พณ.ชงกกร.สัปดาห์หน้าคุมราคาปาล์มปี๊บ-ถุง ขาย47บาทเท่านั้น

พาณิชย์ ชง กกร. สัปดาห์หน้าคุมราคาปาล์มปี๊บ-ถุง ขาย 47 บาทเท่านั้น กำหนดสินค้าผลิตก่อน ต.ค.ห้ามขายเกินขวด 38 บาท

นายฉัตรชัย ชูแก้ว ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการติดตาม ควบคุม กำกับดูแล และแก้ไขปัญหาน้ำมันพืชเพื่อการบริโภค ได้มีมติเพิ่มความเข้มงวดแก้ปัญหาน้ำมันพืชขาดแคลน และราคาแพง โดยจะเสนอให้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ในวันที่ 19-20 ม.ค.นี้ เพื่อกำหนดราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มปี๊บและถุงให้มีราคาเดียวกัน ไม่เกินลิตรละ 47 บาท หลังจากที่ผ่านมาควบคุมแต่น้ำมันปาล์มบรรจุขวดอย่างเดียว เพื่อเป็นการป้องกันการฉวยโอกาสนำน้ำมันปาล์มไปจำหน่ายใส่ปี๊บ และถุงจนทำให้เกิดปาล์มขวดเกิดขาดแคลน

พร้อมกันนี้ จะเสนอให้เพิ่มอำนาจให้กระทรวงพาณิชย์สามารถเข้าไปดูสต๊อกและเส้นทางการผลิต การจำหน่ายน้ำมันปาล์มทั้งระบบ เริ่มตั้งแต่โรงงานสกัดน้ำมัน โรงบรรจุขวด ร้านค้าส่ง และห้างสรรพสินค้าเพื่อให้กระทรวงพาณิชย์สามารถบริหารจัดการการจำหน่ายน้ำมันปาล์มมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ป้องกันไม่ให้เกิดการกักตุน หรือการโก่งราคาจนเกิดขาดแคลน หลังจากช่วงที่ผ่านมาพบความผิดปกติในบางเดือนมีสต๊อกน้ำมันปาล์มหายไปถึง 7 หมื่นตัน จากสต๊อกทั้งหมด 1.2 แสนตัน จนทำให้สินค้าขาดแคลน

นายฉัตรชัย กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้แจ้งให้ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวด จะต้องพิมพ์ราคาขายปลีกติดฉลากไว้ให้ชัดเจนไม่เกินขวดละ 47 บาทด้วย เพื่อให้ประชาชนรับรู้ราคาที่แท้จริง เพราะที่ผ่านมามีบางรายไม่ติดราคาให้ชัดเจนทำให้มีพ่อค้าเอาเปรียบขายเกินราคา ส่วนการแก้ปัญหากักตุนและฉวยโอกาสขึ้นราคา ถ้าเป็นน้ำปาล์มขวดที่มีการผลิตก่อนเดือน ต.ค. จะถือว่าเป็นสต๊อกเก่า  และต้องจำหน่ายไม่เกินขวดละ 38 บาท หากขายเกินกว่านั้นถือมีเจตนากักตุนนำสต๊อกเก่ามาค้ากำไรเกินจริง

สำหรับ การจับกุมร้านค้าที่มีการกักตุนและจำหน่ายเกินราคา ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ทีผ่านมา สามารถจับกุมร้านค้ารายย่อย และร้านค้าส่งยี่ปั๊ว ซาปั๊วในเขตกรุงเทพ และปทุมธานี ได้ทั้งสิ้น 18 ราย โดยรายใหญ่เป็นร้านค้าส่งในจังหวัดปทุมธานี มีการไม่ติดราคาในฉลากถึง 5 หมื่นขวด ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมาย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนและขยายผลไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดรายใหญ่ โดยมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำและปรับ