อัลไลแอนซ์ฯ เผยธุรกิจสะดวกซักปีนี้แตะหมื่นล้านบาท เผยโมเดลแห่งอนาคตเป็นพื้นที่บันเทิงครบวงจร
อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ บุกหนักตลาดเครื่องซักผ้าอบผ้าอุตสาหกรรมปี’ 65 ยังเติบโตแตะหมื่นล้านบาท ขยายไม่ต่ำ3.5 พันช็อป วางเป้ายอดขาย 1,000 ล้านบาท รักษามาร์เก็ตแชร์เบอร์1 ในไทย รับคนห่วงอนามัย ใช้บริการพุ่งช่วงโควิด
นายสุกรี กีไร ผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโสประจำภูมิภาคอินโดไชน่า บริษัท อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ ซิสเต็มส์ แอลแอลซี (Alliance Laundry Systems LLC) ผู้ให้บริการผลิตและจำหน่ายเครื่องซักผ้าอบผ้าอุตสาหกรรมที่รายใหญ่ในโลก เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดรวมธุรกิจร้านสะดวกซักของไทยในปี 2565 คาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 อยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านบาท และคาดว่าในอีก 6 - 7 ปีข้างหน้าไทยจะมีร้านสะดวกซักรวมกว่า 9,000 สาขา
"ภาพรวมของธุรกิจร้านสะดวกซักในปัจจุบันยังมีโอกาสเติบโตได้อีกยาว และตอนนี้ถือว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโต ซึ่งคนที่เข้ามาลงทุนก่อนก็จะได้เปรียบในแง่ของโลเคชันและการแข่งขัน" นายสุกรี กล่าว
ขณะที่ ร้านสะดวกซักจะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างก้าวกระโดด คาดปีนี้จะมีร้านสะดวกซักถึง 3,500 ช็อป จากเดิมปี 2564 ที่มีเพียง 2,400 ช็อป โดยปัจจัยการเติบโตมาจาก ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่หันมาใช้บริการร้านสะดวกซักมากขึ้น ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ผู้คนหันมาดูแลสุขภาพและใส่ใจในเรื่องความสะอาด โดยนำเสื้อผ้ามาซักและอบเพื่อฆ่าเชื้อโรคที่ร้านสะดวกซักเป็นจำนวนมาก ซึ่งพฤติกรรมของผู้บริโภครูปแบบนี้จะยังคงมีอยู่ต่อไปแม้สถานการณ์โควิด-19 จะจบลง
นายสุกรี กล่าวว่า บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องซักผ้าอบผ้าอุตสาหกรรมที่อยู่ในธุรกิจนี้มาถึง 114 ปี และเข้ามาในไทยเมื่อปี 2560 มีร้านที่ซื้อผลิตภัณฑ์ อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ จำนวน 6 ช็อป ซึ่งหลังจากทำตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้การตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าทั่วประเทศ โดยปี 2564 มีร้านสะดวกซักที่ใช้สินค้าบริษัทฯ 1,565 ช็อป และคาดว่าปี 2565 จะเพิ่มจำนวนขึ้นอีก 1,000 ช็อป
โดยบริษัทขยายธุรกิจในไทย ด้วยกลยุทธ์การตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ อาทิ การจัดงาน “Alliance Wealth Investment” อย่างต่อเนื่อง โดยเปิดให้ตัวแทนจำหน่ายได้รับฟังเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ และการเติบโตของธุรกิจ พร้อมข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้สนใจลงทุนเปิดร้านสะดวกซัก ผลักดันให้บริษัทฯ ต่อยอดสู่กิจกรรมการตลาดไปยังต่างจังหวัด เพื่อเข้าถึงลูกค้ารายใหม่ๆ มากขึ้น
โดย ปีนี้บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจสู่ประเทศต่างๆ ในอินโดไชน่า ซึ่งมีจำนวนประชากรรวมกว่า 250 ล้านคน จากก่อนหน้าได้จำหน่ายสินค้าให้กับกลุ่มโรงพยาบาล, โรงแรมและโรงงานซักผ้ามาแล้ว และเตรียมขยายไปยังธุรกิจร้านสะดวกซักโดยเฉพาะ ในประเทศเวียดนาม สปป.ลาว, กัมพูชาและเมียนมา
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมทำตลาดเครื่องอบผ้ารุ่น Tempest ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีเป็นระบบรวมอินเวอร์เตอร์ (Inverter) พร้อมอยู่ระหว่างระหว่างการพัฒนาและทดสอบสินค้ารุ่นใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง โดยบริษัทฯ เตรียมขยาย Service Center ไปตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อเสริมจุดแข็งด้านการบริการในการดูแลลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
“ร้านสะดวกซักจะค่อยๆ ปรับรูปแบบไปจากที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน จะเน้นมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า ทั้ง Contactless Payment หรือการชำระเงินแบบไร้สัมผัสรูปแบบต่างๆ การจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต การเติมเงินผ่าน Speed Queen Central Payment และ Mobile Banking เป็นต้น" นายสุกรี กล่าว
ขณะที่ในร้านก็อาจมีสิ่งอำนวยความสะดวกระหว่างการใช้บริการ เช่น ทีวี, Wi-Fi และปลั๊กไฟให้ลูกค้าได้เชื่อมต่ออุปกรณ์เพื่อความบันเทิง รวมถึงอาจมีพื้นที่เด็กเล่นรองรับกลุ่มครอบครัว ขณะเดียวกัน ร้านสะดวกซักอาจขยายบริการอื่นเพิ่มเติม อย่างการซักอบเสื้อผ้าแบบครบวงจรผ่านระบบออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น ซึ่งเป็นภาพที่จะเห็นในอนาคตอันใกล้
ซึ่งจากการเติบโตของธุรกิจร้านสะดวกซักนั้น อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ เป็นบริษัทที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดถึง 70% และคาดว่าจะเติบโตเป็น 80% ในอีก 3 ปีข้างหน้า พร้อมตั้งเป้ายอดขายของปี 2565 อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท