posttoday

พีแอนด์จีมุ่งตลาดความงามผู้ชาย

24 มีนาคม 2554

พีแอนด์จี ปรับยุทธศาสตร์ธุรกิจมุ่งสู่ “บิวตี้-กรูมมิง”แตกหน่วยธุรกิจใหม่ในไทยดูแลความงามผู้ชายผ่าน2แบรนด์หลัก "โอเลย์ เมน-ยิลเลตต์" หวังยอดขายสัดส่วน10%ใน3ปี

พีแอนด์จี ปรับยุทธศาสตร์ธุรกิจมุ่งสู่ “บิวตี้-กรูมมิง”แตกหน่วยธุรกิจใหม่ในไทยดูแลความงามผู้ชายผ่าน2แบรนด์หลัก "โอเลย์ เมน-ยิลเลตต์" หวังยอดขายสัดส่วน10%ใน3ปี

นายวรศิษย์ ตุรงค์สมบูรณ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์  ประจำประเทศไทย บริษัทพอรคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง(ประเทศไทย)หรือ พีแอนด์จี เปิดเผยว่าบริษัทแม่ ในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้วางนโยบายการดำเนินธุรกิจพีแอนด์จี ทั่วโลกนับจากนี้ ไปสู่ภาพของธุรกิจด้าน “บิวตี แอนด์ กรูมมิง” หรือผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย ผ่านสินค้ากลุ่มของใช้ส่วนบุคคล(เพอร์ซันนัลแคร์)แบรนด์หลัก อาทิ โอเลย์, โอเลย์ เมน โซลูชันส์  และ ยิลเลตต์ เป็นต้น ไปตั้งแต่ปี53 ที่ผ่านมา จากก่อนหน้าพีแอนด์จีวางตำแหน่งเป็นธุรกิจสถาบันผลิตภัณฑ์ด้านความงาม หรือ บิวตี เท่านั้น

ขณะที่ประเทศไทย บริษัทยังได้แยกทีมธุรกิจใหม่ออกมา เพื่อดูแลกิจกรรมการตลาดผลิตภัณฑ์โอเลย์ เมน โดยเฉพาะ เพื่อให้ความสำคัญในการเลือกสื่อในการทำตลาด เช่น สื่อดิจิตอล หรือ การจัดกิจกรรมนอกสถานที่ต่างๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผลิตภัณฑ์โอเลย์ เมน คือ ผู้ชายที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตทันสมัย นิยมการแต่งตัว หรือ เมโทรเซ็กส์ชวล เป็นต้น จากระดับราคาสินค้า350 บาทขึ้นไป ส่วนผลิตภัณฑ์ยิลเล็ตต์ จับกลุ่มเป้าหมายผู้ชายวงกว้างทั่วไป วางระดับราคาสินค้าอยู่ที่ 200-300 บาท  

ขณะที่ปีนี้บริษัทคาดใช้งบการทำตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มผู้ชายทั้ง 2แบรนด์ คือ ยิลเลตต์ และโอเลย์ เมน ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท แบ่งเป็นราว 50-100 ล้านบาท เพื่อทำตลาด “โอเลย์ เมน” ซึ่งเปิดตัวในประเทศไทยเป็นแห่งที่ 2 ในภูมิภาคเอเชีย ต่อจากประเทศจีน ซึ่งเปิดตัวแห่งแรกไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากประเทศจีนเป็นศูนย์กลางด้านการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์แบรนด์โอเลย์สำหรับผู้ชาย ก่อนทยอยทำตลาดในประเทศอื่นต่อไป อาทิ  อินโดนีเซีย เป็นต้น รองรับนโยบายบริษัทแม่ที่วางให้ผลิตภัณฑ์โอเลย์ เมน เป็นหัวหอกในการทำตลาดสินค้าดูแลผิวสำหรับผู้ชายในภูมิภาคเอเชีย

“เป็นครั้งแรกในรอบ 50ปี ที่ผลิตภัณฑ์โอแลย์อยู่ในตลาด และได้แตกไลน์สินค้าไปสู่กลุ่มผู้ชาย ซึ่งบริษัทได้ใช้จุดแข็งของแบรนด์โอเลย์ที่มีอยู่ จากโอกาสพบว่าผู้ชายในปัจจุบันมีสัดส่วนกว่า 60-70% ที่ใช้สินค้าดูแลผิวที่เป็นทั้งของสำหรับผู้ชายและหญิง” นายวรศิษย์ กล่าว

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายใน1-2ปีนับจากนี้ ผลิตภัณฑ์โอเลย์ เมน จะมีส่วนแบ่งรายได้เชิงมูลค่าราว 10% ของกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเลย์ทั้งหมด  จากปัจจุบันตลาดเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายเฉพาะกลุ่มดูแลผิวมีมูลค่าตลาดราว 700 ล้านบาท และเติบโตสูงกว่า 4-5 เท่าตัวในช่วงที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับตลาดเครื่องสำอางดูแลผิวสำหรับผู้หญิงมีมูลค่าราว7,000 ล้านบาท และเติบโตราว 2% ในปีที่ผ่านมา