posttoday

ศก.ไทยฟื้นตัวไตรมาสแรกโต2.4%

24 มีนาคม 2554

เศรษฐกิจไทยภาพรวมฟื้นตัวไตรมาส 1 จีดีพีขยายตัว 2.4% โดยภาคกลางนำโด่งเติบโตสูงสุด 3.1% รองลงมาเป็นกทม. และภาคใต้ เพราะราคาสินค้าเกษตรสูง ท่องเที่ยวคึกคัก ประชาชนบริโภคเพิ่มขึ้น

เศรษฐกิจไทยภาพรวมฟื้นตัวไตรมาส 1 จีดีพีขยายตัว 2.4% โดยภาคกลางนำโด่งเติบโตสูงสุด 3.1% รองลงมาเป็นกทม. และภาคใต้ เพราะราคาสินค้าเกษตรสูง ท่องเที่ยวคึกคัก ประชาชนบริโภคเพิ่มขึ้น

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยยังไม่มีสัญญาณการชะลอตัว โดยในทุกภูมิภาคอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับที่เข้มแข็ง เนื่องจากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐส่งผลให้กิจกรรมภายในจังหวัดสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในจังหวัด ขณะที่นโยบายด้านการส่งเสริมการลงทุนของจังหวัดยิ่งเป็นตัวเร่งให้ภาคเอกชนเกิดการลงทุน ราคาพืชผลทางการเกษตรอยู่ในระดับที่ดี โดยอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในภาพรวมในช่วงไตรมาส 1 จะขยายตัว 2.4% และไตรมาส 2 คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.4% เฉลี่ยทั้งปีขยายตัว 4.2%

ทั้งนี้ จากการประเมินสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค พบว่าสถานการณ์เศรษฐกิจภาคกลางในไตรมาส 1 จะมีอัตราการขยายตัว 3.1% ซึ่งขยายตัวมากที่สุดใน 5 ภูมิภาค เนื่องจากสถานการณ์ด้านการส่งออกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงราคาพืชผลทางการเกษตรอยู่ในระดับสูง และภาคอุตสาหกรรมยังขยายตัวได้ดี ด้านการบริโภค การลงทุน และการจ้างงานอก็อยู่ในระดับที่ดี โดยในช่วงไตรมาส 2 คาดว่าจีดีพีจะอยู่ที่ 5.8% เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรดี และในภาคอุตสาหกรรมแม้จะประสบปัญหาบ้างแต่การส่งออกก็ยังเติบโต โดยเฉลี่ยรวมทั้งปีจีดีพีของภาคกลางน่าจะอยู่ที่ระดับ 5.5%

ขณะที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ในไตรมาส 1 จีดีพีจะขยายตัว 2.2%  เป็นผลจากยอดรับคำสั่งซื้อของภาคเอกชนมีมากขึ้น ส่วนการบริโภคเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น แต่ยังคงมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายอยู่ เพราะปัญหาราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนการลงทุนเริ่มขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งในไตรมาส 2 คาดการณ์ว่าจีดีพีจะขยายตัว 4.1% และทั้งปีจะขยายตัว 3.9%  แต่สถานการณ์ในกรุงเทพฯ ยังมีความเสี่ยงที่บั่นทอนเศรษฐกิจ เช่น ราคาน้ำมัน ปัญหาค่าครองชีพ และสถานการณ์ทางการเมือง

ด้านภาคใต้ ในไตรมาส 1 จีดีพีจะขยายตัว 2.1% เพราะราคาพืชเกษตรปรับตัวขึ้นมา โดยเฉพาะยางพารา ปาล์ม และสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคัก โดยในไตรมาส 2 คาดว่าจีดีพีจะโต 3.4% เฉลี่ยทั้งปี เติบโต 3.3% ขณะที่ภาคอีสานจีดีพีขยายตัว 1.9% เนื่องจากมีการขยายตัวในอุตสาหกรรมน้ำตาล เพราะเป็นช่วงการหีบน้ำตาล และพืชเกษตรมีราคาดี ในไตรมาส 2 คาดว่าจีดีพีจะโต 3.4% เฉลี่ทั้งปีจีดีพีโต 3.3% และภาคเหนือจีดีพีในไตรมาสแรกขยายตัว 1.8% เนื่องจากการเกษตรและการท่องเที่ยวขยายตัวดี โดยในไตรมาส 2 คาดว่าจีดีพีจะขยายตัว 3.2% และทั้งปีคาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ระดับ 3.1%

“ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของไทย เนื่องจากดัชนีวามเชื่อมั่นผู้บริโภครายภูมิภาคอยู่ในระดับที่ดี โดยเฉพาะภาคเหนือ ใต้ อีสาน กำลังซื้อประชาชนเพิ่มขึ้น จากราคาพืชผลทางการเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งอ้อย ปาล์ม มันสำปะหลัง ทำให้การจับจ่ายใช้สอยคึกคัก ขณะที่ภาคกลาง และกทม.การบริโภคยังไม่ดีมากนัก เนื่องจากพึ่งพาอุตสาหกรรมเป็นหลัก จึงมีความกังวลเรื่องปัญหาน้ำมันแพง” นายธนวรรธน์ กล่าว

สำหรับสิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐเร่งดำเนินการมากที่สุด ได้แก่ ควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้เหมาะสมกับรายได้ ดูแลราคาสินค้าเกษตรไม่ให้ผันผวนมากไป ดูแลราคาน้ำมันอย่างให้ขึ้นเร็วเกินไป สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และนักลงทุน สร้างเสถียรภาพทางการเมือง และดูแลค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนมากเกินไป