BJC-HMPRO เด่น

โดย...เจียรนัย อุตะมะ

สถานการณ์ในปีนี้เป็นผลดีต่อหุ้นค้าปลีกที่ได้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) เพิ่ม 5 เดือนติดต่อกัน และข่าวดีที่มีรายชื่อติดโผเข้า SET50 คือหุ้นบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) และบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO)

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยรายงาน CCI เดือน เม.ย. 2560 เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 อยู่ที่ 77.0 จุด ทำจุดสูงสุดในรอบ 2 ปี โดยมีปัจจัยหนุนจากราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะยางพารา ปาล์มน้ำมัน และอ้อย เป็นต้น หนุนกำลังซื้อภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นประกอบกับภาคการส่งออกที่ขยายตัว สะท้อนจากเดือน มี.ค.ขยายตัวสูงราว 9.22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรวมถือเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจไทย และตลาดหุ้น เฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในกลุ่มค้าปลีก ซึ่งถูกคาดหมายว่ายอดขายสาขาเดิม (SSSG) น่าจะเห็นการเติบโตกลับขึ้นมาอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 และทำให้ภาพรวมของยอดขายสาขาเดิมทั้งปีเติบโตได้ราว 1-2% ตามประมาณการ

ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส คาดว่าหุ้นเด่นในกลุ่มค้าปลีก ได้แก่ BJC (มูลค่าที่เหมาะสม 57บาท) และ HMPRO (ราคาที่เหมาะสม 11.70 บาท) โดยที่ BJC มีประเด็นสนับสนุนเพิ่มเติมจากการที่จะถูกนำเข้าคำนวณใน SET50 และ SET100 ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้

คาดว่าหุ้นเข้า-ออก SET50 และ SET100 รอบครึ่งหลังปี 2560(เริ่มนำไปใช้จริงตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 2560) โดยการคำนวณจะใช้ข้อมูลย้อนหลัง 1 ปี ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2559 จนสิ้นสุดในเดือน พ.ค. 2560

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ข้อมูลที่ใช้คำนวณยังไม่ครบทั้ง 100% เนื่องจากฝ่ายวิจัยใช้ข้อมูลในการคำนวณจนถึงวันที่ 2 พ.ค. 2560 ซึ่งยังขาดข้อมูลในช่วงเดือน พ.ค. 2560 ที่เหลือเกือบทั้งเดือน ทำให้รายชื่อหุ้นบางตัวที่เข้า-ออกอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ นอกจากนี้ในท้ายที่สุดรายชื่อหุ้นที่จะนำเข้า-ออก ยังขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของตลาดเป็นสำคัญ

หุ้นที่คาดว่าน่าจะถูกคัดเลือกเข้า SET50 มี 7 บริษัท : BJC บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA) บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง (MTLS) บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) และบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS)

หุ้นที่คาดว่าจะถูกคัดออกจาก SET50 มี 7 บริษัท : บริษัท การบินไทย (THAI) บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) บริษัท การบินกรุงเทพ (BA) บริษัท บางจากปิโตรเลียม (BCP) บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) บริษัท ช.การช่าง (CK) และบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL)

หุ้นที่คาดว่าน่าจะถูกคัดเลือกเข้า SET100 มี 14 บริษัท : BJC, EA, BPP, RATCH, JAS บริษัท กรุ๊ปลีส (GL) บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) ESSO บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) บริษัท น้ำตาลขอนแก่น (KSL) บริษัท บีซีพีจี (BCPG) บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) บริษัท เวิร์คพอยท์ (WORK) บริษัท เมก้า ไลฟ์ (MEGA) และบริษัท จีเอฟพีที (GFPT)

หุ้นที่คาดว่าจะถูกคัดออกจาก SET100 มี 14 บริษัท : บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) บริษัท คาร์มาร์ท (KAMART) บริษัท น้ำประปาไทย (TTW) บริษัท อาร์เอส (RS) บริษัท ทีทีซีแอล (TTCL) บริษัท สแกน อินเตอร์ (SCN) บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) บริษัท อิชิตัน (ICHI) บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง (THANI) บริษัท คอมเซเว่น (COM7) บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) บริษัท เอสทีพีแอนด์ ไอ (STPI) บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) และบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA)

หุ้นที่ถูกคัดเข้า-ออก SET50 และ SET100 ดังกล่าวถูกเรียงลำดับรายชื่อหุ้นตามโอกาสที่จะถูกคัดเข้า-ออก จากมากไปน้อย คำแนะนำการลงทุน : สังเกตได้ว่าหุ้นส่วนใหญ่ที่ถูกคาดการณ์เข้า SET50, SET100 มีราคาเกินมูลค่าพื้นฐานแล้ว

แต่ยังมีหุ้นภายในประเทศที่น่าสนใจลงทุนยามตลาดหุ้นผันผวนเช่นปัจจุบันอยู่ 2 บริษัท คือ BJC มูลค่าที่เหมาะสม 57 บาท เนื่องจากมีโอกาสถูกคัดเลือกเข้าทั้ง SET50 และ SET100

หากมองในมุมปัจจัยพื้นฐานพบว่า คาดกำไรงวดไตรมาสแรกปี 2560 เติบโตสูงถึง 129% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท จากผลบวกการรวมงบการเงินกับบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) เต็มไตรมาส (ถือหุ้น 97.94%) และยังน่าจะเติบโตได้จากช่วงเดียวกันของปีก่อนในช่วงที่เหลือของปี จากการเปิดสาขาใหม่ปีนี้ และการผนึกกำลังเชิงกลยุทธ์จากการเพิ่มสัดส่วน Private Brand สินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้งคาดว่ายอดขาย BIGC กลับมาเติบโตจากกำลังซื้อดีขึ้นสะท้อนได้จากตัวเลข CCI เดือน เม.ย. 2560 เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และทำสูงสุดใหม่ในรอบ 2 ปี ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น

RATCH มูลค่าที่เหมาะสม 65 บาท มีโอกาสถูกคัดเลือกเข้าทั้ง SET50 และ SET100 เช่นกัน และถือเป็นหุ้นปลอดภัยที่เติบโตต่อเนื่องในระยะยาว