posttoday

กะลาพะเยา ก้าวไกลสู่ตลาดโลก

02 กรกฎาคม 2558

กะลามะพร้าว หาใช่วัสดุสิ่งของที่ไร้ค่าเสมอไป หากเรามองเห็นคุณค่านำมาสร้างสรรค์ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม สามารถสร้างรายได้เป็นอาชีพยังยืนได้

โดย...อักษรา ปิ่นนราสกุล

กะลามะพร้าว หาใช่วัสดุสิ่งของที่ไร้ค่าเสมอไป หากเรามองเห็นคุณค่านำมาสร้างสรรค์ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม สามารถสร้างรายได้เป็นอาชีพยังยืนได้

จิดาภา มิ่งขวัญ หรือ ต้อย เจ้าของผลิตภัณฑ์ “กะลาพะเยา ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย” บอกว่า จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจเกิดจากคนในบ้านและมะพร้าวในบ้านจุดประกายขึ้นมาเนื่องจากเห็นลูกมะพร้าวแก่ร่วงหล่นลงมาลูกแล้วลูกเล่า ทิ้งไว้ก็เสียเปล่าประโยชน์ ก็ระดมความคิดกับคุณพ่อว่าจะทำกับลูกมะพร้าวอย่างไรดีเพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในเชิงธุรกิจ

“การแปรรูปลูกมะพร้าวสร้างมูลค่าเพิ่มช่วงแรกเริ่มทำที่ง่ายๆ ก่อน เช่น กระบวย พวงกุญแจ กิ๊บติดผม ต่างหู ฯลฯ จากนั้นก็พยายามคิดและแปลงสภาพของกะลา เจาะรู ฉลุให้เป็นรูปร่างแปลกๆ ตามที่คิดได้มาเรื่อยๆ จนในปี 2550 ทำอย่างจริงจังและเป็นงานอดิเรก ประกอบกับเป็นคนชอบคิดสร้างสรรค์ ทำให้มีรูปแบบใหม่ๆ จนทุกวันนี้สามารถทำได้หลากหลายขึ้น เช่น ออมสินตุ๊กตากะลา โคมไฟสารพัดรูปแบบ มีทั้งตุ๊กตา ช่อทะลายมะพร้าว โคมไฟกะลากว๊านพะเยา จานรองเทียนหอม เข็มขัด กระเป๋า ฯลฯ” จิดาภา กล่าวย้อนร้อยถึงแนวคิดจากจุดเล็กๆ ก่อนขยายไลน์การผลิตโกอินเตอร์

หลังจากที่มีผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างหลากหลายเป็นที่ชื่นชอบและเอกลักษณ์ของภูมิปัญญาจากกะลาไทยอย่างน่าภาคภูมิใจแล้ว “ต้อย” นำผลงานเข้าร่วมประกวดเป็นสินค้าโอท็อป จนได้รับรางวัลระดับ 3 ดาว จากกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา ด้วยปูพรมบุกตลาดภาคเหนือ ตลอดทั้งตลาดสวนจตุจักร กรุงเทพฯ เน้นเจาะตลาดกลุ่มที่ชอบผลิตภัณฑ์ประเภทของตกแต่งห้องสปาหรือรีสอร์ท ที่พัก

“สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นจำพวกกะลาใส่เทียนหอม โคมไฟสีต่างๆ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศจะเป็นที่ต้องการอย่างมาก ส่วนราคาขายมีตั้งแต่ 20 บาท จนถึง 600 บาท ผลิตภัณฑ์ที่ราคาถูก เช่น พวงกุญแจ กิ๊บติดผม ต่างหู เข็มขัด หรือส่วนที่เหลือจากออร์เดอร์ ส่วนราคาสูงระหว่าง 100-200 บาท เป็นจำพวกออมสินตุ๊กตากะลารูปแบบต่างๆ และราคาระหว่าง 400-600 บาท คือ กระเป๋า โคมไฟ ซึ่งมีหลายรูปแบบงดงามต่างกันออกไป จะนับเป็นช่อไฟช่อละ 50 บาท”

จิดาภา บอกต่อว่า กลยุทธ์การตลาดแบ่งออก 2 ตลาดหลัก คือ 1.การออกบูธในงานระดับชาติที่กรุงเทพฯ ครั้งละไม่น้อยกว่า 7-10 วัน โดยจะมีลูกค้าประจำและพบลูกค้าใหม่ต้องการสินค้าตลอดเวลา และ 2.ทำตลาดทางโซเชียลมีเดีย คือ เฟซบุ๊ก ชื่อ “จิดาภา มิ่งขวัญ” ซึ่งจะมีรูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบเสนอต่อลูกค้าทั่วโลก สั่งได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าจากทั่วโลกสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับลูกค้าสนใจติดต่อซื้อสินค้าและแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ที่โทรศัพท์ 08-9516-9040 หรือติดต่อได้ที่อยู่บ้านเลขที่ 133/1 หมู่ 9 บ้านทุ่งรวงทอง ต.ทุ่งรวงทอง อ.จุน จ.พะเยา 56150