กฟผ.หยุดเดินเครื่องระบายน้ำ
กฟผ.แจงสาเหตุ เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี หยุดเดินเครื่องระบายน้ำ เพื่อบรรเทาผลกระทบประชาชนจากเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้
กฟผ.แจงสาเหตุ เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี หยุดเดินเครื่องระบายน้ำ เพื่อบรรเทาผลกระทบประชาชนจากเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้
นายดิลก ธโนศวรรย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนรัชชประภา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.ได้หยุดเดินเครื่องระบายน้ำ เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. เป็นต้นมา เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน หลังมีเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ทางภาคใต้ โดยขณะนั้นมีปริมาณน้ำเข้าอ่างเก็บน้ำแล้ว 170 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) แต่เขื่อนรัชชประภายังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกจำนวน 1,650 ล้านลบ.ม.จากปริมาณการรับน้ำสูงสุดที่5,639 ล้านลบ.ม.หรือที่ระดับความสูงของน้ำอีก 10 เมตร ซึ่งถือว่ายังสามารถกักเก็บน้ำได้อีกปริมาณมาก อย่างไรก็ตาม กฟผ. ได้เฝ้าระวังติดตามตรวจสอบสภาพเขื่อนรัชชประภาเพิ่มเติม ซึ่งพบว่าเขื่อนมีความมั่นคงแข็งแรงเป็นปกติ
ทั้งนี้ เนื่องจากฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. ทำให้บริเวณนอกเขื่อนรัชชประภา มีน้ำท่วมขังที่ท้ายน้ำ ส่งผลกระทบกับประชาชนรอบเขื่อนอย่างมาก โดยในเบื้องต้นเขื่อนรัชชประภาได้จัดส่งผู้ปฏิบัติงาน กฟผ.พร้อมน้ำดื่ม จำนวน3,000 ขวด เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว และลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือน้ำดื่มกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอีก 3 อำเภอ ใน จ.สุราษฎร์ธานี คือ อ. บ้านตาขุน อ.พนม และ อ.คีรีรัตน์ อีกจำนวน 10,000 ขวด และยังคงดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง