posttoday

ธวัชชัย จึงสงวนพรสุข กับภารกิจ ฟื้นชีพ “เฟี้ยต”

27 มกราคม 2553

กลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้งสำหรับรถยนต์สัญชาติอิตาลีอย่าง FIAT หรือ เฟียต ในตลาดเมืองไทย....

กลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้งสำหรับรถยนต์สัญชาติอิตาลีอย่าง FIAT หรือ เฟียต ในตลาดเมืองไทย....

โดย...นิธิ ท้วมประถม

กลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้งสำหรับรถยนต์สัญชาติอิตาลีอย่าง FIAT หรือ เฟียต ในตลาดเมืองไทย เมื่อบริษัทไทยเพรสทีจ บริษัทในเครือ พระนครยนตรการ หรือ พีเอ็นเอ กรุ๊ป ภายใต้การบริหารงานของ ธวัชชัย จึงสงวนพรสุข กรรมการผู้จัดการ ของไทยเพรสทีจ จะออกมาประกาศว่า จะขอเดินหน้าทำตลาดรถยนต์เฟี้ยต ในประเทศไทย ให้ลือลั่นกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

เฟียต ชื่อนี้ คุ้นหูกันดีสำหรับนักเลงรถบ้านเรา เพราะเคยเข้ามาทำตลาดเมื่อหลายสิบปีก่อน ผ่านตัวแทนจำหน่ายมาหลายคน เริ่มแรกจากกลุ่ม “กรรณสูตร” ต่อมาก็มีอยู่ในมือของกลุ่มพรประภา ที่มาทำตลาด เฟียต ปุนโต ให้ฮือฮา อยู่เพียงพักเดียว ก็โบกมือลาไป

ล่าสุด ไทยเพรสทีจ คือผู้ถือสิทธิ การจำหน่ายรถยนต์ เฟียต ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ ซึ่งไทยเพรสทีจ เองนั้นเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ อัลฟ่า จากแดนอิตาลี อยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว ซึ่งอัลฟ่า เองก็อยู่ในเครือเฟียต ทำให้ ไทยเพรสทีจ ถือสิทธิการจำหน่ายเฟียต ไปในตัว

บูธ เฟียต ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 25 ที่จบลงเมื่อช่วงปลายปี ที่ผ่านมา ซึ่งไทยเพรสทีจ นำเฟียต 500 รถเล็ก สุดสวย จากอิตาลี มาจำหน่ายนั้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เฟียต กำลังเข้ามาบุกตลาดเมืองไทยอย่างเป็นทางการ หลังจากที่มีผู้นำเข้าอิสระ (เกรย์) นำเฟียต 500 มาจำหน่ายไปก่อนหน้านี้แล้ว

ธวัชชัย จึงสงวนพรสุข กับภารกิจ ฟื้นชีพ “เฟี้ยต”

ธวัชชัย บอกว่า ที่ผ่านมาศึกษาการทำตลาดเฟียตอยู่เหมือนกัน แต่เป็นการศึกษาการขึ้นไลน์การประกอบ รถยนต์เฟียต เซียนา ในประเทศไทย ไม่ได้ศึกษาการนำเข้าสำเร็จรูปทั้งคัน (ซีบียู) เพราะไทยเพรสทีจ นำเข้าอัลฟ่า มาจำหน่ายอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าจะประกอบเฟียต แต่ในช่วงนั้น เฟียต เซียน่า แต่ติดปัญหาคือไม่มีเกียร์อัตโนมัติ ทำให้ตัดสินใจไม่ประกอบ

“เราคิดทำตลาดเฟียตอยู่ตลอด แต่เวลายังไม่เหมาะสม เราเลยไม่ทำ แต่เมื่อเฟียตเปิดตัว รุ่น 500 ซึ่งผมก็ไปงานเปิดตัวที่อิตาลีด้วย เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ก็ตัดสินใจว่าจะนำเข้ารุ่นนี้ เพื่อมาทำตลาดในประเทศไทย เพราะด้วยรูปร่างที่มีเอกลักษณ์ในตัวเอง ทำให้มั่นใจว่าขายได้แน่”

ธวัชชัย บอกว่าเมื่อตัดสินใจว่าจะนำเข้าเฟียต 500 มาจำหน่าย แม้ว่าทางบริษัทจะเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีรถเฟียต 500 เข้ามาจำหน่ายในไทยอย่างทันทีทันใด เนื่องจากรถรุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัว ทำให้ไม่สามารถตัดรถมาได้ ประกอบกับต้องให้บริษัทแม่ มาปรับปรุงสเป็ก ให้เหมาะกับตลาดเมืองไทยก่อนอีกด้วย

“จริงๆ แล้วเราเอารถเข้ามาลองวิ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงสเป็กให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ และสภาพถนนของเมืองไทย รวมถึงเรื่องของน้ำมันที่ใช้ในบ้านเราด้วย เพราะ
ประเทศไทย เป็นเมืองร้อน ต้องปรับสเป็กใหม่หมด ไม่ใช่นำรถจากอังกฤษมาแล้วขายได้เลย เพราะหากทำอย่างนั้นรถมีปัญหาแน่นอน”

สำหรับ สาเหตุที่ตัดสินใจนำเข้า เฟียต 500 มาเปิดตลาดรถยนต์เฟียตในเมืองไทย เนื่องจากเห็นว่าตลาดรถเล็ก ที่เป็นระดับพรีเมี่ยม นั้นยังมีช่องว่างอยู่อีกมาก โดยขณะนี้มีเพียง มินิ เพียงยี่ห้อเดียว ที่จับตลาดนี้อยู่ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถบุกตลาดนี้ได้

“เฟียต 500 จะเน้นความเป็นรถแฟชั่นคาร์ ในระดับพรีเมี่ยม ดีไซน์อิตาลี ที่ราคาสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้”

สำหรับการทำตลาดในเบื้องต้น จะนำเข้าเฟียต 500 มาทำตลาดเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น และไม่มีแผนที่จะประกอบในประเทศแต่อย่างใด เพราะหากจะขึ้นไลน์การประกอบแล้ว จะต้องมีจำนวนยอดขายที่อยู่ระดับ 5,000 คันต่อปี ซึ่งด้วยยอดขนาดนั้น จะต้องได้สิทธิการขายในระดับภูมิภาค แทนการขายเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งทำให้ในขณะนี้ ยังไม่มีแผนการประกอบเฟียต 500 หรือเฟียต รุ่นอื่นๆ ในไทย

“ทำเฟียต 500 รุ่นเดียวก็พอแล้ว เพราะเฟียต 500 นั้นมีอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือกมากถึง 5 แสนชิ้น ลูกค้าอยากแต่งอะไร แต่งแบบไหน ทำได้หมด ขอให้บอกเรามา เราสั่งให้ได้เหมือนสั่งตัดเสื้อได้เลย อยากได้เบาะสีอะไร หลังคาสีอะไร กระจังหน้าแบบใหน โลโก้สไตล์อะไร เลือกตามใจชอบ”

ธวัชชัย ย้ำว่าทุ่มเทกับการทำตลาดรถยนต์เฟียต ในครั้งนี้อย่างเต็มที่ ไม่ทำเล่นๆ อย่างแน่นอน เพราะเตรียมงบการทำตลาดในปีนี้ไว้มากถึง 80 ล้านบาท

“ผมจริงจังแน่ ไม่ทำทิ้งๆ เงิน 80 ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่จะเอามาทิ้ง ต้องทำจริงจัง ต้องเห็นผลกำไรคืนมา”

สำหรับงบประมาณ 80 ล้านบาทนั้น จะนำมาปรับปรุงโชว์รูม และศูนย์บริการของไทยเพรสทีจ ที่อยู่บริเวณถนนพหลโยธิน ประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันเป็นโชว์รูม รถอัลฟ่า โดยจะพัฒนาใหม่หมด แบ่งพื้นที่การจำหน่ายรถยนต์อัลฟ่า และ เฟียต ออกจากกันอย่างชัดเจน คนละชั้น ซึ่งการออกแบบโชว์รูมแห่งใหม่นี้ บริษัทแม่ที่อิตาลี เป็นผู้ออกแบบทั้งหมด เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และความเป็นมาตรฐานเหมือนกับบริษัทแม่ที่อิตาลี สำหรับ แนวทางการตลาดในปีนี้นั้น บริษัทตั้งเป้าขายปีนี้ไว้ที่ 100 คัน ไม่ใช่ว่าอยากขายเท่านี้ แต่ได้รับโควต้าจากบริษัทแม่เท่านี้ ซึ่งเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะเมื่อปีที่ผ่านมาหลังจากเปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์ ก็มียอดขายไปแล้วกว่า 10 คัน และ
แน่นอนว่า ธวัชชัย เอง ก็คว้า เฟียต 500 รุ่นเปิดประทุน สีขาว ไปไว้ในครอบครองเช่นเดียวกัน

“จะเริ่มทำตลาดจริงจังประมาณไตรมาส 3 หรือ 4 ของปีนี้ ที่เริ่มช้าเพราะอยากให้โชว์รูมใหม่เสร็จเสียก่อน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาปรับปรุงโชว์รูมประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้นก็เริ่มทำตลาด โดยแนวทางการทำตลาดคงไม่หวือหวา มากนัก จะเน้นติดต่อกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยตรง ทำคลับสำหรับลูกค้า เฟียต การจัดแอคทิวิตี้ ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อสร้างกระแส”

นอกจากนี้ ไทยเพรสทีจ ยังไม่มีแผนขยายตัวแทนจำหน่าย รถยนต์เฟียต และอัลฟา แต่อย่างใด โดยยืนยันว่า จะมีโชว์รูม และศูนย์บริการเพียงแห่งเดียว คือที่ถนนพหลโยธิน ซึ่งธวัชชัย มองว่าเพียงพอที่จะให้บริการอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องขยายศูนย์บริการ หรือโชว์รูมใหม่ๆ เพิ่ม

แต่สุดท้าย ธวัชชัย บอกว่า การฟื้นตลาดเฟียต ในไทยครั้งนี้ จะเดินหน้าเต็มตัว และเต็มที่ เพราะเป็นการทำในสิ่งที่ชอบ ไม่ได้รู้สึกเหนื่อย แต่สนุกกับการทำงาน

“ผมอยู่กับรถมานาน รักการทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ อยากเห็นรถเฟียต ในตลาดประเทศไทยเติบโตจากไม่มีอะไร จนเติบโตในเมืองไทย ซึ่งหากทำได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ และเป็นการทำให้เครือพีเอ็นเอ มีสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น แต่ก็เอาจริงเอาจัง”