ยอดค้าชายแดนปี’64 พุ่ง 1.7 ล้านล้าน สวนทางวิกฤตโควิด ตั้งเป้าปีนี้โต 7%
‘จุรินทร์’ เดินหน้าเพิ่มมูลค่าค้าชายแดน รับปัจจัยบวกศก.เพื่อนบ้านขยายตัว เล็งใช้รถไฟไทย-จีนเพิ่มส่งออกผ่านเวียงจันทน์ พร้อมเกาะติดโอมิครอน-การเมืองเมียนมา
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน มีมูลค่ารวมการค้า 1,715,345 ล้านบาท ขยายตัว30.03% เฉพาะการส่งออก ขยายตัว 34.6% คิดเป็นมูลค่า 1,031,330 ล้านบาท
ทั้งนี้การส่งออกผ่านการค้าชายแดนและผ่านแดนแยกเป็นรายประเทศ มีการขยายตัวทุกตลาด ได้แก่ 1.สปป.ลาว ขยายตัว 39.31% คิดเป็นมูลค่า 417,731 ล้านบาท 2.มาเลเซีย 42.6% คิดเป็นมูลค่า 346,603 ล้านบาท 3. เมียนมา ขยายตัว109.24% คิดเป็นมูลค่า 122,086 ล้านบาท 4.กัมพูชา ขยายตัว 16.63% คิดเป็นมูลค่า 144,910 ล้านบาท 5.จีน ขยายตัว 59.71% คิดเป็นมูลค่า 194,820 ล้านบาท 6.สิงคโปร์ ขยายตัว51.49% คิดเป็นมูลค่า 53,853 ล้านบาท 7.เวียดนาม ขยายตัว 5.03% คิดเป็นมูลค่า 46,308 ล้านบาท
สำหรับปี2565 ตั้งเป้าหมายการส่งออกผ่านการค้าชายแดนและผ่านแดน ขยายตัว 5-7% โดยจะมีมูลค่าการส่งออก 1.08-1.10 ล้านล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ 1.เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง 2.ค่าเงินบาทยังอ่อนค่า เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2564 มีส่วนช่วยในการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในประเทศคู่ค้าของเราได้ 3.ไทยสามารถใช้ประโยชน์จากเส้นทางให้บริการรถไฟ ลาว-จีน ได้โดยสะดวก ซึ่งจะช่วยให้การส่งออกสินค้าไทยจากเวียงจันทน์ไปจีนทำได้สะดวกมีผลกับตัวเลขการส่งออกที่คาดว่าจะดีขึ้น
4.การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนที่จะเดินหน้าต่อไปอย่างเข้มข้น ในรูป กรอ.พาณิชย์ หรือวอรูมการส่งออกยังเดินหน้าต่อไป 5. เร่งรัดการเปิดด่านชายแดนเพิ่มซึ่งปัจจุบันมี 97 ด่านเปิดแล้ว 48 ด้าน และมีเป้าหมายเปิดปีนี้อีก 12 ด่าน
อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยง 2 ประเด็นใหญ่ที่ต้องติดตาม คือ สถานการณ์โควิดโอมิครอน ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน จะมีผลต่อการเปิดปิดด่านและการจราจรส่งออกสินค้าผ่านแดนข้ามแดนเพราะอาจมีความเข้มงวดในการตรวจโรคมากขึ้น
นอกจากนี้สถานการณ์การเมืองเศรษฐกิจในเมียนมาอาจมีผลกระทบต่อตัวเลขการส่งออกสินค้าชายแดนไทยไปเมียนมาได้ โดยเฉพาะนโยบายการลดการใช้เงินตราต่างประเทศของเมียนมา เพื่อควบคุมการนำเข้าเพื่อลดปัญหาการขาดดุลการชำระเงินของเมียนมา