posttoday

รัฐยอมตรึงดีเซล 32 บาทอีกสัปดาห์ ควักเงินทุนน้ำมันฯอุ้มต่อ

09 พฤษภาคม 2565

กบน.ตรึงราคาดีเซลลิตรละ 32 บาทชะลอปรับราคาลดค่าครองชีพประชาชน รอลุ้นสัปดาห์หน้าจ่อขยับแน่ ขณะที่ราคาดีเซลจริงอยู่ที่ 43 บาทต่อลิตร

นายสุพัฒนพงษ์  พันธ์มีเชาว์   รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.)ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้คงราคาดีเซลในสัปดาห์นี้ไว้ที่ 32 บาทต่อลิตรเช่นเดิมเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบด้านค่าครองชีพ

ให้ประชาชน โดยสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับสูง ราคาน้ำมันดีเชล (Gas Oil) วันที่  6 พฤษภาคม 2565 อยู่ที่ 160.65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยขณะนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ชดเชยราคาดีเซลอยู่ลิตรละ 11.35 บาท  ทั้งนี้ในช่วงปลายสัปดาห์จะมีการประชุมกบน.เพื่อพิจารณาราคาขายปลีกดีเซลอีกครั้ง เพื่อกำหนดราคาขายใหม่ในวันที่ 16 พ.ค. นี้

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.)  กล่าวว่า การพิจารณาของ กบน.ดังกล่าว เป็นไปตามมมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 เรื่อง 10 มาตรการลดค่าครองชีพประชาชน โดยให้ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2565 หลังจากนั้นรัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่ง โดยกบน. ได้พิจารณาปรับราคาน้ำมันดีเซลครั้งแรกมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา โดยปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อลิตร และจะทยอยปรับราคาขึ้นลงเป็นรายสัปดาห์ หากในแต่ละรอบสัปดาห์ราคาน้ำมันตลาดโลกมีการปรับลดลง ก็จะมีการปรับเงินอุดหนุนและปรับเพดานราคาลดลงตามการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันต่อไป ซึ่งราคาดีเซลที่สะท้อนต้นทุนจริงเฉลี่ยอยู่ที่ลิตรละ 43 บาท

ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงวันที่ 8 พฤษภาคม 2565 ติดลบ 66,681 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 33,258 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 33,423 ล้านบาท?

สำหรับแนวทางการหาเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องวงเงิน 4 หมื่นล้านบาทนั้น ขณะนี้มีสถาบันการเงิน 2 แห่ง ที่สนใจให้วงเงินกู้ คือธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย โดยอยู่ในขั้นตอนการพิจารณารายละเอียด   ซึ่งในการบริหารเงินกองทุนน้ำมันฯจำเป็นต้องได้เงินกู้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อเริ่มเบิกจ่ายได้ในเดือนมิถุนายน เนื่องจากขณะนี้มีสภาพคล่องเหลืออยู่  1.2 หมื่นล้านบาท