posttoday

เครียดการเมืองคนชะลอซื้อเพชร

24 กุมภาพันธ์ 2557

ตลาดเครื่องเพชร เครื่องประดับในประเทศ ยอดขายหด 30% ลูกค้ากระเป๋าหนักชะลอใช้จ่าย เครียดการเมืองพุ่ง คาดไตรมาส 3 ตลาดฟื้น

ตลาดเครื่องเพชร เครื่องประดับในประเทศ ยอดขายหด 30% ลูกค้ากระเป๋าหนักชะลอใช้จ่าย เครียดการเมืองพุ่ง คาดไตรมาส 3 ตลาดฟื้น

นายพรชัย ชื่นชมลดา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พรชัยอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และอดีตนายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ เปิดเผยว่า ภาพรวมกำลังซื้อของตลาดอัญมณีและเครื่องประดับในประเทศอยู่ในภาวะที่ชะลอตัวลงอย่างชัดเจน โดยร้านค้าอัญมณี เครื่องประดับในประเทศ มียอดขายลดลงประมาณ 30-40% เนื่องจากลูกค้ากลุ่มระดับบนที่มีกำลังซื้อสูง ไม่มีอารณ์ในการใช้จ่ายซื้อสินค้ากลุ่มดังกล่าว เพราะมีความกังวลจากสถานการณ์การเมืองในประเทศ

ขณะเดียวกัน บรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ดัชนีปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ก็กระทบให้ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวมีกำไรที่จะมาซื้อสินค้าเครื่องประดับลดลง ซึ่งกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อสูงนั้น ส่วนใหญ่จะนิยมซื้อ เพชร เป็นอันดับหนึ่ง รองลงมา ได้แก่ มรกต และจิลเวรี่ ทั้งนี้ เพชรที่นิยมซื้อสูงสุดนั้น ลูกค้าจะซื้อในราคาประมาณ 1 ล้านบาทต่อเม็ดขึ้นไป จนถึงราคาหลายสิบล้านบาท โดยนิยมซื้อไว้เป็นเครื่องประดับใส่ในงานต่างๆ

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ในประเทศสงบลงแล้ว คาดว่า ลูกค้ากลุ่มนี้จะกลับมาใช้จ่ายจำนวนมาก และมีโอกาสที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อสินค้าตามปกติได้ในไตรมาส 3 หรือ ไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยลูกค้าในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะซื้อไว้เพื่อสวมใส่มากที่สุด ซื้อไว้เพื่อลงทุนจะมีสัดส่วนที่น้อยอยู่ ส่วนต่างประเทศลูกค้าจะนิยมซื้อไว้เพื่อลงทุนมากที่สุด

สำหรับ ผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับรายใหญ่ ที่เน้นจำหน่ายสินค้าในประเทศมีจำนวนประมาณ 4 ราย ก็ได้รับผลกระทบจากลูกค้าจากต่างชาติมีจำนวนลดลงมาก ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องปรับตัวด้วยการหาตลาดใหม่ในต่างประเทศ และไปร่วมงานแสดงสินค้าแสดงสินค้า (แฟร์) ในต่างประเทศมากขึ้น รวมทั้งต้องมุ่งขยายตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในตลาดอาเซียน และเอเชีย ที่กำลังซื้อสินค้ากลุ่มนี้ขยายตัวดีมาก พร้อมกับเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น

ทางด้านภาพรวมการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในปีนี้ คาดว่า จะเติบโตได้ 5% จากปีก่อน เพราะกำลังซื้อของตลาดหลักเริ่มกลับมาขยายตัวดีขึ้นแล้ว ทั้งตลาดสหรัฐ ยุโรป รวมถึงญี่ปุ่น มีแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ ประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตสำคัญของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ทั้งสินค้า พลอย ที่ผ่านการเจียระไนแล้ว และตัวเรือนเครื่องประดับเพื่อส่งออก ถือเป็นประเทศที่มีการนำเข้าวัตถุดิบในแต่ละปีจำนวนสูงมาก

ทั้งนี้ บริษัทก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองเช่นเดียวกัน เพราะลูกค้าจากยุโรป ชะลอเดินทางเข้ามาในประเทศ เพราะมีความกังวลจากสถานการณ์การเมือง และระบุว่า จะเดินทางในประเทศไทยเมื่อสถานการณ์ทุกอย่างปรับตัวดีขึ้นแล้ว ทำให้บริษัท ต้องมุ่งหาลูกค้าในตลาดเอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีน และลูกค้าในอาเซียนแทน

ขณะที่ รายได้รวมของบริษัท ในสิ้นปี 2557 นี้ คาดว่า จะทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งยอดขายในประเทศและการส่งออก ต่อเนื่องจากปีก่อน แต่ในปี 2558 เมื่อสถานการณ์ของประเทศดีขึ้นแล้ว จะทำให้รายได้รวมของบริษัทกลับมาเติบโตอีกครั้ง