posttoday

หนุนตร.เปิดแผนกคดีสิ่งแวดล้อม

26 พฤษภาคม 2554

เอกชน เอ็นจีโอ เห็นด้วยตั้งแผนกคดีสิ่งแวดล้อม คาดจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนได้ และเป็นช่องทางให้ประชาชนนำข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการพิจารณาได้ง่ายขึ้น

เอกชน เอ็นจีโอ เห็นด้วยตั้งแผนกคดีสิ่งแวดล้อม คาดจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนได้ และเป็นช่องทางให้ประชาชนนำข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการพิจารณาได้ง่ายขึ้น

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การเปิดแผนกคดีสิ่งแวดล้อม ในมุมของภาคเอกชนเห็นด้วยและสนับสนุนอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมมีความซับซ้อนมากขึ้น การที่มีแผนกคดีเฉพาะทางด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นมาจะทำให้มีผู้ชำนาญการ และมีการใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมเข้ามาพิจารณาอย่างตรงจุดที่สุด ซึ่งจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นด้านการลงทุนของไทย นักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนจะเห็นหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ จากปัญหามาบตาพุดทำให้นักลงทุนมีความกังวลในการเข้ามาลงทุนในเมืองไทย และส่งผลกระทบในวงกว้างต่อหลายอุตสาหกรรม รวมถึงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญด้วยว่าเข้าข่ายโครงการที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่ การที่เปิดแผนกคดีเฉพาะทางน่าจะช่วยแก้ปัญหา และคลี่คลายความกังวลเหล่านี้ได้ และถ้ามีกรณีพิพาทเรื่องจะสามารถเข้าสู่กระบวนการศาล และถูกพิจารณาอย่างรวดเร็ว โดยองค์คณะผู้มีความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม

"เอกชนไม่กลัวว่าจะมีผู้มาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เพราะจะมีกระบวนการพิสูจน์ โรงงานไหนทำดีก็พิสูจน์ออกมา โรงงานไหนไม่ดีก็ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน และการตั้งแผนกคดีเฉพาะทางจะช่วยให้มีนักกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม และผู้ชำนาญการเข้ามาร่วมทำงานและให้ข้อมูลมากขึ้น"นายธนิต กล่าว

นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดี ประชาชนจะมีช่องทางนำคดีความเข้าสู่กระบวนการพิจารณาได้มากขึ้น โดยจะเป็นการใช้กฎหมายเฉพาะทาง และกฎหมายสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยระงับข้อพิพาทระหว่างโรงงานอุตสาหกรรมและชุมชนได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม คดีความด้านสิ่งแวดล้อมจำเป็นต้องมีการพิสูจน์การปล่อยสารเคมี หรือการทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งจุดนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะให้ใครเป็นผู้พิสูจน์ จึงต้องการให้ใช้กระบวนการเดียวกับต่างประเทศที่ตั้งบุคคลที่สามขึ้นมาเป็นผู้พิสูจน์ว่าโครงการเหล่านั้นส่งผลกระทบตามที่ผู้ฟ้องร้องเข้ามาหรือไม่

"เรื่องนี้เป็นเรื่อใหญ่ และใหม่มากในสังคมไทย จึงต้องมีการประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้แก่ประชาชนในการเข้าสู่กระบวนการดังกล่าว โดยในช่วงแรกอาจจะมีคนเข้ามายื่นเรื่องฟ้องร้องไม่มาก เพราะยังไม่เข้าใจ แต่ในอนาคตแนวโน้มจะมีมากขึ้น เพราะปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม การปล่อยสารเคมี หรือคดีทางด้านป่าไม้ ยังส่งผลกระทบต่อชาวบ้านอยู่เป็นจำนวนมาก"นายสุทธิ กล่าว