ปลุกตลาดไอศกรีมไทยคึก แบรนด์ใหม่ “แอมเพอร์แซนด์”

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

จากความหลงไหลในการรับประทานไอศรีม จึงเป็นแรงผลักดันให้ เกิดธุรกิจไอศกรีมโฮมเมด กับสาวรุ่นใหม่ที่เรียนจบมาด้านการบริหารธุรกิจ พลิกผันมาทำธุรกิจเต็มตัวและเริ่มธุรกิจแรกกับแบรนด์ไอศกรีม “แอมเพอร์แซนด์ ” (Ampersand)

 “ศศิวิมล เพ็ชรน้ำสิน” เจ้าของแบรนด์ไอศกรีม “แอมเพอร์แซนด์ ไอศกรีม เจลาโต้” เปิดเผยว่า ธุรกิจแรกในชีวิตคือ การเปิดร้านไอศรีมและขนม ที่ชื่นชอบอย่างมาก และเข้าไปเรียนอย่างจริงจัง ทั้งจากผู้เชี่ยวชาญการทำไอศรีมเจลาโต้ในประเทศไทยและออกไปเรียนในต่างประเทศจนรู้ถึงส่วนผสมต่างๆ ว่ามีผลต่อผู้บริโภคอย่างไร ทำให้มั่นใจกับสูตรไอศกรีมที่ได้คิดค้น ทำให้ตัดสินใจเปิดร้าน สาขาแรก ในซอยสุขุมวิท 39 ประมาณ 1 ปี ขนาดพื้นที่ 100 ตร.ม. และใช้งบลงทุนเปิดสาขากว่า 1 ล้านบาท

“แอมเพอร์แซนด์” แบรนด์ไอศกรีมน้องใหม่นี้ แม้จะเพิ่งเปิดมาเกือบ 1 ปี สามารถสร้างชื่อเสียงโด่งดัง ขนาดมีลูกค้าสนใจติดต่อซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดในต่างประเทศแล้ว “ศศิวิมล” กล่าวต่อว่า สนใจที่จะไปเปิดสาขาในต่างประเทศ โดยเฉพาะในอาเซียน แต่อยากสร้างแบรนด์ในประเทศให้แข็งแกร่ง และมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ของ แอมเพอร์แซนด์ใหม่ปีละประมาณ 1-2 สาขาเท่านั้น เพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพ รสชาติไอศกรีม และการบริการแก่ลูกค้า

ในปีนี้เตรียมเปิดสาขาใหม่ แห่งที่ 2 ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ คาดว่าจะเปิดสาขาได้ในเดือน มี.ค.นี้ ถือเป็นการขยายตลาดมาอยู่ในศูนย์การค้า เพื่อต้องการให้ลูกค้าในเมืองเข้ามารับประทานได้สะดวกที่สุด เชื่อมั่นว่า การเปิดสาขาในศูนย์การค้าครั้งนี้ จะช่วยสร้างแบรนด์ให้ลูกค้ารู้จักมากขึ้น

เอกลักษณ์ของ ไอศกรีม “แอมเพอร์แซนด์” ที่ทำให้ลูกค้าชื่นชอบและติดใจในรสชาติ มาจาก มีหลากหลายรสชาติรวม 15 รสชาติ อาทิ ดาร์ก ชอคโกแลต รสพิตาชิโอ รสเมเปิ้ล รสชาเขียว พร้อมกับมีเมนูขนมหวาน และเครื่องดื่ม ในรูปแบบเช็ท ส่วนวัตถุดิบเลือกใช้คุณภาพสูงจากต่างประเทศ จึงให้ความเข้มข้นของรสชาติ ไขมันน้อย และเนื้อไอศกรีมเนียน ไม่มีการใส่สารกันบูด ไม่แต่งกลิ่น และไม่ใส่สี จึงเป็นผลดีต่อลูกค้า และกลุ่มลูกค้าที่มุ่งดูแลสุขภาพ

ลูกค้าเป้าหมาย จะเน้นกลุ่มระดับกลางและระดับบน (พรีเมี่ยม) โดยได้วางราคาขายไอศรีมจะเริ่มต้นที่ 79 บาท มาจากการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงและนำเข้ามาจากต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ตลาดไอศรีมตลาดกลางและระดับบน เป็นตลาดที่มีช่องว่างที่จะเติบโตได้ และกำลังซื้อของคนในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ผลการเปิดร้านในช่วงที่ผ่านมา อยู่ระดับน่าพอใจมาก เพราะลูกค้าที่เข้ามารับประทานขนมในร้านแล้ว ก็จะกลับมารับประทานซ้ำ มีลูกค้าต่างประเทศ ที่ทำงานอยู่ในบริเวณดังกล่าว เข้ามาในร้านทั้ง ประเทศแคนาดา สหรัฐ จีน และญี่ปุ่น สิ่งพิเศษอีกด้านของร้านคือ “ศศิวิมล” จะทำหน้าคิดค้นวัตถุดิบจากทั่วโลก มาสร้างเป็นเมนูใหม่ พิเศษตามเทศกาล ทำให้ลูกค้าประทับใจ เช่น เจลาโต้ พิซซ่า และฟูจิซัง เป็นต้น

“การทำแบรนด์ในช่วงแรกให้ลูกค้ารู้จักนั้น จะเลือกไปร่วมออกบูธในพื้นที่ต่างๆ ทั้งในศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และในงานเทศกาล ส่งผลให้ลูกค้ารู้จักมากขึ้น รวมทั้งได้ทำการตลาดผ่านช่องทางเฟซบุ๊ค www.facebook.com/theampersandboutiqueรวมทั้งมีการเปิดรสไอศกรีมใหม่ตามเทศกาลสำคัญต่างๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของเมนูในร้าน เพราะคนไทยชื่นชอบการรับประทานไอศกรีม และชอบไอศกรีมหลายรสชาติ” ศศิวิมล กล่าว

“ศศิวิมล” เป็นผู้ดูแลร้านและบริหารงานร้านด้วยตัวเอง มีไอเดีย และนวัตกรรมในการทำสูตรไอศกรีม ขนม และเครื่องดื่ม  นานาชาติ จึงมั่นใจว่า ธุรกิจจะต้องเติบโตอย่างสดใส พร้อมวางแผนทยอยเปิดสาขาใหม่ ในทำเลที่มีศักยภาพ เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจับตามองและกำลังมาแรงในตลาดไอศกรีม ที่จะช่วยปลุกตลาดไอศรีมในประเทศไทยให้ร้อนแรง

สอดส่องตลาดรวมไอศกรีมในประเทศไทย มีมูลค่ารวมมากกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดไอศกรีมระดับพรีเมี่ยม ในสัดส่วน 30% อีก 70% เป็นตลาดระดับกลางและล่าง โดยตลาดรวมมีการเติบโต 10-15% ต่อปี ดังนั้น นับจากนี้ไป ตลาดไอศกรีมไทยจะคึกคักมากขึ้น

แนวคิดทำธุรกิจไอศกรีมเจลาโต้
-มีเมนูใหม่ และเมนูพิเศษตามเทศกาล
-เลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง นำเข้าจากต่างประเทศ
-ควบคุมคุณภาพและให้บริการที่ดีสุด
-ใช้ใจรักในการทำขนม พร้อมกับความชื่นชอบทำธุรกิจ