posttoday

แนะช่องSME-โอท็อปบุกจีน"ผลไม้-อาหารไทย"ดาวรุ่ง

26 พฤษภาคม 2557

ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับการหาตลาดใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการสินค้าเอสเอ็มอีและโอท็อป

โดย....วราภรณ์ เทียนเงิน

ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับการหาตลาดใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการสินค้าเอสเอ็มอีและโอท็อป ในภาวะที่สถานการณ์ในประเทศกำลังประสบปัญหาเรื่องการเมือง และเศรษฐกิจชะลอตัว โดยตลาดที่มีโอกาสอย่างมากคือ ประเทศจีน จากจำนวนประชากรที่มากกว่า 1,000 ล้านคน และเป็นตลาดที่มีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก ทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจและกำลังซื้อของชาวจีนกำลังเบ่งบาน

ทั้งนี้ “กงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง” ได้จัดงาน “งานเทศกาลไทย 2014” ขึ้นระหว่างวันที่ 9-14 พ.ค.ที่ผ่านมา บริเวณลานอเนกประสงค์ ศูนย์การค้า South Asia Top City ณ นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน โดยเป็นงานร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งกรมการพัฒนาชุมชน (พช.)  สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฯลฯ จัด ได้นำผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และโอท็อป รวม 100 ราย ร่วมออกร้านแสดงและจำหน่ายสินค้า

สสว. ได้นำผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่อยู่ในโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการท่องเที่ยว ที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมาจากทุกภูมิภาคของประเทศ รวมทั้งผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง รวม 20 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอาหารและผลไม้แปรรูป อัญมณีและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์สปาและสมุนไพรไทย เสื้อผ้าและของใช้จากผ้า รวมทั้งของใช้และของตกแต่งบ้าน ฯลฯ

งานนี้สินค้าไทยได้รับความสนใจจากชาวจีนสูงมาก โดยผู้ประกอบการสามารถสร้างยอดขายภายในงานสูงถึง 39 ล้านบาท และมีการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยและจีน มียอดการสั่งซื้อล่วงหน้ามากกว่า 64 ล้านบาท โดยสินค้าไทยที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้บริโภคชาวจีน ได้แก่ ผลไม้ ไทยและอาหารไทย เช่น ทุเรียน มะพร้าวอ่อน เงาะ มังคุด ผัดไทย ส้มตำ ฯลฯ

ส่วนสินค้าของเอสเอ็มอีที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้บริโภคและผู้ซื้อรายใหญ่ชาวจีน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว เช่น ข้าวแต๋น สาหร่ายทอดปรุงรส ของบริษัท ทวีภัณฑ์โปรดักส์ และบริษัท เอส เอ็น เอ มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เมนูแฟคเจอรริ่ง , อาหารกึ่งสำเร็จรูปของ บริษัท รสยาม และบริษัท เจริญดี เซิร์ท, เครื่องประดับไข่มุก ของบริษัท สยามไดมอนด์จิวเวอร์รี่ ผลิตภัณฑ์ของใช้บนโต๊ะอาหาร ของบริษัท เอ็น วี แรร์วู๊ด โปรดักส์ และกระเป๋าผ้า ของกลุ่มวิสาหกิจเย็บกระเป๋าจากไม้ไผ่

น.ส.ปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า เมืองคุนหมิง เป็นหนึ่งในตลาดหลักที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ได้ติดต่อค้าขายและเชื่อมโยงธุรกิจมาเป็นเวลานาน  โดยการเข้าร่วมงานเทศกาลไทย 2014 ครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยและมีโอกาสขยายตลาดได้มากในอนาคต โดยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ไทยส่งออกสินค้าไปจีน คิดเป็นมูลค่า 54,505.45 ล้านบาท และมีการนำเข้าสินค้าจากจีน คิดเป็นมูลค่า 134,815.44 ล้านบาท

สำหรับเมืองคุณหมิง ถือเป็นตลาดการค้าที่สำคัญของผู้ประกอบการไทยอย่างมาก จากจำนวนประชากรมากกว่า 9 ล้านคน เป็นเมืองท่าใหญ่อันดับ 4 ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นประตูการค้าด้านตะวันตกที่สำคัญมาก โดยรัฐบาลจีนได้วางเป้าหมายให้เป็น ประตูเชื่อมสู่ภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งที่ผ่านมามีการพัฒนาเส้นทางคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยเฉพาะเส้นทาง R3A ที่เชื่อมกับไทย ลาว และเวียดนาม ทำให้เกิดการค้าการลงทุนระหว่างจีนและภูมิภาคอาเซียนเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงเชื่อว่า อนาคตการส่งออกสินค้าไทยไปเมืองคุนหมิง จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน

สสว.มั่นใจว่า ความสำเร็จในการจัดงานเทศกาลไทย 2014 ณ นครคุนหมิง จะส่งผลดีต่อสินค้าไทยในตลาดประเทศจีน และจะช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สินค้าไทย ศิลปะและวัฒนธรรมไทย สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีน ที่สำคัญจะเป็นช่องทางการสร้างโอกาสการค้าสู่กลุ่มประเทศ อาเซียน +3 ต่อไป โดย หากสินค้าไทยสามารถเจาะใจชาวจีนได้แล้ว เพียงเมืองเดียว ก็เปรียบเสมือน ได้โอกาสสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่อีกหนึ่งประเทศเลยทีเดียว

ท้ายที่สุด หากภาครัฐเร่งกระตุ้นตลาดในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น และนำพาเอสเอ็มอีไทย รวมถึงโอท็อปไปเปิดตลาดใหม่อย่างต่อเนื่อง โอกาสที่สินค้าไทยจะสร้างความประทับใจให้แก่คนทั่วโลกมีสูงแน่นอน