สลิงชอท กรุ๊ป ปรับโครงสร้างใหญ่แตก 3 ธุรกิจรับเทรนด์องค์กร-คนทำงานยุคใหม่
สลิงชอท แผน 3 ปี เป้าผลงานโต 3 เท่า หนุนคนไทยร่วม อีโคซิสเต็ม ลีดเดอร์ชิป 1 ล้านคน ขยายตลาดเชิงรุกเจาะลูกค้าตั้งแต่ระดับองค์กรลงลึกถึงคนทำงาน
ดร. สุทธิโสพรรณ ช่วยวงศ์ญาติ หุ้นส่วนและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มสลิงชอท เปิดเผยว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) สลิงชอท กรุ๊ป ได้มีมีมติเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เห็นชอบให้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่เป็น 3 ธุรกิจ ภายใต้บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป ตามแผนงาน 3 ปี (2565-2567) เพื่อผลักดันการเติบโตของผลการดำเนินงานได้เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า โดยมีคนไทยอยู่ใน Ecosystem Leadership หนึ่งล้านคน ทั้งนี้ 3 ธุรกิจดังกล่าว ได้แก่
1. บริษัท จูปิเตอร์ (Jupiter) ซึ่งจะมาดูแลบริการในภาพใหญ่ทั้งโครงสร้าง ระบบบริหารจัดการ และกระบวนการทำงานให้กับองค์กร ภายใต้การนำของ นายพฤทธ์ อึงคนึงเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จูปิเตอร์
2. บริษัท สลิงชอท ลีดเดอร์ชิพ (Slingshot Leadership) ซึ่งเป็นธุรกิจในปัจจุบัน จะดูแลการพัฒนากลุ่มผู้นำองค์กร ภายใต้การนำของนางมัณฑนา รักษาชัด หุ้นส่วนและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สลิงชอท ลีดเดอร์ชิพ
3. บริษัท วีวัน (V-One) ซึ่งดูแลบริการในกลุ่มคนทำงาน ภายใต้การนำของ นายสุกฤษฎิ์ ปัญจพันธ์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีวัน
นอกจากนี้ ยังลงทุนกว่า 30 ล้านบาท ตั้งทีมวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อสร้างหลักสูตรและสภาพแวดล้อมที่เร็วทันต่อการตอบโจทย์ Ecosystem Leadership แบบที่ออกแบบพิเศษให้ตอบโจทย์เฉพาะสำหรับคนไทย
ดร.สุทธิโสพรรณ กล่าวว่าผลดำเนินงานสลิงชอท กรุ๊ป ในปี2564 มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 33% จากปี 2563 ท่ามกลางมาตรการล็อกดาวน์ จากแผนดังกล่าวที่วางไว้ บริษัทวางเป้าหมาย การเติบโต3 เท่าตัว เช่นกัน
นางมัณฑนา รักษาชัด หุ้นส่วนและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สลิงชอท ลีดเดอร์ชีพ กล่าวว่าจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 หลายส่วนอาจมองว่าเป็นช่วงที่ต้องเก็บตัว ในทางตรงข้าม ธุรกิจด้านการพัฒนาผู้นำองค์กรกลับเติบโต จึงใช้โอกาสนี้เร่งพัฒนาทักษะผู้นำ ในช่วงเวลาเพียง 2 เดือนที่ผ่านมา มีผู้นำองค์กรกว่า 100 คน ที่เข้าสู่กระบวนการพัฒนาทักษะอย่างจริงจัง
นายพฤทธ์ อึงคนึงเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จูปิเตอร์ กล่าวว่า “ผลจากการสำรวจเกี่ยวกับสิ่งที่ธุรกิจจะดำเนินการในอนาคตข้างหน้าจากผู้บริหารในรายงานของต่างประเทศ สอดคล้องกับผลสำรวจผู้บริหารคนไทยหลายท่าน โดยพบว่า ผู้บริหาร 45% หวังว่าปี 2565 นี้ธุรกิจจะเติบโตดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว และมองว่าธุรกิจต้องมีการปรับตัว (Transformation) และปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจในหลายด้านมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ที่เน้นเรื่องการลดค่าใช้จ่าย และลดต้นทุนเป็นหลัก