posttoday

โตชิบาตั้งเป้าขึ้นแท่นเบอร์2ธุรกิจไอที

20 มกราคม 2554

โตชิบา ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท รุกตลาดเต็มสูบ ตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำตลาดอันดับ 2 ด้วยส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 15% ภายใน 2 ปี

โตชิบา ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท รุกตลาดเต็มสูบ ตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำตลาดอันดับ 2 ด้วยส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 15% ภายใน 2 ปี

นายถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยี บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายโน้ตบุ๊ก, เน็ตบุ๊ก แบรนด์โตชิบา กล่าวว่า ปีนี้บริษัทได้เตรียบงบลงทุนเป็นเงินมากกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นเม็ดเงินลงทุนที่มากที่สุดตั้งแต่บริษัทเข้ามาดำเนินธุรกิจทางด้านไอทีในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายที่จะขึ้นเป็นผู้นำตลาดในอันดับที่ 2 ด้วยส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 15% ภายใน 2 ปี นับจากปีนี้เป็นต้นไป จากปัจจุบันโตชิบามีส่วนแบ่งตลาด 9.1% อยู่ในอันดับที่ 5 ของตลาด และผู้นำตลาดในขณะนี้คือ เอเซอร์ มีส่วนแบ่งตลาด 35% อันดับที่ 2 คือ อัสซุส มีส่วนแบ่งตลาด 11%

ทั้งนี้ กลยุทธ์สำคัญที่จะผลักดันให้ยอดขายในปีนี้เติบโตได้ 50% ต่อเนื่องจากปีทีผ่านมา และส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย ได้แก่ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น โน้ตบุ๊ก เน็ตบุ๊ก และแท็บเลต พีซี ไตรมาสละ 15 ซีรี่ย์ ลดลงจากปกติที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ไตรมาสละ 30 ซีรี่ย์ เพราะไม่ต้องการสร้างความสับสนให้กับคู่ค้า และลูกค้า ซึ่งยังเป็นการโฟกัสสินค้าให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอีกด้วย

นอกจากนี้ บริษัทยังใช้กลยุทธ์ราคาในการทำตลาดอีกด้วย โดยจะเพิ่มสินค้าในกลุ่มราคาต่ำกว่า 1.5 หมื่นบาท ให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนรายกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 10% จากปัจจุบันมีสัดส่วนไม่ถึง 1% ในขณะเดียวกับบริษัทก็เพิ่มสัดส่วนรายได้ในกลุ่มสินค้าระดับราคา 1.5 – 1.8 หมื่นบาท และกลุ่มระดับราคา 1.8 – 2.2 หมื่นบาท ให้เพิ่มขึ้นกลุ่มละ 15 – 20% จากปัจจุบันกลุ่มสินค้าระดับราคา 1.5 – 1.8 มีสัดส่วนรายได้ 8%

สำหรับกลยุทธ์ในแง่ของการขายหรือการทำตลาด บริษัทมีแผนที่จะขยายจุดจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ โดยมีแผนที่จะเปิดช็อปโตชิบา โตชิบาคอนเนอร์ และ โตชิบา ไอ-ช็อป 400 แห่งในต่างจังหวัด ในขณะเดียวกันก็จะเพิ่มจุดรับบริการซ่อมในพื้นที่ต่างจังหวัดอีก 4 – 5 สาขา จากปัจจุบันมีอยู่ 3 สาขา ได้แก่ ศูนย์วิภาวดี, พารากอน และเชียงใหม่ พร้อมกันนี้ยังมีแผนปรับปรุงสาขาโตชิบาช็อปที่มีอยู่ 25 สาขาในปัจจุบันให้มีความทันสมัย และขยายสาขาใหม่อีก 8 สาขาในปีนี้อีกด้วย