posttoday

กฟผ.ปรับโหมดรับเทรนด์โลก ลุยไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน

01 พฤษภาคม 2565

กฟผ. ปรับตัวครั้งใหญ่ เพิ่มสัดส่วนผลิตไฟจาก?พลังงานหมุนเวียนตอบโจทย์คาร์บอนเป็นศูนย์ สร้างความมั่นคงทางพลังงาน ลดต้นทุนค่า?เชื้อเพลิงนำเข้า

นา?ยบุญญนิตย์? ว?งศ์รักมิตร? ผู้ว่าการ?การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย? (กฟผ.)  เปิดเผยถึง ทิศทางการขับเคลื่อน กฟผ. เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา กฟผ. ก้าวสู่ปีที่ 54 ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ว่า ท่ามกลางวิกฤตพลังงานและทิศทางพลังงานโลกที่มุ่งเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ กฟผ.จึงเร่งเดินหน้าเพิ่มสัดส่วนกา?รผลิตไฟฟ้า?จาก?พลังงาน?หมุนเวียน? ลดการนำเข้าเชื้อเพลิงราคาสูง ทำให้ประชาชนมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ ไฟไม่ตกไม่ดับ แม้ในช่วงวิกฤตพลังงาน

ทั้งนี้มีโครงการหลักคือ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำ?ร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำในเขื่อน หรือโซลาร์?เซลล์ลอยน้ำไฮบริด?  ได้แก่ โครงการนำร่องโซลาร์?เซลล์ลอยน้ำไฮบริด?เขื่อนสิรินธร? จ.อุบลราชธานี ช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กระตุ้น?เศรษฐกิจฐานราก?และส่งเสริมการท่องเที่ยว โดย กฟผ.ตั้งเป้าเร่งดำเนินโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดให้ครบ 2,725 เมกะวัตต์ ตามแผน PDP2018 Rev.1 ภายใน 5-10 ปี

กฟผ.ปรับโหมดรับเทรนด์โลก ลุยไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน

อย่างไรก็ตามในปี 2565 อยู่ระหว่างเดินหน้าโครงการโซลาร์?เซลล์ลอยน้ำไฮบริด?เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น กำลังผลิต 24 เมกะวัตต์ กำหนดจ่ายไฟเชิงพาณิชย์?ในปี 2566 รวมถึงยังมีแผนพัฒนาโครงการโซลาร์?เซลล์ลอยน้ำไฮบริดพร้อมติดตั้งแบตเตอรี่?กักเก็บ?พลังงาน? (BESS) ในโครงการเขื่อนคู่เฉลิมพระเกียรติฉลองพระชนมายุครบ 6 รอบ ในเขื่อนวชิราลงกร?ณและเขื่อนศรีนครินทร์? จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นเขื่อนที่มีศักยภาพทั้งด้านปริมาณน้ำ พื้นที่การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ พื้นที่ติดตั้งแบตเตอรี่?กักเก็บ?พลังงาน (BESS) และระบบส่งไฟฟ้าร่วมกันที่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้มากถึง 1,100 เมกะวัตต์ ช่วยในการบริหารจัดการไฟฟ้า ทำให้ระะบบไฟฟ้ามีความมั่นคง?มากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน กฟผ. ได้พัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าให้มีความทันสมัย (Grid Modernization) เพื่อให้สามารถนำพลังงานหมุนเวียนมาปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของระบบผลิตไฟฟ้าในภาพรวม ซึ่งในปี 2565 ตั้งเป้าขยายผลนำระบบพยากรณ์?การผลิต?ไฟฟ้า?จากพลังงาน?หมุนเวียน?ที่ กฟผ. พัฒนาขึ้นจนมีความแม่นยำและประสิทธิภาพสูงไปติดตั้งภายในศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าตามเขตปฏิบัติการต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวม 11 แห่ง

กฟผ.ปรับโหมดรับเทรนด์โลก ลุยไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน

ส่วนโครงการติดตั้ง BESS ที่สถานีไฟฟ้า?แรง?สูงชัยบาดาล จ.ลพบุรี และการปรับปรุงสถานีไฟฟ้าแรงสูงดิจิทัลนำร่องจำนวน 2 แห่ง คือ สถานีไฟฟ้า?แรง?สูง?กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ? และสถานีไฟฟ้า?แรง?สูง?ตราด จ.ตราด คาดว่าจะจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ภายในปีนี้?เช่นกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุมและส่งจ่ายไฟฟ้าอย่างมีเสถียรภาพและพัฒนาต่อยอดสู่นวัตกรรมโรงไฟฟ้าเสมือนในอนาคต

นอกจากนี้ในยุคสมัยใหม่ที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชนมีความหลากหลายมากขึ้นกฟผ.ยังเร่งขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านพลังงานอย่างครบวงจร (Energy Solutions Provider) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว เช่น  ธุรกิจ EGAT EV Business  ?ขยายสถานี EleX? by? EGAT? ทั้งแบบชาร์จเร็วและชาร์จ?ธรรมดาในพื้นที่ต่าง ๆ จำนวน 49 สถานีทั่วประเทศ โดยภายในปีนี้ตั้งเป้าจะขยายสถานีให้ได้รวมกว่า 120 สถานี

กฟผ.ปรับโหมดรับเทรนด์โลก ลุยไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน

ส่วนธุรกิจจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เร่งจัดหาและนำเข้า LNG? แบบตลาดจร เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า โดยในช่วงวิกฤตพลังงานสามารถแบ่งเบาภาระ?ประชาชน?ประมาณ 500 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าร่วมทุน?โครงการก่อสร้างคลังจัดเก็บและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติเหลวแห่งที่ 2 ที่ ต.หนองแฟบ จ.ระยอง กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)? เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติในประเทศ สนับสนุนความมั่นคงทางพลังงานของประเทศในระยะยาว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนพฤศจิกายน? 2565?

อย่างไรก็ตามกฟผ.ยังเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำภายใต้นโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (EGAT Carbon Neutrality) ผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการปลูกป่าล้านไร่ ภายในระยะเวลา 10 ปี ระหว่างปี 2565 – 2574