posttoday

มังคุค SUPER FRUIT

16 ธันวาคม 2556

เจาะสุดยอดเอสเอ็มอี มังคุค SUPER FRUIT

เจาะสุดยอดเอสเอ็มอี มังคุค SUPER FRUIT
โดย วราภรณ์ เทียนเงิน

สำหรับทีมที่สองที่เข้ารอบการประกวด “สุดยอดแผนธุรกิจ (SMEs Advance Business Plan Champion 2013) ที่จัดโดย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) คือ “SUPER FRUIT” การใช้นวัตกรรมยืดอายุผลมังคุดเพื่อการส่งออก

“อนิวรรตน์ สมาธิวัฒน์” หนึ่งในสมาชิกของ ทีม “SUPER FRUIT” หรือ ซุปเปอร์ ฟรุ๊ต เปิดเผยว่า นวัตกรรมการยืดอายุมังคุดเพื่อส่งออกมาจากแนวคิดที่ว่า การส่ง ออกมังคุดของไทยไปต่างประเทศจะมีอายุจัดเก็บเพียง 15 วัน จึงส่งออกได้เฉพาะประเทศที่อยู่ใกล้ๆ ทั้งที่ในปัจจุบันมี นวัตกรรม ทำให้การจัดเก็บ ผัก มีอายุนานมากขึ้น จึงได้นำมาปรับใช้กับ มังคุด ทำให้สามารถยืดอายุมังคุดส่งออกได้ถึง 45 วัน

แผนธุรกิจดังกล่าว มาจากการร่วมวางแผนของ สมาชิกในทีม 5 คน ประกอบไปด้วย อนิวรรตน์ สมาธิวัฒน์ ต่อยศ ปาลเดชพงศ์ สินี ดำรงค์กิจการ ธนพร แจ่มฤกษ์แจ้ง และ สุรชัย ชัยโชติรุ่งเรือง ซึ่งแต่ละรายเป็นเจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอีอยู่แล้ว

นวัตกรรมครั้งนี้จึงมีความโดดเด่นทั้ง 1.ช่วยให้มังคุดมีความสดจัดเก็บได้นานถึง 45 วัน และมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค 2.ปรับปรุงคุณภาพผลผลิต โดยเฉพาะผิวของมังคุดให้ดีขึ้นและสวยงาม โดยเฉพาะมังคุดที่มีปัญหาผิวไม่สวยที่ไม่สามารถส่งออกได้ สามารถนำเพิ่มมูลค่าและส่งออกได้เพิ่มขึ้น และ 3.การทำบรรจุภัณฑ์ (แพ็กเกจจิ้ง) ให้สวยงามมากขึ้น

ในปัจจุบันมังคุดส่งออกจะมีราคาประมาณ 200 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคาในประเทศประมาณ 25 บาทต่อกิโลกรัมขึ้นไป และราคาผันผวนมาก บางครั้งมีราคาสูงขึ้น 75 บาทต่อกิโลกรัม แต่ มังคุด ซุปเปอร์ ฟรุ๊ต ที่ผ่านนำนวัตกรรมจะมีราคาสูงขึ้น 10 บาทต่อกิโลกรัม

ส่วนมังคุดที่ผิวไม่สวย เมื่อผ่านนวัตกรรมใหม่แล้ว จะมีราคาสูงขึ้น 5 เท่า รวมทั้งช่วยยืดอายุการจัดเก็บมังคุดเพื่อส่งออก ทำให้ราคาเพิ่มขึ้น 3 เท่า

ทั้งนี้ ได้เริ่มส่งออกมังคุดซุปเปอร์ ฟรุ๊ต ไปในประเทศจีนแล้วประมาณครึ่งปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีมาก มียอดส่งออกประมาณ 3 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อวัน แม้มีราคาสูงกว่ามังคุดส่งออกทั่วไป

พร้อมกันนี้ในปีหน้าจะขยายตลาดส่งออกไปในประเทศยุโรปและประเทศจีน เพราะประเทศจีนมีขนาดใหญ่และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง โดยกลุ่มลูกค้าในประเทศจีนรู้จักมังคุดเพียง 20% เท่านั้น

หากประเมินภาพรวมของตลาดมังคุดในประเทศไทย มีผลผลิตออกมาสู่ตลาดประมาณ 2 แสนตันต่อปี แบ่งเป็นบริโภคในประเทศ 1 แสนตัน และส่งออกประมาณ 1 แสนตันต่อปี คิดเป็นมีมูลค่าการส่งออกประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี

ขณะเดียวกันความต้องการส่งออกไปต่างประเทศมีสูงขึ้นและผลผลิตมีไม่เพียงพอกับความความต้องบริโภค ส่งผลให้เกษตรกรหันมาปลูกมังคุดเพิ่มขึ้น 20% ต่อปี ดังนั้น มังคุด เป็นผลไม้ที่มีอนาคตสดใส

อีกทั้งนวัตกรรมการยืดอายุมังคุดจะช่วยแก้ปัญหาราคามังคุดที่มีความผันผวน โดยเฉพาะราคามังคุดในประเทศ ทำให้คุณภาพของมังคุดดียิ่งขึ้นและเป็นการช่วยเกษตรกรไทยระยะยาว

นอกจากนี้ ยังส่งผลดีต่อผลไม้ไทยทั้งหมดที่สามารถมีอายุการจัดเก็บได้ยาวนาน และสามารถขยายตลาดส่งออกผลไม้ไทยไปต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น ทำให้ราคาผลไม้ไทยมีโอกาสปรับสูงขึ้นด้วย

อนิวรรตน์ กล่าวต่อว่า ปัจจัยความสำเร็จของธุรกิจ คือ ต้องมีแผนธุรกิจโดดเด่นและชัดเจน เพราะ “ซุปเปอร์ ฟรุ๊ต” ใช้นวัตกรรมมาเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลไม้ ทำให้มังคุดมีความสดใหม่และรสชาติดี เพราะลูกค้าคนจีนชื่นชอบมาก คาดว่าในปี 2557 จะส่งออกได้ 1 หมื่นตัน คิดเป็นมูลค่า 750 ล้านบาท จากในปีนี้ส่งออกคิดเป็นมูลค่า 300-400 ล้านบาท