posttoday

"ดีสวัสดิ์" เฟอร์นิเจอร์ติดอันโลก ธุรกิจไม้อนาคตรุ่ง

11 พฤศจิกายน 2557

การสร้างสินค้าไทยไปสู่ตลาดโลก แบรนด์ “ดีสวัสดิ์” เฟอร์นิเจอร์สัญชาติไทยแท้ สามารถส่งออกสินค้าได้ไปได้ทั่วโลก

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

การสร้างสินค้าไทยไปสู่ตลาดโลก แบรนด์ “ดีสวัสดิ์” เฟอร์นิเจอร์สัญชาติไทยแท้ สามารถส่งออกสินค้าได้ไปได้ทั่วโลก มีแนวคิด วิธีการทำตลาด และสร้างแบรนด์ที่สุดโดดเด่น ทำให้กวาดใจลูกค้าได้หลายประเทศ โดยมีตลาดส่งออกหลักในประเทศ ญี่ปุ่น รองลงมาสหรัฐ และยุโรป

“จิรวัฒน์ ตั้งกิจงามวงศ์” รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาหกรรม ดีสวัสดิ์ ผู้บริหารแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไม้ “ดีสวัสดิ์” (DEESAWAT) เปิดเผยว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ เพราะทำให้ลูกค้ารู้จักและจดจำสินค้า โดยการจะสร้างแบนด์ออกมาสู่ตลาด จำเป็นสร้างสรรค์ดีไซน์สินค้าที่มีความโดดเด่น เหมาะสมกับการใช้งานของลูกค้า ซึ่งบริษัทมุ่งดีไซน์สินค้าที่เน้นเฟอร์นิเจอร์สำหรับใช้งานนอกบ้าน และมีทีมดีไซเนอร์หลักจากประเทศญี่ปุ่น 3 ทีม

การมุ่งสร้างสรรค์ออกงานแบบใหม่ๆ ทำให้ “ดีสวัสดิ์” สามารถได้รับรางวัลมากมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการออกแบบงานใหม่จะไม่ได้กำหนดว่าในแต่ละปีจะต้องมีกี่คอลเลคชั่น ขึ้นอยู่กับความต้องการตลาด ลูกค้า และการออกแบบของดีไซเนอร์ ประกอบกันด้วย

รวมทั้งการที่บริษัทมุ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้าว่าในทุกชิ้นต้องมีคุณภาพเท่าเทียมกัน สามารถใช้งานได้ทนทาน ทำให้ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา มีลูกค้าหลักประจำที่ใช้สินค้ามาต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนยอดขายต่างประเทศ 80% และในประเทศ 20% โดยแม้ว่าจะมีลูกค้าประจำ แต่องค์กรไม่เคยหยุดนิ่ง กลับมุ่งมั่นหาโอกาสใหม่ และตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ

ตลาดใหม่ที่กำลังรุกคือ อาเซียน และอาเซียน+6 ประกอบไปด้วย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยช่วงแรกจะเข้าไปทำตลาดใน 6 ประเทศที่สำคัญก่อน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งในประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าไปทำตลาดนานหลายปีแล้ว ส่วนประเทศอื่น จะมุ่งเข้าไปหาพันธมิตรเพื่อให้เป็นคู่ค้า

ระยะต่อมาจะเข้าไปทำอาเซียน มี 2 โมเดลคือ โมเดลแรก จะมุ่งใช้การเข้าไปหาพันธมิตรในแต่ละประเทศเพื่อทำตลาด เพราะแต่ละประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ตลาดมีความน่าสนใจ และลูกค้าในประเทศดังกล่าวมีกำลังซื้อดี มีตลาดเฉพาะกลุ่ม โมเดลต่อมา การค้าขายชายแดน

การเข้าไปหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเป็นคู่ค้านั้น สามารถหาคู่ค้าได้จากการไปร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ เพื่อได้พบลูกค้า การทำหนังสือเข้าไปเยี่ยมชมบริษัทที่สนใจ หรือให้ภาครัฐช่วยแนะนำบริษัทที่มีศักยภาพ ซึ่งการเป็นคู่ค้าก็สามารถนำสินค้าจากประเทศดังกล่าวมาทำตลาดในไทยได้ด้วย โดยที่ผ่านมา บริษัทไปร่วมงานแฟร์ระดับโลกมากมาย ทำให้ได้พบคู่ค้าที่ดีมากในต่างประเทศ โดยงานแฟร์ที่ได้เคยไปร่วมงานเช่น ในประเทศอิตาลี หรือฝรั่งเศส

 “ผมอยากแนะนำเอสเอ็มอีไทย ที่อยากสร้างแบรนด์ในตลาดโลก ต้องไปร่วมงานแฟร์ที่ดีๆ ในโลก เพราะที่นี้คุณจะพบกับคู่ค้าที่ดีมาก ที่ผ่านมาผมเคยไปออกงานแฟร์ที่ฝรั่งเศส ทำให้ได้เจอลูกค้าที่ดีมาจากประเทศอินเดีย” จิรวัฒน์ กล่าว

ระยะสุดท้ายจะเข้าค้าขายชายแดน อยู่ระหว่างศึกษาว่าจะใช้รูปแบบใดเหมาะสมที่สุด เพราะตลาดการค้าชายแดนกำลังเติบโตได้ดี เห็นได้จากตลาดท่องเที่ยวขยายตัวสูง ดังนั้นเชื่อว่า จะมีธุรกิจโรงแรมเกิดขึ้นจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสที่ดีในการนำเฟอร์นิเจอร์ของ ดีสวัสดิ์ เข้าไปรุกทำตลาดกลุ่มลูกค้าโปรเจกต์ได้

“โจทย์วันนี้ผู้ประกอบการทุกคน วิ่งหาลูกค้าทั่วโลก เอสเอ็มอีไทยจะอยู่เฉยไม่ได้ ต้องวิ่งหาลูกค้าทั่วโลกเช่นกัน โดยเฉพาะเปิดเออีซีเราต้องไป ถ้าไม่ไปหาตลาดอาเซียนก็ต้องเตรียมรับมือลูกค้าต่างชาติบุกมาหาเราแน่นอน” จิรวัฒน์ กล่าว

อีกหนึ่งช่องทางทำให้ได้ลูกค้านั้น การที่เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (นิชมาร์เก็ต) จึงได้ตลาดที่ชัดเจน และลูกค้าก็จะชื่นชอบสินค้าที่มีเอกลักษณ์ อีกทั้งบริษัทเน้นสร้างแบรนด์ผ่านสื่อในโลก ด้วยการลงสื่อชื่อดังในต่างประเทศ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการทำตลาดผ่านออนไลน์ ส่งผลให้ชาวต่างชาติรู้จักแบรนด์

ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมียอดขายรวมเติบโต 5% จากปีก่อน อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ท่ามกลาง ปัจจัยลบในประเทศและต่างประเทศที่มีหลายด้าน อีกทั้งตลาดก็แข่งขันรุนแรงและดุเดือดขึ้นทุกวัน

“ตลาดโดยรวมไม่ดีมากนัก ทำให้บริษัทกลับมาลงทุนพัฒนาองค์กร โรงงานใหม่ ทั้งการลงทุนระบบในโรงงาน การปรับการผลิตที่กลายเป็นโรงงานเพื่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีของเสีย เพื่อส่งผลดีต่อชุมชน ปรับระบบไฟฟ้า พัฒนาไอที เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในองค์กรใช้งบลงทุนตลอดปีที่ผ่านมาประมาณ 10-20 ล้านบาท” จิรวัฒน์ กล่าว

จิรวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ก้าวต่อไปของแบรนด์ ดีสวัสดิ์ จะรุกสร้างแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไม้ ให้กลายเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์มากขึ้น เพื่อเชื่อมโยงงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ ให้ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากที่สุด โดยอยู่ระหว่างศึกษาตลาดและสินค้าร่วมกับทีมดีไซเนอร์ เชื่อมั่นว่า โอกาสของแบรนด์ไทยในตลาดโลกมีอีกมหาศาล

แนวคิดธุรกิจ
-สร้างดีไซน์ใหม่ ที่แตกต่าง โดดเด่น
-รักษาคุณภาพสินค้าสม่ำเสมอ
-ร่วมงานแฟร์ระดับโลกเพื่อพบคู่ค้า ลูกค้าที่ดี
-หาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพต่อเนื่อง
-ใช้สื่อโชเชียล มีเดียในโลก เพื่อสร้างแบรนด์