posttoday

เบรกไม่อยู่ พรุ่งนี้ดีเซลขึ้นอีกแตะลิตรละ 34 บาท ส่วนชาวเบนซินลุ้นพรุ่งนี้ลดราคา

06 มิถุนายน 2565

กบน.เคาะมาตรการอุ้มผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ลดเก็บเงินเข้ากองทุนฯคาดลดราคาได้ไม่เกิน 1 บาทต่อลิตร ขณะที่ดีเซลปรับขึ้น 1 บาทต่อลิตรตามทิศทางน้ำมันโลกยังขาขึ้น

นายวิศักดิ์  วัฒนศัพท์   ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ว่า ที่ประชุมมีติปรับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นลิตรละ 1 บาทต่ออีกสัปดาห์ เป็นราคาลิตรละ 33.94 บาทตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดย ราคาดีเซล (Gas Oil) อยู่ที่ 158.29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล (2 มิ.ย. 2565)  เพิ่มขึ้นจากเดิมสัปดาห์ก่อนราคา 149.49 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล (27 พ.ค. 2565)  ซึ่งมีสาเหตุจากมาตราการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปที่ตกลงจะห้ามการนำเข้าน้ำมันจากรัสเชีย การเปิดประเทศของจีน ตลอดจนปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ลดลงกว่า 1.2 ล้านบาร์เรล การปรับราคาดังกล่าวเป็นการทยอยปรับขึ้นเพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนมากนัก

นอกจากนี้ยังได้ปรับลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทแก๊สโซฮอล 91 และแก๊สโซฮอล 95 ลงลิตรละ 0.93 บาท (เดิมจัดเก็บลิตรละ 1.02 บาท เหลือ 0.09 บาท) และแก๊สโซฮอล์อี 20 ลดลงลิตรละ 0.94 บาท (เดิมจัดเก็บลิตรละ 0.12 บาทปรับเป็นให้การชดเชย 0.82 บาท) ทั้งนี้เพื่อให้ราคาขายปลีกลดลง

“การลดจัดเก็บเงินกองทุนฯของกลุ่มเบนซินครั้งนี้ เนื่องจากเป็นห่วงผู้ใช้กลุ่มเบนซิน เนื่องจากเดือนก่อนราคาน้ำมันปรับขึ้นถึง 10 ครั้ง   โดยจะทำให้ราคาขายปลีกลดลงไปได้แค่ไหนนั้น ยังติดตามราคาน้ำมันตลาดโลกช่วงบ่ายวันนี้อีกครั้ง แต่ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงมา ราคาขายปลีกน่าจะปรับลดลงได้ประมาณ 1 บาทต่อลิตร “

ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 5 มิถุนายน 2565 ติดลบ 86,028 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน 50,147 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) 35,881 ล้านบาท  โดยมีเงินไหลออกวันละ  539.59 ล้านบาท

นายวิศักดิ์  กล่าวถึงแผนการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง   ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาจากสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นวงเงินกู้ 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่การจัดหาเงินจากภาครัฐที่มีวงเงินไว้ 3.3 หมื่นล้านบาท  ยังต้องหารือร่วมกันอีกครั้ง ถึงความเป็นไปได้   โดยขณะนี้กองทุนน้ำมันฯยังมีสภาพคล่องที่ใช้ในการบริหารได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท