posttoday

เดทตอลหันลุยสบู่เหลวแทนหลังสบู่ก้อนโตลด

07 มีนาคม 2554

เดทตอล ดันกลุ่มสบู่เหลวลุยตลาด หนีต้นทุนปาล์มดันสบู่ก้อนราคาพุ่ง รับตลาดรวม5พันล้านบาทโต2หลัก

เดทตอล ดันกลุ่มสบู่เหลวลุยตลาด หนีต้นทุนปาล์มดันสบู่ก้อนราคาพุ่ง รับตลาดรวม5พันล้านบาทโต2หลัก

น.ส.วันเพ็ญ เกตุชาญชัย ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัทเรกคิทท์ เบนคีเซอร์(ประเทศไทย)เจ้าของผลิตภัณฑ์อุปโภคและัดูแลส่้วนบุคคล(เพอร์ซััีันนัล แคร์) แบรนด์ “เดทตอล” เปิดเผยว่าบริษัทจะใช้ผลิืตภัณฑ์สบู่เหลวแบรนด์เดทตอล เป็นยุทธศาสตร์หลักในการทำตลาดสินค้าดูแลส่้วนบุคคลในประเทศไทย เพื่อขยายฐานผู้บริโภคกลุ่มเ้ป้าหมายใหม่ในวงกว้างมากขึ้น จากปัจจุบันบริษัททำตลาดสบู่เหลวเดทตอลในประัเทศไทยราว 10ปี

ล่าสุดบริษัทใช้งบ60 ล้านบาท เปิดตัว “เดทตอล เนเชอรัล” สูตรใหม่ 3 สูตร ได้แก่ เดทตอล เนเชอรัล ซู้ทติ้ง, เดทตอล เนเชอรัล แคริ่ง และเดทตอล เนเชอรัล รีเฟรชชิ่ง พร้อมใช้ “เจี๊ยบ โสกิตนภา ชุ่มภาณี” นักแสดงหญิงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ เพื่อเจาะกลุ่มผู้หญิงคนรุ่นใหม่ และครอบครัวที่ใส่ใจสุขภาพ วางจำหน่าย 2 ขนาดได้แก่ ขนาด 220 มล. ราคา 64 บาท และขนาด 600 มล. ราคา 149 บาท รวมมีสินค้าทำตลาด 9 สูตร แบ่งเป็น 6 สูตรดั้งเดิมดูแลสุขอนามัย และ3สูตรใหม่ด้านผิวพรรณ หรือ ความงาม

จากแนวทางธุรกิจดังกล่าวของบริษัท สอดคล้องกับการแข่งขันในตลาดสินค้ากลุ่มทำความสะอาดผิวที่แข็งขันรุนแรงในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มสบู่เหลวและครีมอาบน้ำที่ยังเติบโตสูงในอัตรา2หลักต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดกลุ่มสบู่ก้อนมีอัตราเติบโตหลักเดียว ที่ปัจจุบันยังประสบปัญหาต้นทุนวัตถุดิบผลิตสบู่ที่มีราคาสูงขึ้นมาก โดยผู้ผลิตสบู่รายใหญ่ได้ยื่นเรื่องขอปรับราคาสินค้าขึ้นไปยังกระทรวงพาณิชย์แล้วในขณะนี้ 

“คาดว่ากระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาราคาสินค้าอีกครั้งจนถึงสิ้นเดือน มี.ค.54 นี้ ขณะที่บริษัท ไม่มีแผนขึ้นราคาสบู่ก้อน เดทตอล แต่อย่างใด แต่เตรียมเปิดตัวสบู่ก้อน เดทตอลในรูปแบบใหม่ราคา 15 บาทเท่าเดิม” น.ส.วันเพ็ญ กล่าว

ขณะเดียวกันในปีันี้คาดจะได้เห็น เจ้าของสินค้าทำความสะอาดดูแลผิวหันมาทำตลาดสบู่เหลวหรือครีมอาบน้ำในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อหนึปัญหาต้นทุนวัตถุดิบ อาทิ ปาล์ม เป็นต้น และไม่สามารถขึ้นราคาขายได้มากนัก และจากโอกาสพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่หันมาใช้สบู่เหลวทดแทนสบู่ก้อนมากขึ้น

สำหรับตลาดรวมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีมูลค่า 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็น สบู่แบบก้อน 60% และสบู่แบบเหลว 40% โดยกลุ่มสบู่แบบเหลวจะเติบโตมากสุด 10% คาดสิ้นปีนี้บริษัทจะมีส่วนแบ่งการตลาดในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก จากปี 53 ที่ผ่านมา มีส่วนแบ่งการตลาด 7% อยู่ในอันดับ 4