posttoday

ซีพีเอ็น ลงทุนกว่า 4 หมื่นล้านบาทใน 2 ปี พัฒนาอสังหาค้าปลีกมิกซ์ยูส เจาะโอกาสทุกทำเล

31 มีนาคม 2565

ซีพีเอ็น ลงทุนต่อเนื่องปีละ 2 หมื่นล้านบาทใน 2ปี ขยายค้าปลีกโปรเจคใหม่/ต่อยอดโครงการเดิมทุกทำเลศักยภาพ ทุ่ม 6.2 พันล. เปิดตัว ‘เซ็นทรัล เวสต์วิลล์’ ราชพฤกษ์ พร้อมปั้นเมืองเศรษฐกิจที่ ‘เซ็นทรัล จันทบุรี’ มิกซ์ยูสที่ใหญ่สุดในภาคตะวันออก รับ EEC

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ค้าปลีกภายใต้แนวคิด “Retail-Led Mixed-Use Development” เพื่อสร้างความเติบโตโดยมีธุรกิจศูนย์การค้าเป็นแกนหลัก เพื่อสร้างการเติบโตต่อเนื่อง โดยเตรียมงบมากกว่า 20,000 ล้านบาทต่อปี สร้าง Center of Life ทุกแห่ง

โดยจะผสานจุดแข็งด้าน Sustainable Ecosystem ที่แข็งแกร่ง พัฒนาย่าน-พัฒนาเมือง ให้กับทุกชุมชน พร้อมเป็นผู้นำแนวคิด Customer-Centric พัฒนามิกซ์ยูสแห่งการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ รวมถึงการเป็น Partner Champions ช่วยเหลือคู่ค้าแบบ End-to-End Solutions เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน พร้อมชูไฮไลท์ พัฒนาโครงการใหม่ ‘เซ็นทรัล เวสต์วิลล์’ ย่านราชพฤกษ์ มูลค่ากว่า 6,200 ล้านบาท คาดเตรียมเปิดไตรมาส4 ปี2566 และ ‘เซ็นทรัล จันทบุรี’ มูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท เตรียมเปิด 26 พ.ค. 65 นี้

สำหรับแผนในอนาคตอันใกล้นี้ เตรียมพัฒนาโครงการระดับโลกและโครงการใหม่เพิ่มเติมอีกปีละ 2-3 โครงการ, โครงการพลิกโฉม Major Renovation กว่า 10 โครงการ พร้อมปรับโฉมโครงการในสาขาต่างๆ ทุกสาขาอย่างต่อเนื่อง

นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและโครงการของบริษัทฯ เผยว่า บริษัท วางแผนเดินหน้าขยายโปรเจ็คใหม่และยกระดับโปรเจ็คที่มีอยู่แล้ว โดยภายใน 2 ปีนี้ วางงบประมาณไว้มากกว่า 20,000 ล้านบาทต่อปี ชูกลยุทธ์ Imagining the future of retail ซึ่งผสานจุดแข็งของเราใน 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ 1. Sustainable Ecosystem ที่แข็งแกร่ง ผ่านการขยายโครงการ, 2. Customer-Centric สร้างคอมมูนิตี้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ลูกค้า, และ 3. Partner Champions การเป็น Business Partner ให้คู่ค้าเติบโตไปด้วยกัน

สำหรับกลยุทธ์ที่ 1: Sustainable Ecosystem การขยายโครงการต่างๆ ในทุกย่าน ทุกเมือง ทุกโลเคชั่นที่เราเข้าไปร่วมกับคู่ค้า, ผู้ประกอบการท้องถิ่น และชุมชนให้ได้มาอยู่ใน Ecosystem ที่ยั่งยืนของเรา โดยเราได้ศึกษาศักยภาพของย่าน ของเมืองนั้นๆ, กำลังซื้อ และไลฟ์สไตล์ของผู้คน ทั้งเพื่อสร้างพื้นที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน รวมไปถึงสร้างความมั่นใจในการขยายธุรกิจให้กับคู่ค้าอีกด้วย

นอกจากนี้ ซีพีเอ็น ยังวางตำแหน่งเป็น Dynamic Place Maker นำเทรนดใหม่ๆ มาพัฒนา Future Space คำนึงถึงการใช้ชีวิตของผู้คนในอนาคต นำโดยแนวคิด Experiential & Customer-Centric Design ผสมผสานพื้นที่สีเขียวและธรรมชาติ, ออกแบบพื้นที่ให้มีสัดส่วน Public Space เพิ่มขึ้น รวมถึงการดึงอัตลักษณ์ท้องถิ่นเข้ามา Integrate กับตัวโครงการ ในด้าน Art & Culture และการ Co-Create ร่วมกับ Local Heroes

ขณะเดียวกันยังเตรียมพลิกโฉมย่านราชพฤกษ์กับโปรเจ็คใหม่ “เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” (Central WestVille) มูลค่ารวมกว่า 6,200 ล้านบาท เจาะทำเลราชพฤกษ์เชื่อมตรงสู่ Bangkok CBD บนที่ดิน 40 ไร่ พื้นที่ GFA 93,000 ตร.ม. เตรียมเปิดให้บริการไตรมาส4 ปี2566 พร้อมปักหมุดย่านใหม่ด้วยการ Reinventing the Neighborhood ซึ่งจะเป็นการยกระดับฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ให้เป็นย่าน Upper-Class Lifestyle

โดยโครงการฯ เจาะกลุ่มเป้าหมายที่อยู่อาศัยในโครงการระดับ High-End และโครงการต่างๆ ในย่าน กว่า 115,000 ยูนิต ซึ่งมีหมู่บ้านระดับ 10-100 ล้านจำนวนมาก, จำนวนประชากร 415,000 คน ที่มีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงย่าน CBD และกำลังซื้อสูงเทียบเท่าย่านอีสต์วิลล์ ด้วยการ Synergy ผนึกกำลังธุรกิจในเครือกลุ่มเซ็นทรัล อาทิ Central Department Store คอนเซ็ปต์ใหม่, Central Foodhall และ B2S ThinkSpace ร่วมโครงการด้วย

นอกจากนี้ยังเตรียมเปิด “เซ็นทรัล จันทบุรี” โครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก มูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท ในวันที่ 26 พ.ค. 65 นี้ รองรับความเจริญต่อเนื่องจากเขตเศรษฐกิจ EEC ในอนาคต ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวเมืองรอง โดยตัวโครงการมีความโดดเด่นด้วยโมเดล Semi-Outdoor ผสมผสานอัตลักษณ์ของจันทบุรี พร้อมจับมือกับท้องถิ่นดึง Local Heroes ร่วมสร้างเสน่ห์ท่องเที่ยวให้โดดเด่น

โครงการฯ เจาะกลุ่มเป้าหมายไลฟ์สไตล์ดีมีกำลังซื้อ ครอบคลุมประชากร 1.8 ล้านคนในจันทบุรีและจังหวัดใกล้เคียง สร้างพื้นที่การใช้ชีวิต New Urban Lifestyle Destination ของเมือง อาทิ พื้นที่สีเขียว 4 ไร่ที่เป็นปอดของเมือง, Family & Pet Friendly Space และ Sport Destination ครบวงจร 4,000 ตร.ม. เป็นต้น

'เซ็นทรัลเวิลด์' ผุด2โซนใหม่ ไอ-ฮักไทย ดูดนักท่องเที่ยว

นายเลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน ซีพีเอ็น กล่าวว่าในช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในการเปิดโครงการ ‘เซ็นทรัล ศรีราชา’ ต้นแบบ Eco-Friendly Mall ในภาคตะวันออก และพื้นที่รีเทลแบบ seamless space และ ‘เซ็นทรัล อยุธยา’ ที่เป็นสปอต์ไลท์ระดับโลก เพื่อเติมเต็มการท่องเที่ยวอยุธยา ทั้งสองโครงการใหม่ได้รับกระแสตอบรับที่ดี มีทราฟฟิกในช่วงเปิดตัวถึง 50,000 คนต่อวัน

พร้อมสร้างสรรค์พื้นที่และประสบการณ์ใหม่ๆ ในโครงการที่มีอยู่แล้ว อาทิ ‘เซ็นทรัลเวิลด์’ เพื่อตอกย้ำความเป็นแลนด์มาร์กระดับโลกรองรับปรากฎการณ์ Global Phenomenon ต่างๆ พร้อมเตรียมเปิดโซนใหม่ คือ ‘Zone I’ (โซน ไอ) รองรับร้านค้า lifestyle brand ทั้ง local & international ต่างๆ และ ‘โซนฮักไทย’ ชูจุดขายการตกแต่งในวิถีไทยร่วมสมัย สินค้าและอาหารไทยขึ้นชื่อ เพื่อดึงดูดทั้งลูกค้าชาวไทย ชาวต่างชาติในไทย และพร้อมรับกลุ่มนักท่องเที่ยว รวมถึงพื้นที่เพื่อชุมชนอย่าง ตลาดจริงใจที่จำหน่ายสินค้าจากเกษตรกรและชุมชนต่างๆ ทั่วไทย

ด้าน ‘เซ็นทรัล วิลเลจ’ ลักชูรี่เอาท์เล็ตแห่งแรกของไทย เปิดตัวเฟสสองมีทราฟฟิกเพิ่มขึ้น 15% (ตัวเลขเฉลี่ยในเดือนมกราคมเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า) และ ‘เซ็นทรัล พระราม 2’ พลิกโฉมเป็น The Regional Mall of South Bangkok เจาะกลุ่มลูกค้าไลฟ์สไตล์ใหม่ Wealth Segment และมีทราฟฟิกเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนรีโนเวท”

นอกจากนี้ยังมีโครงการพลิกโฉมศูนย์การค้าต่างๆ อีกกว่า 10 โครงการ อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัล พระราม 2, รามอินทรา, พัทยาบีช, แจ้งวัฒนะ, เวสต์เกต, เชียงใหม่ แอร์พอร์ต, และ ขอนแก่น เป็นต้น

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด ซีพีเอ็น กล่าวว่ากลยุทธ์ที่ 2: Customer-Centric เพื่อผลักดันให้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเป็น Center of Life ตอบโจทย์ลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ เป็น Experience Curator คัดสรรอีเวนต์กว่า 1,000 งานต่อปี และการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ในศูนย์การค้า

นายอิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขาย ซีพีเอ็น กล่าวว่าสำหรับกลยุทธ์ที่ 3: Partner Champions วางแนวคิดการเป็น Business Partner เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจของคู่ค้า พร้อมช่วยเหลืออย่างครบวงจรแบบ End-to-End Solutions ได้แก่ การช่วยเหลือการเติบโตและขยายสาขาด้วยโมเดล Co-investment, Funding, และ Franchise การช่วยเหลือด้าน Business Operation ต่างๆ