posttoday

นับเงินฟาร์ม มุ่งขยายระบบอัจฉริยะ

11 พฤศจิกายน 2560

จากคนรุ่นใหม่ที่เรียนจบจากคณะวิทยาศาสตร์ ทางด้านสารสนเทศ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้ต่อยอดจากสิ่งที่ได้เรียนมาสู่การสร้างระบบควบคุมโรงเรือนอัจฉริยะ

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

จากคนรุ่นใหม่ที่เรียนจบจากคณะวิทยาศาสตร์ ทางด้านสารสนเทศ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้ต่อยอดจากสิ่งที่ได้เรียนมาสู่การสร้างระบบควบคุมโรงเรือนอัจฉริยะ พร้อมกับกำลังต่อยอดการทำฟาร์มผักแบบใหม่อย่างไม่หยุดนิ่ง รวมถึงกำลังนำเทคโนโลยีมาพัฒนาการเกษตรไทยทั้งระบบให้แข็งแกร่ง

“วิยะดา เทียมขุนทด” ผู้ก่อตั้ง“นับเงินฟาร์ม” บริษัท สมาร์ทติ๊งคอนโทรล เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนา ระบบควบคุมโรงเรือนอัจฉริยะผ่านสมาร์ทโฟน (Smart think) พร้อมได้เปิดตัวทำตลาดอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเป็นระบบช่วยทั้งการวางแผนปลูก การวางแผนตลาด การจัดการระบบควบคุมทางการเกษตร ทั้งระบบน้ำ ปุ๋ย การวัดค่าอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับพืชที่ต้องการเติบโต

การมีระบบควบคุมโรงเรือนอัจฉริยะ จึงเป็นผลดีต่อการทำฟาร์ม ทั้งการดูแลต้นทุนค่าใช้จ่าย การวางแผนการตลาดผ่านแอพพลิเคชั่นในระบบได้ รวมถึงการช่วยลดปัญหาเรื่องแรงงานในฟาร์มที่สามารถบริหารจัดการดูแลฟาร์มผ่านแอพพลิเคชั่นได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งข้อมูลทุกอย่างมีการเชื่อมโยงผ่าน อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ หรือ ไอโอที (IOT)

ล่าสุด บริษัทได้รับบริการจากอุทยานวิทยาศาสตร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการอุทยานวิทยาศาสตร์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งการสร้างโครงการพัฒนาต้นแบบระบบควบคุม การส่งเสริมพัฒนาอบรม การขยายเครือข่ายธุรกิจ ไปจนถึงการหาตลาดและออกงานในพื้นที่ต่างๆ พร้อมกับได้เข้าร่วมงาน สตาร์ทอัพไทยแลนด์ในช่วงที่ผ่านมา

บริษัทยังไม่มีการหยุดนิ่ง ได้พัฒนาทั้งข้อมูลที่เชื่อมโยงกับบิ๊กดาต้าในการวิเคราะห์ข้อมูลให้แก่ผู้ประกอบการขยายตลาดได้ในอนาคต รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลการเกษตรอย่างครบวงจร รวมถึงยังได้รับการส่งเสริมให้ขยายตลาดผลิตภัณฑ์สู่ผู้ประกอบการเกษตรกลุ่มอื่นๆ หรือกลุ่มที่ทำปศุสัตว์

ขณะเดียวกัน ได้มีการพัฒนาระบบให้สามารถใช้กับการปลูกผักคอนโด ทำให้กลุ่มลูกค้าที่สนใจการปลูกผักคอนโด นำระบบไปใช้ได้เช่นกันและมีความสะดวก รวมถึงที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าที่สนใจมีกลุ่มผู้ปลูกเมลอน ทำให้ผลผลิตสามารถเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัวจากปกติ

ส่วนกลุ่มลูกค้าที่สนใจใช้บริการสามารถเข้ามาติดต่อได้ผ่านระบบเฟซบุ๊ก และมีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายทั้งใน จ.อุบลราชธานี นครราชสีมา และ กทม. ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าที่สนใจเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

“วิยะดา” จากการที่ตนเอง และผู้ร่วมก่อตั้ง “พีรดนย์ ไชยมี” โดยทั้งคู่ได้เรียนจบด้านสารสนเทศ และมีความรู้ในด้านเทคโนโลยี กำลังจะขยายต่อยอดธุรกิจ ทั้งการพัฒนาระบบให้สามารถตรวจสอบจากภาพได้ว่าพืชที่ปลูกไว้มีปัญหาเป็นโรคหรือไม่ เพื่อทำให้ผู้ทำฟาร์มได้รับข้อมูลรวดเร็ว รวมถึงสนใจพัฒนานำเทคโนโลยีมาพัฒนาการเกษตรเพิ่มมากขึ้น เชื่อมั่นว่าจะช่วยผลักดันให้เกษตรกรไทย พร้อมก้าวสู่เกษตร 4.0

“บริษัทจะมุ่งนำเสนอเทคโนโลยี ระบบ เพื่อทำให้ผู้ที่ทำเกษตรแบบดั้งเดิม สามารถนำระบบไปใช้ได้อย่างสะดวก ทั้งข้อมูลพืช ข้อมูลของผลิต วางแผนการผลิต การลงทุน รวมถึงคำนวณผลตอบแทนได้ เชื่อมั่นว่าจะเป็นผลดีต่อผู้ทำการเกษตรในทุกวัย” วิยะดา กล่าวทิ้งท้าย