posttoday

น้ำมันแพงดันเงินเฟ้อพุ่ง 5.28% สูงสุดในรอบ 13 ปี

04 มีนาคม 2565

สนค.ชี้เงินเฟ้อเดือนก.พ.สูงขึ้น 5.28% จากราคาน้ำมัน-อาหารแพงขึ้น แนวโน้มยังเพิ่มต่อ พร้อมเกาะติดรัสเซีย-ยูเครน ต้นเหตุทำต้นทุนพลังงานสูง ก่อนทบทวนเงินเฟ้อใหม่หลังเดือนมี.ค.

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (อธิบดี สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย เดือนกุมภาพันธ์ 2565 เท่ากับ 104.10 (ปี 2562 = 100) เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน หรือ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป สูงขึ้นร้อยละ 5.28 (YoY) สาเหตุหลักยังคงมาจากสินค้าในกลุ่มพลังงาน รวมถึงสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ที่ปรับสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิตและราคาวัตถุดิบ

นอกจากนี้ ฐานราคาในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ต่ำสุดในรอบปี 2564 ซึ่งส่งผลให้การคำนวณอัตราเงินเฟ้อในเดือนนี้สูงขึ้นด้วย สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก) สูงขึ้นร้อยละ 1.80 (YoY) จากร้อยละ 0.52 ในเดือนก่อนหน้า

อย่างไรก็ตามอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนนี้ ที่สูงขึ้นร้อยละ 5.28 (YoY) มีสาเหตุจากสินค้าในกลุ่มพลังงาน ที่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเงินเฟ้อ โดยราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2564 สูงขึ้นร้อยละ 29.22 จากร้อยละ 19.22 โดยเฉพาะราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และค่ากระแสไฟฟ้า ปรับสูงขึ้นค่อนข้างมาก

รวมถึงราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2564 สูงขึ้นร้อยละ 4.51 จากร้อยละ 2.39 ในเดือนก่อนหน้า อาทิ เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ผักสด อาหารบริโภคในบ้านและนอกบ้าน และเครื่องประกอบอาหาร ซึ่งปรับสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิตและราคาวัตถุดิบที่แพงขึ้น นอกจากนี้ จากการที่อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นร้อยละ 5.28 (YoY) ยังมีสาเหตุจากฐานราคาในเดือนเดียวกันของปีก่อนต่ำสุดในรอบปี 2564

“เงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์ เป็นอัตราสูงสุดในรอบ 13 ปี และมีทิศทางที่จะสูงขึ้นได้อีก 4-5% หากราคาน้ำมันยังสูงต่อเนื่อง และสูงเฉลี่ยเกิน 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากน้ำมันเป็นสัดส่วน 62.26% ในการคำนวณสูตรเงินเฟ้อ ประกอบกับภาวะราคาสินค้าที่เอกชนส่งสัญญาณจะปรับขึ้น  นอกจากนี้ยังต้องติดตามเหตุการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนจะยืดเยื้อและส่งผลต่อราคาพลังงานและวัตถุดิบโลกแค่ไหน เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยและรัฐบาลก็ติดตามเพื่อใช้มาตรการต่างๆ

สำหรับดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนกุมภาพันธ์ 2565 สูงขึ้นร้อยละ 9.4 (YoY) จากร้อยละ 8.7 ในเดือนก่อนหน้าจากต้นทุนการผลิตและราคาวัตถุดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาในตลาดโลก โดยเฉพาะราคาสินค้าในกลุ่มปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ประกอบกับฐานราคาปี 2564 ค่อนข้างต่ำ ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้ผลิตสูงขึ้น

ขณะที่ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง สูงขึ้นร้อยละ 6.7 (YoY) จากร้อยละ 6.1 ในเดือนก่อนหน้า ตามต้นทุนการผลิตและวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะเหล็ก อลูมิเนียม และน้ำมัน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 44.6

นายรณรงค์  กล่าวว่า  แม้เงินเฟ้อในเดือนนี้จะปรับตัวสูงขึ้นค่อนข้างมาก แต่ยังมีเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจอื่นที่ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจของไทยปรับตัวดีขึ้น (ข้อมูลล่าสุด ณ เดือนมกราคม 2565) ด้านอุปสงค์ ได้แก่ ยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ รายได้เกษตรกร ยอดการจัดเก็บภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวสูงขึ้น

ด้านอุปทาน ได้แก่ กำลังการผลิต และดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งเครื่องชี้วัดเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจของไทยกำลังขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดี ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้และเพิ่มกำลังซื้อให้กับภาคธุรกิจและประชาชนได้ในภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน

ทั้งนี้แนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไป เดือนมีนาคม 2565 ยังคงอยู่ในระดับสูงตามราคาพลังงานที่ยังสูง (น้ำมันเชื้อเพลิง ค่ากระแสไฟฟ้า) เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับสูงขึ้นได้เช่นกัน รวมทั้งสินค้าในกลุ่มอาหารสำเร็จรูป และเครื่องประกอบอาหารเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับฐานราคาในช่วงต้นปี 2564 ค่อนข้างต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มสูงขึ้นได้อีกทาง

อย่างไรก็ตาม สินค้าที่เริ่มปรับตัวลดลง อาทิ กลุ่มอาหารสด โดยเฉพาะเนื้อสุกร ผักสด ผลไม้ รวมทั้งมาตรการภาครัฐในรูปแบบต่าง ๆ ที่คาดว่าจะมีอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน จะส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยกระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในปี 2565 ยังคงมีความเสี่ยงและเคลื่อนไหวในช่วงกว้าง ซึ่งจะประเมินสถานการณ์และปรับตัวเลขคาดการณ์ให้เหมาะสมจากเดิมที่กำหนดเงินเฟ้อปีนี้ไว้ 0.7-2.4 % ค่ากลางที่ 1.5% โดยต้องดูสถานการณ์ใน 3-4 เดือนแรกของปีก่อน จึงจะสามารถทบทวนตัวเลขคาดการณ์หลังเดือนมีนาคมนี้ได้