นายวิศักดิ์ วัฒศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ว่า ที่ประชุมมีมติให้ตรึงราคาดีเซล 32 บาทต่อลิตร ออกไปอีก1 สัปดาห์ เนื่องจากความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในตลาดโลกยังอยู่ในวิสัยที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังดูแลได้ และเป็นการช่วยบรรเทาภาระให้กับประชาชนในช่วงเปิดเทอมด้วย
ทั้งนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงอยู่ในเกณฑ์สูงแต่ไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว โดยราคาน้ำมันดีเซล (Gas Oil) 138.48 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล (เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2565) อย่างไรก็ตามยังคงติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันใกล้ชิด ส่วนสัปดาห์หน้ามีโอกาสที่ราคาดีเซลจะปรับขึ้นหรือไม่ ถ้าพิจารณาจากแนวโน้มราคาน้ำมันมีโอกาสปรับสูงขึ้น จากปัจจัยที่จีนจะเปิดประเทศ 1 มิ.ย. หลังจากมากมีการล็อกดาวน์จะส่งผลให้ปริมาณการช้ำน้ำมันพื้นฐานกลับมาเพิ่มขึ้น เป็นแรงกดดันให้ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นได้
อย่างไรก็ตามในช่วงเย็นวันนี้ (23พ.ค.) จะไปหารือกับกระทรวงการคลัง ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ถึงแนวทางการกู้เงินกับสถาบันการเงิน เพื่อมาเสริมสภาพคล่องกับให้กับกองทุนน้ำมันฯ ส่วนกรณีที่ธนาคารออมสินออกมาเปิดเผยว่า การปล่อยเงินกู้ให้กับกองทุนน้ำมันฯอาจติดข้อกฏหมายนั้น ในเรื่องการกู้เงินยังอยู่ในกระบวนการ ซึ่งจะต้องชี้แจงให้เพื่อให้เกิดความมั่นใจในประเด็นเรื่องความสามารถการชำระเงิน
“สัปดาห์หน้าจะต้องพิจารณากันว่าราคาดีเซลจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เนื่องจากตามนโยบายจะใช้เงินกองทุนน้ำมันอุดหนุนราคา 2 เดือนคือ พ.ค.-มิ.ย. หลังจากนั้นต้องหาเงินกู้มาช่วย แม้ตอนนี้จะลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันลงมา 5 บาทก็ตาม แต่ยังต้องใช้เงินอุดหนุนราคาอยู่ 5.37 บาทต่อลิตร เมื่อพิจารณาจากราคาจริงแล้ว ดีเซลแตะ 38 บาท”
ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันฯติดลบอยู่ 76,291 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมัน 41,419 ล้านบาท บัญชีก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี ) 34,872 ล้านบาท โดยมีเงินไหลออกเฉลี่ยวันละ 500-600 ล้านบาท หากแนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกยังสูงต่อเนื่องมีโอกาสที่กองทุนน้ำมันฯจะติดลบถึง 8 หมื่นล้านบาทได้