posttoday

เกี่ยวข้าว by ริชชี่ไรซ์ แบรนด์ไทยสู่ตลาดโลก

19 กันยายน 2559

ในยุคนี้โอกาสการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ง่ายขึ้น เพราะมีหน่วยงานภาครัฐสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยอย่างเต็มที่

โดย...ปิยนุช ผิวเหลือง

“ในยุคนี้โอกาสการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ง่ายขึ้น เพราะมีหน่วยงานภาครัฐสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยอย่างเต็มที่ ทั้งการพัฒนาความรู้ เทคโนโลยี และด้านการเงิน แม้ว่าการเริ่มต้นธุรกิจไม่ใช่เรื่องยาก แต่การอยู่ในตลาดให้นานที่สุดยากกว่า ดังนั้นคุณภาพของสินค้าจึงเป็นตัวชี้วัด รักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้คงที่ และรักษาเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ ให้ได้” กนิดา เสนีย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ริชชี่ ไรซ์ โปรดักส์ กล่าวถึงแนวคิดในการทำธุรกิจ

กนิดา เป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวสังข์หยดแปรรูป ขนมอบกรอบสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ ที่มีจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ โดยเริ่มต้นเข้าสู่วงการธุรกิจค้าขายข้าวสังข์หยดสำเร็จรูป ตั้งแต่ปี 2552 ในตลาดโมเดิร์นเทรด ส่งออกทั้งในประเทศและต่างประเทศ เมื่อดำเนินกิจการสักระยะหนึ่ง คู่แข่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น จึงคิดค้นนวัตกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์เป็นขนมอบกรอบข้าวสังข์หยด ที่ทานได้ง่ายขึ้นและมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าขนมทั่วไป

นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในแง่ที่นำข้าวที่เหลือจากการส่งออกข้าว มาแปรรูปเพิ่มมูลค่าไปยังต่างประเทศ ซึ่งเหตุผลที่เลือกแปรรูปข้าวกล้องสังข์หยด สืบเนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นและกำลังล้นตลาด ช่วยระบายข้าวแก่เกษตรกร ขณะที่ทำให้บริษัทมีจุดแข็งคือการรักษาคุณภาพข้าวและการเข้าถึงวัตถุดิบโดยตรง ได้เปรียบในด้านความสดใหม่ และการขนส่งสินค้า โดยรวบรวมข้าวจากเกษตรกรในพื้นที่ จ.พัทลุง เป็นหลัก 4-5 กลุ่ม กลุ่มละ 30-40 ราย

ทั้งนี้ บริษัท ริชชี่ ไรซ์ โปรดักส์ เริ่มดำเนินธุรกิจเมื่อปี 2553 และสร้างแบรนด์เกี่ยวข้าว by ริชชี่ ไรซ์ ขนมอบกรอบจากข้าวสังข์หยด อย่างเป็นทางการในปีที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มลูกค้าไม่เพียงแต่เป็นเด็กเท่านั้น ยังรวมถึงกลุ่มผู้รักสุขภาพ ผู้สูงอายุ ปัจจุบัน ได้ส่งออกไปยังสิงคโปร์ จีน เวียดนาม และยุโรป และอยู่ระหว่างการเจรจาหาผู้แทนจำหน่ายในมาเลเซียและออสเตรเลีย โดยในตลาดต่าง
ประเทศจะใช้ชื่อแบรนด์ Royal Farmer By Richy Rice

“ปัจจุบันการทำตลาดภายในประเทศเพียงอย่างเดียว คงไม่เพียงพอ การเติบโตและขยายธุรกิจได้อย่างมั่นคง จำเป็นต้องบุกพื้นที่ต่างประเทศด้วย” กนิดา กล่าว

หัวใจสำคัญในการทำตลาดต่างประเทศ กนิดา กล่าวว่า การเลือกหุ้นส่วนตัวแทนจำหน่ายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด พิจารณาจากแผนการตลาด แนวคิดการพัฒนา ความมั่นคงทางการเงิน และแผนธุรกิจ ว่าตรงกับเป้าหมายของบริษัทหรือไม่ ซึ่งจะเน้นการทำตลาดไม่รวดเร็วแต่มั่นคง ที่สำคัญที่สุด คือ การศึกษาพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าในประเทศ โดยพบว่า สำหรับลูกค้าในกลุ่มประเทศพื้นที่อาเซียนค่อนข้างเชื่อถือและชื่นชอบสินค้าไทย

สำหรับแผนในอนาคต ต้องการให้แบรนด์เกี่ยวข้าว by ริชชี่ ไรซ์ เป็นแบรนด์ชื่อดังของคนไทย แสดงถึงเอกลักษณ์ ความเป็นไทย ต้องการปรับให้เป็นสินค้าของฝากเมื่อชาวต่างชาติมาเยือนประเทศ ไทย โดยปลายปีนี้ตั้งเป้าเปิดร้าน สินค้าแบรนด์เกี่ยวข้าว by ริชชี่ ไรซ์ ที่ จ.พัทลุง และวางเป้าหมายขยายเพิ่มในพื้นที่จุดต่างๆ ตามหัวเมืองสำคัญ ซึ่งได้ทำการตลาดออนไลน์เป็นหลัก

กนิดา มองว่า นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นทางธุรกิจยังต้องพัฒนาต่อเนื่อง โดยวางเป้าหมายเป็นแบรนด์ที่คนยอมรับทั่วโลก ซึ่งการสร้างความเติบโต จะเติบโตไปพร้อมกับเครือข่ายเกษตรกรที่เข้าร่วม เพราะ “ห่วงโซ่ต้องโตไปพร้อมกันพนักงานต้องโตไปกับเรา ชนะตัวเองให้ได้ในทุกวัน ความสำเร็จอยู่แค่เอื้อม”