทย 88,000 ล้านบาท

วันที่ 9 ธ.ค. วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับอาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย ภาพรวมของเศรษฐีหุ้นไทยในปี 2558 ซึ่งวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2558 จำนวน 6,712 ราย มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมทั้งสิ้น 1,801,432 ล้านบาท ลดลงจากปี 2557 รวม 29,961 ล้านบาท หรือ 1.64% นอกจากนี้ ยังได้รับเงินปันผลรวมกันเป็นจำนวนเงิน 51,491 ล้านบาท ลดลง 339 ล้านบาท หรือ 0.65% จากปี 2557

สำหรับผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยใน วารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2558 ปรากฎว่า น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS)เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2558 โดยเป็นแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 โดยในปีนี้ หมอเสริฐถือครองหุ้นสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวมมูลค่า 62,365.18 ล้านบาท รวยขึ้น 4,455.70 ล้านบาท หรือ 7.69%

นอกจากหุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ที่หมอเสริฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ในสัดส่วน 19.11% รวมมูลค่า 54,777.21 ล้านบาท และหุ้น บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช (NTV) ในสัดส่วน 0.79% มูลค่า 42.46 ล้านบาทแล้ว น.พ.ปราเสริฐ ยังรวยขึ้นจากการนำ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 โดยถือหุ้น BA 18.24% มูลค่า 7,545.52ล้านบาท

อันดับ 2 ได้แก่นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมมูลค่า 35,280.09 ล้านบาท ลดลง 6,299.41 ล้านบาท หรือ 15.15% เนื่องจากหุ้น PS ที่ถืออยู่ในสัดส่วน 54.42% มูลค่า 34,902.50 ล้านบาท ราคาปรับลดลงเหลือ 28.75 บาท ณ 30 กันยายน 2558 ซึ่งเป็นวันที่ใช้คำนวณมูลค่าความมั่งคั่งของเศรษฐีหุ้นในปีนี้ จากที่อยู่ในระดับ 34.25 เมื่อปีที่แล้ว โดยราคาปรับลดลง 5.5 บาท หรือ 16.06%

นอกจากนี้นายทองมา ยังถือหุ้น บมจ.ศุภาลัย (SPALI) 0.71% มูลค่า 224.58 ล้านบาท และ บมจ.แอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) 0.61% มูลค่า153.01 ล้านบาท

อันดับ 3 นายสมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของกิจการธุรกิจพลังงาน จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในชื่อ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 32,495.74 ล้านบาท ลดลงไป 4,069.75 ล้านบาท หรือ 11.13% ประกอบด้วยหุ้น EA 40.49% มูลค่า 32,468.44 ล้านบาท และหุ้น บมจ.อีเทอเนิล เอนเนอยี (EE) อีก 0.94% มูลค่า 27.30 ล้านบาท

อันดับ 4 ได้แก่ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS)รวมมูลค่าทั้งสิ้น32,209.11 ล้านบาท ลดลง 6,990.91 ล้านบาท หรือ 17.83% ประกอบด้วย หุ้น BTS ในสัดส่วน 27.52% มูลค่า 31,991.36 ล้านบาท บมจ.แกรนด์ คาเนล แลนด์ (GLAND) 0.51% มูลค่า 87.60 ล้านบาท และหุ้น บมจ.วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย ( VGI) 0.54% มูลค่า 130.16 ล้านบาท

อันดับ 5 ได้แก่ อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 23,026.65 ล้านบาท ลดลง 1,761.96 ล้านบาท หรือ 7.11% ประกอบด้วย บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) 24.43% มูลค่า 23,016.30 ล้านบาท และ บมจ.แมนดาริน โฮเต็ล (MANRIN) 1.36% มูลค่า 10.35 ล้านบาท

โดยปีนี้เจ้าของอาณาจักรธุรกิจแบรนด์สุกี้ MK ยุพิน ธีระโกเมน กระโดดขึ้นมานั่งในอันดับ 6 โดยถือหุ้น บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป (M)มูลค่า 20,970.10 ล้านบาท โดยยุพินถือหุ้น M ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจาก 21.97% เป็น 40.03% ในปีนี้ ส่งผลให้มูลค่าความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นถึง 8,831.71 ล้านบาท หรือ 72.76%

อันดับ 7 นายวิชัย ทองแตง เจ้าพ่อเคเบิลยักษ์ใหญ่แบรนด์ CTH ถือหุ้นรวมมูลค่า 20,431.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136.62 ล้านบาทหรือ 0.67% ซึ่งนอกจากหุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) 6.71% มูลค่า 19,238.46 ล้านบาท, บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) 7.23% มูลค่า 551.76 ล้านบาท และ บมจ.ปุ๋ยเอ็นเอฟซี (NFC) 8.04% มูลค่า 272 ล้านบาท แล้ว ปีนี้วิชัยยังถือหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 3 บริษัท คือ บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) 0.51% มูลค่า 51.42 ล้านบาท, บมจ.สยามเจเนอรัล แฟคตอริ่ง (SGF) 17.67% มูลค่า 192.12 ล้านบาท และ บมจ.ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น (TWZ)6.72% มูลค่า 125.64 ล้านบาท

อันดับ 8 ในปีนี้ ได้แก่ นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 19,871.66 ล้านบาท ลดลง 4,148.70 ล้านบาท หรือ 17.27% นอกจากนิติจะเป็นทายาทของอาณาจักรโอสถสภาแล้ว ยังเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่มีพอร์ตการถือหุ้นมากถึง 14 บริษัท

ขณะที่นายพิชญ์ โพธารามิก ทายาทคนเดียวของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอดิศัย โพธารามิก ผู้ก่อตั้ง บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนลอยู่ในอันดับ 9 ถือหุ้นมูลค่ารวม 18,491.78 ล้านบาท ลดลง 1,931.06 ล้านบาท หรือ 11.66% ประกอบด้วย บมจ.โมโน เทคโนโลยี (MONO) ในสัดส่วน 71.99% มูลค่า 5,277.61 ล้านบาท, บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) 25.84% มูลค่า 10,326.66 ล้านบาท และ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) 5% มูลค่า 2,887.50 ล้านบาท

ส่วนอันดับ 10 ได้แก่ ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ เป็นอีกหนึ่งทายาทของหมอเสริฐที่ได้รับอานิสงส์จากการนำบางกอกแอร์เวย์เข้าตลาดหุ้นเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา โดยถือครองหุ้นรวมมูลค่า 13,846.15 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 6,451.59 ล้านบาทหรือ 87.25% ประกอบด้วย บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ในสัดส่วน 2.71% มูลค่า 7,764.56 ล้านบาท และ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) 14.70% มูลค่า 6,081.59 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีทายาทอีก 3 คน ได้ก้าวเข้ามาเป็นเศรษฐีหุ้นหน้าใหม่ในปีนี้ ได้แก่ นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ เป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 32 ถือหุ้น BA 15.88% มูลค่า 6,567.74 ล้านบาท, น.ส.อาริญา ปราสาททองโอสถ เศรษฐีหุ้นอันดับ 101 ถือหุ้น BA 7.78% มูลค่า 3,054.29 ล้านบาท,น.ส.สมฤทัย ปราสาททองโอสถ เศรษฐีหุ้นอันดับ 222 ถือหุ้น BA 3.69% มูลค่า 1,527.59 ล้านบาท และภรรยาหมอเสริฐ นางวัลลีย์ ปราสาททองโอสถ เศรษฐีหุ้นอันดับ 430 ถือหุ้น BA 1.73% มูลค่า 714.13 ล้านบาท

สำหรับแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยปี 2558 ได้แก่ ตระกูลปราสาททองโอสถ ซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยเป็นครั้งแรก โดยสร้างสถิติความมั่งคั่งสูงสุดถึง 88,086.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ถึง 22,771.37 ล้านบาท หรือ 34.86% โดยความมั่งคั่งของตระกูลปราสาททองโอสถที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลนี้ เกิดจากการนำ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA)จดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯ นอกจากหุ้น BA แล้ว ตระกูลปราสาททองโอสถยังถือหุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) และ บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช (NTV) อีกด้วย

ส่วน ตระกูลจิราธิวัฒน์ แชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้น 2 ปีซ้อน ปีนี้หล่นไปอยู่อันดับ 2 โดยเครือญาติเศรษฐีหุ้นในตระกูล 44 คน ถือครองหุ้นรวมกันทั้งสิ้น 58,548.92 ล้านบาท ลดลง 10,842.96 ล้านบาท หรือ 15.63% ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 3 ได้แก่ ตระกูลกาญจนพาสน์ โดย 5 เครือญาติในตระกูลได้แก่ นายคีรี นายอนันต์ นายกวิน นายชัยสิทธิ์ และนายสาคร กาญจนพาสน์ ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 45,052.90 ล้านบาท ลดลง 4,340.87 ล้านบาท หรือ 8.79%

อันดับ 4 ตระกูลวิจิตรพงศ์พันธ์ โดยทองมาและทิพย์สุดา พร้อมด้วยลูกสาวทั้งสองคน คือ น.ส.มาลินี และ น.ส.ชัญญา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ถือครองหุ้น บมจ.พฤกษา (PS) รวมกันเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 42,611.34 ล้านบาท ลดลง 7,701.91 ล้านบาท หรือ 15.31% และตระกูลเศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ได้แก่ ตระกูลทองแตงที่ครอบครัวทองแตง ได้แก่ วิชัย เพชรัตน์ วิอร อัฐ อติคุณ และอิทธิ ทองแตง ถือครองหุ้นรวมกันเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 41,653.59 ล้านบาท ลดลง 2,428.77 ล้านบาท หรือ 5.51%