posttoday

สตาร์ทอัพไปถึงไหน?

11 กันยายน 2560

ถ้ายังจำกันได้เมื่อตอนต้นปีมีการเปิดตัวโครงการยิ่งใหญ่ "เอสเอ็มอีสตาร์ทอัพ" แม่งานคือกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

โดย...สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์

ถ้ายังจำกันได้เมื่อตอนต้นปีมีการเปิดตัวโครงการยิ่งใหญ่ "เอสเอ็มอีสตาร์ทอัพ" แม่งานคือกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดงานอลังการใหญ่โตมาก ดึงทุกกระทรวงร่วมลงขัน เชิญบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำทั้งในและต่างประเทศมาโชว์ หมดงบไปเป็นร้อยล้าน ตีปี๊บปลุกฝันให้คนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาทำธุรกิจสตาร์ทอัพกันทั้งบ้านทั้งเมือง มีการเดินสายไปกระตุ้นต่อมอยากในต่างจังหวัดอีกหลายแห่ง กระแสแรงสุดๆ ทุกกระทรวง กรม กอง สถาบันการเงิน สถาบันอิสระ องค์การมหาชน แม้แต่มหาวิทยาลัยไม่มีใครยอมใคร ไม่มีใครยอมตกขบวนนโยบาย "สตาร์ทอัพ" มีข่าวลงให้เห็นทุกวี่วัน

ห้วงเวลานั้นจึงเต็มไปด้วยโครงการปั้นสตาร์ทอัพเต็มไปหมด ทั้งเรื่องนวัตกรรมเพื่อสตาร์ทอัพ เทคโนโลยีสนับสนุน งานวิจัยรองรับ จัดที่ปรึกษา อบรมสัมมนา บรรดา สินเชื่อเพื่อสตาร์ทอัพดอกเบี้ยถูกๆ จากแบงก์รัฐทุกแห่ง แม้แต่การตั้งกองทุนร่วมลงทุนก็เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด กองละห้าร้อยล้านบ้าง พันล้านบ้าง ตั้งชื่อเท่ๆ มีให้เลือกเยอะมาก หลายหน่วยงานลงทุนปรับปรุงสถานที่จัดให้สตาร์ทอัพใช้ทำออฟฟิศแบบฟรีๆ หมดงบตกแต่งมากมายมหาศาล

เท่าที่จำได้มีประมาณนี้ กล้าพูดเต็มปากว่าเป็นยุคที่รัฐอุ้มสมคนรุ่นใหม่ให้แจ้งเกิดในวงการธุรกิจมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา อัดฉีดทุกมิติทั้งเรื่องนโยบาย เรื่องภาษี เรื่องการเงิน และบริการอีโคซิสทุกระบบแบบให้เปล่าจากทุกหน่วยงาน จัดหนักจัดเต็มมากสุดๆ !!

สังคมต่างเฝ้าฝันว่าเมืองไทยน่าจะรวยอู้ฟู่จากกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพที่ประกาศว่าจะปั้นให้เกิดขึ้นหลายหมื่นกิจการในปีนี้ แต่ละกิจการจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาลเป็นร้อยเป็นพันล้านเหมือนอาลีบาบา ธุรกิจยุคใหม่ลงทุนไม่กี่บาทแต่มีโอกาสขายได้เป็นล้านๆ ไม่รวยปีนี้จะไปรวยปีไหน!!

ถ้าจำไม่ผิดโครงการสตาร์อัพของทุกหน่วยงานได้เงียบหายหลังจากการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งที่แล้ว ผ่านมาเกือบปีจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสื่อมวลชนหรือหน่วยงานไหนช่วยรวบรวมแจ้งให้พวกเรารู้ว่าบัดนี้มีกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพเกิดขึ้นจริงจังแล้วกี่ราย สร้างมูลค่าทางธุรกิจกี่ล้าน โครงการของหน่วยงานต่างๆ ที่เคยแถลงข่าวเปิดตัวไว้มีผลสัมฤทธิ์นับจำนวนได้เท่าไรแล้ว ยอดสินเชื่อและเงินกองทุนร่วมลงทุนแต่ละแบงก์คืบหน้าเท่าไร อัดฉีดเม็ดเงินใหม่อุ้มสตาร์ทอัพไปแล้วกี่ราย และกิจการน้อยใหญ่อยู่รอดปลอดภัยเกิดดับกี่มากน้อย

อดเป็นห่วงไม่ได้...จากสถิติของกลุ่มสตาร์ทอัพรอดไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ พวกที่รอดไม่น่าห่วง แต่พวกที่ไม่รอดจะเป็นยังไง เด็กรุ่นใหม่จะเสียอนาคตหมดกำลังใจเข็ดเขี้ยวในการทำมาหากินต่อไปหรือไม่ จะเสียอนาคตเพราะติดประวัติทางการเงินเนื่องจากจ่ายหนี้ที่กู้มาลงทุนหรือไม่ บ้านเรามักเป็นเช่นนี้...แรงตอนเปิดตัว สื่อเล่นข่าวแค่ตอนเปิดโครงการ พอเวลาผ่านไปไม่นานก็ทำลืม

อยากให้มีการติดตามผลและวิเคราะห์จริงจังกับกลุ่มสตาร์ทอัพว่าเป็นอย่างไร คนที่รอดต้องเร่งต่อยอด แต่คนที่พลาดต้องไม่ทอดทิ้ง คนรุ่นใหม่ไม่ใช่หนูทดลองยา สตาร์ทอัพ...อย่าเป็น...สตาร์ทดับ จะกระทบกับเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาวนะครับ