เปิดกว้างนักลงทุนทุกชาติ ยื่นสำรวจแหล่งปิโตรเลียม 3 แปลงรอบใหม่
กรมเชื้อเพลิงฯ ชวนเอกชนไทย-ต่างชาติ ยื่นสำรวจและผลิตปิโตรเลียมอ่าวไทย 5- 16 ก.ย.นี้ มั่นใจ 3 แปลงอ่าวไทยมีศักยภาพพัฒนาแหล่งก๊าซฯในอนาคต
ดร.สราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า กรมฯได้เปิดกว้างให้เอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เข้ามามีส่วนร่วมในการขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในครั้งนี้ โดยประชาสัมพันธ์ประกาศเชิญชวนฯ ไปยังบริษัทผู้ประกอบการด้านปิโตรเลียมภายในประเทศ และสถานทูตต่างประเทศในประเทศไทย รวมทั้งขอความอนุเคราะห์จากกระทรวงการต่างประเทศในการเผยแพร่ประกาศเชิญชวนไปยังสถานทูตไทยในประเทศต่าง ๆ เพื่อเชิญชวนให้นักลงทุนในประเทศต่าง ๆ ที่สนใจให้เข้ามาสำรวจละผลิตปิโตรเลียม เพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุนและพัฒนาทรัพยากรปิโตรเลียมในประเทศขึ้นมาใช้ประโยชน์รองรับความผันผวนด้านพลังงานที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานในขณะนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติพร้อมให้บริการห้องศึกษาข้อมูล สำหรับผู้สนใจยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ครั้งที่ 24) ของแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/65, G2/65 และ G3/65 เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้บริษัทผู้ที่สนใจยื่นขอสิทธิฯ นำไปใช้ประกอบการศึกษาศักยภาพปิโตรเลียมในการกำหนดโครงการสำรวจปิโตรเลียม และจัดทำรายงานการศึกษาทางธรณีวิทยาสำหรับแปลงสำรวจที่จะยื่นขอ พร้อมแสดงให้เห็นศักยภาพโดยรวมของทั้ง 3 แปลงสำรวจ
ส่วนเงื่อนไขการดำเนินการตามสัญญาแบ่งปันผลผลิตครั้งนี้ มีระยะเวลาการสำรวจ 6 ปี และสามารถขอต่อระยะเวลาได้อีก 3 ปี ส่วนระยะเวลาผลิต กำหนดระยะเวลา 20 ปี โดยคุณสมบัติของผู้ขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ต้องมีคุณลักษณะ ดังนี้1. ต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ต้องไม่เป็นบริษัทที่ทิ้งสัมปทาน หรือ ถูกเพิกถอนสัมปทานปิโตรเลียมในประเทศไทย หรือมีรายชื่อบุคคลหรือนิติบุคคล ผู้ถือหุ้น หรือกรรมการและผู้มีอำนาจลงนาม อยู่ในรายชื่อผู้ทิ้งสัมปทาน
2. ต้องมีทุน เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ และผู้เชี่ยวชาญเพียงพอในการสำรวจ ผลิต ขายและจำหน่ายปิโตรเลียม เช่น มีมูลค่าการถือครองหุ้นในกิจการ หรือมีอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท หรือมีความสัมพันธ์กับบริษัทอื่นที่รัฐบาลเชื่อถือ
ทั้งนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ จะเปิดให้ผู้สนใจยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ครั้งที่ 24 ในวันที่ 5 – 16 กันยายน 2565 จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคำขอสิทธิฯ ผ่านคณะอนุกรรมการพิจารณาการให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม คณะอนุกรรมการพิจารณาข้อกฎหมายและร่างสัมปทานปิโตรเลียม คณะกรรมการปิโตรเลียม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานตามลำดับ
การเปิดให้เอกชนยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ครั้งนี้นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะเปิดโอกาสของประเทศในการต้อนรับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ที่จะเข้ามาประกอบธุรกิจด้านสำรวจและผลิตปิโตรเลียมโดยคาดว่าจะก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนมากกว่า 1,500 ล้านบาท และเป็นการสร้างความมั่นคงทางพลังงานในระยะยาว ลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ สร้างความเชื่อมั่นของภาคการลงทุน สร้างงานสร้างอาชีพที่มั่นคงให้คนไทย เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ประเทศพ้นภาวะวิกฤตไปได้


