ครั้งแรกในโลก"พลีพรีม"เครื่องดื่มบำรุงน้ำนม

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

ครั้งแรกในโลกกับเครื่องดื่มสำหรับคุณแม่ช่วยบำรุงน้ำนมแม่ ของแบรนด์ “พลีพรีม” ที่นำปลีกล้วย มาทำเป็นเครื่องดื่ม จากไอเดียสาวไทยความสามารถสูง ที่ต้องการสร้างธุรกิจใหม่และใช้ความรู้จากภูมิปัญญาคนโบราณ สืบทอดมาว่า ปลีกล้วยช่วยบำรุงน้ำนม สามารถสร้างเครื่องดื่มใหม่ได้อย่างมีนวัตกรรมสร้างสรรค์

“ขนิษฐา จันทร์ขจรชัย” ผู้บริหาร ห้างหุ้นส่วนจำกัด กาญจน์วารินทร์ ผู้ผลิตอาอาหารและเครื่องดื่ม บำรุงน้ำนมแม่จากดอกกล้วยสกัด แบรนด์ “พลีพรีม” (PLEE PREME) รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย จาก จ.ลำพูน เปิดเผยว่า ได้พัฒนาสินค้าเครื่องดื่มแบรนด์ พลีพรีม เข้ามาทำตลาดประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา และทำตลาดอย่างจริงจังประมาณ 1 ปี เป็นเครื่องดื่ม บำรุงนมแม่จากดอกกล้วยสกัด เป็นรายแรกในประเทศ และเป็นสินค้าเกษตรอินทรีย์ (ออแกนิคส์)

เครื่องดื่มบำรุงนมแม่ ที่ได้มีการร่วมมือพัฒนาสินค้าจากมหาวิทยาลัยรัฐ อาทิ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นต้น จึงได้สารอาหารต่างๆ ครบถ้วน มีประโยชน์ต่อคุณแม่ในการบำรุงน้ำนม และเข้าร่วมโครงการกับ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เพื่อพัฒนาสินค้าต่างๆ สร้างเครือข่าย (คลัสเตอร์) จึงเริ่มนำสินค้าเข้ามาทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เฟสบุ๊ค และเว็บไซด์ www.pleepreme.com

กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นคุณแม่ที่กำลังเตรียมให้น้ำนมลูก และมีปัญหาการให้นมลูกที่มีน้ำนมออกมาน้อย รวมถึงกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ และต้องการดูแลร่างกาย เพราะเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสมกับลูกค้าในทุกวัย โดยสินค้าที่ทำตลาดมี 7 รายการ ทั้งแบบผง ชา และแบบขวดพร้อม ที่เริ่มเปิดตัวเข้ามาทำตลาดในเร็วๆ นี้ ทำให้ลูกค้าดื่มได้ง่ายขึ้น

สำหรับปลีกล้วยที่นำเข้ามาผลิตสินค้านั้นได้นำมาจาก จ.พิษณุโลก โดยเป็นพื้นที่ปลูกกล้วยแบบออแกนิคส์ขนาดใหญ่ในประเทศ จึงได้ร่วมมือกับ กสอ. สร้างเครือข่ายกลุ่มผลิตสินค้าเพื่อให้ส่งผลผลิตกล้วยส่งมาผลิตในโรงงาน โดยปลีกล้วย เมื่อนำมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่มนั้น สามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าได้ถึง 6 เท่า

การลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ได้ใช้งบไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท เพื่อปรับปรุงสินค้าอย่างต่อเนื่อง และลงทุนสร้างโรงงาน รวมทั้งมีการว่าจ้างให้บริษัทอื่นผลิตสินค้าในบางชิ้นส่วน รวมทั้งยังมีการให้วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ มาร่วมผลิตสินค้า

พร้อมกันนี้ได้มุ่งปรับบรรจุภัณฑ์ (แพคเกจจิ้ง) ให้สวยงา ทำให้สินค้ามีเอกลักษณ์และลูกค้าจดจำง่าย รวมทั้งได้ใช้กลยุทธ์ให้ลูกค้าคุณแม่ทดลองใช้สินค้า ส่งผลให้คุณแม่ที่ใช้สินค้าแล้ว เกิดกระแสบอกปากต่อปาก จึงมีคุณแม่รายอื่น สนใจใช้สินค้าเพิ่มขึ้น โดยหลังจากผลทำตลาดอย่างจริงจังในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา สร้างยอดขายกว่า 1 ล้านบาท

ขณะที่อุปสรรคการทำสินค้าที่ผ่านมา มีตั้งแต่การเริ่มทำธุรกิจทั้งที่ไม่ความรู้มาก่อน การไม่มีความรู้เรื่องพัฒนาสินค้าใหม่ รวมทั้งการเป็นคุณแม่มือใหม่ ที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว จึงมีความเข้าใจในเรื่องพัฒนาสินค้าและการทำให้สินค้าเพื่อให้คุณแม่มือใหม่ทุกคน อีกทั้งได้เครือข่ายภาครัฐ กสอ.และมหาวิทยาลัยรัฐ คอยแนะนำและให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนต่างๆ

อีกทั้งหลังจากเปิดตัวสินค้าเข้ามาทำตลาดไม่นานนัก ก็ประสบปัญหาเรื่องพนักงานที่ทำงานด้วย ได้ลาออกจากบริษัทและไปเปิดตัวสินค้าในรูปแบบเดียวกันเข้ามาทำตลาด ถือเป็นอุปสรรคครั้งสำคัญ จึงต้องกลับมาพัฒนาและสร้างสินค้าให้ดีขึ้น มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ และมีปัจจัยบวกที่ลูกค้าเก่าจดจำสินค้าได้ จึงยังนิยมซื้อสินค้าต่อไป

แผนงานต่อจากนี้จะขยายช่องทางการขายในประเทศมากขึ้น ทั้งช่องทางขายสินค้าในโรงพยาบาล ร้านค้าเพื่อสุขภาพ เพื่อให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าได้สะดวกที่สุด มุ่งขยายช่องทางออนไลน์ และเตรียมนำสินค้าเข้าไปทำตลาดในต่างประเทศคือ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (ยูเออี) เป็นประเทศแรก เพราะเป็นประเทศที่มีมาตรฐานสินค้าสูง และเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสินค้าที่ดี หากเข้าประเทศยูเออีได้ จะสามารถขยายตลาดในประเทศอื่นได้ต่อไป

รวมทั้งสนใจเข้าตลาดในอาเซียน คาดว่าจะเริ่มทำต่างประเทศอย่างจริงจังในปีหน้า รวมทั้งจะเปิดตัวสินค้ากลุ่มอาหารสำหรับคุณแม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น และระยะยาวจะต้องขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสำหรับคุณแม่รุ่นใหม่ ทั้งคุณแม่ที่กำลังเริ่มตั้งครรภ์ คุณแม่มือใหม่ และคุณแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว