posttoday

พรบ.หลักประกันธุรกิจมีผลแล้วช่วยSMEเข้าถึงสินเชื่อง่ายขึ้น

05 กรกฎาคม 2559

พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ มีผลบังคับใช้ทางการ ส่งผลดีเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ เข้าถึงสินเชื่อสะดวก

พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ มีผลบังคับใช้ทางการ ส่งผลดีเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ เข้าถึงสินเชื่อสะดวก

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมาพ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ จึงส่งผลดีต่อภาคธุรกิจเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ ที่สามารถขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ง่ายขึ้น โดยเปิดให้สามารถนำทรัพย์สินไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ ทั้ง กิจการ สิทธิเรียกร้อง วัตถุดิบ สินค้าคงคลัง ไปจนถึงทรัพย์สินทางปัญญา ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงสินเชื่อและมีเงินมาขยายธุรกิจเพิ่มสภาพคล่องมากขึ้น คาดว่ากฎหมายนี้จะเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพอย่างมาก และมีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมโครงการ ประมาณ 3 แสนรายในปีแรก

ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าวเป็นฉบับที่สำคัญเป็นประวัติศาสตร์ ที่เปิดโอกาสให้นำทรัพย์สินต่างๆ ดังกล่าว ไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ จากเดิมที่ผ่านมากลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่ที่ทำธุรกิจ จะประสบปัญหาไม่มีทรัพย์สินที่จะนำไปค้ำประกัน ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อกับธนาคารได้ รวมถึงจะช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ประกอบการไม่ต้องไปกู้นอกระบบ

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ จะเป็นผลดีอย่างมากกับผู้ประกอบการสองกลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่เริ่มต้นทำธุรกิจ หรือ สตาร์ทอัพ ที่ส่วนใหญ่ไม่มีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน และกลุ่มผู้ประกอบการที่กำลังขยายธุรกิจ ที่มักประสบปัญหาหลักประกันที่มีอยู่ ไม่เพียงพอมาขอสินเชื่อเพิ่ม โดยเมื่อมีกฎหมายทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อสะดวก และในขณะนี้ธนาคารทุกแห่งมีความเข้าใจกฎหมายใหม่ และเจ้าหน้ามีความพร้อมในเรื่อง รวมถึงหลายธนาคารเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว