posttoday

‘บิ๊กตู่’ เคาะงบกลาง 1.48 พันลบ. แก้ของแพง ตั้งจุดขายสินค้าถูกให้ประชาชน 3 เดือน

18 มกราคม 2565

'บิ๊กตู่’สั่งพาณิชย์เปิดร้านธงฟ้าขายสินค้าราคาถูกเพิ่มทางเลือกให้ประชาชน ขณะที่ครม.ไฟเขียวงบ 1.48 พันล้านบาท เลือก 3,000 จุดเปิดพื้นที่ขายสินค้าราคาถูก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเรื่องราคาสินค้าแพงอย่างใกล้ชิด และให้เปิดร้านธงฟ้า เพื่อเปิดจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวัน ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้กับเพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในการซื้อสินค้าราคาประหยัด ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น

ทั้งนี้ขอให้กระทรวงพาณิชย์รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาให้กับครม.รับทราบเป็นประจำทุกสัปดาห์ด้วย เพราะนายกฯเป็นห่วงและกังวลว่าประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนจากราคาสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น

อย่างไรก็ตามที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบอนุมัติ เงินงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินรวมทั้งสิ้น 1,480 ล้านบาท  เพื่อดำเนินโครงการพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 เพิ่มช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพในราคาประหยัดให้แก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึง รวมทั้งเพื่อให้เกิดการ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและการบริโภค ซึ่งจะก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 

สำหรับรูปแบบของโครงการฯ เป็นการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพให้แก่ประชาชนในราคาประหยัด ระยะเวลาดำเนินการ 90 วัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้   1.กิจกรรมบริหารจัดการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางจำหน่าย โดยจัดหา สถานที่จำหน่ายและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเพื่อจำหน่ายสินค้าที่ จำเป็นต่อการครองชีพ ผ่านช่องทาง อาทิ การจำหน่ายผ่านบริเวณร้านสะดวกซื้อ ห้างท้องถิ่น หรือตลาด พื้นที่สาธารณะหรือลานอเนกประสงค์และสถานีบริการน้ำมัน รวมจำนวนไม่น้อยกว่า 3,000 จุด ตามแหล่งชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและภูมิภาค 76 จังหวัด  และ การจำหน่ายผ่านรถ Mobile จำนวนไม่น้อยกว่า 50 คัน ตามแหล่ง ชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  

2. กิจกรรมการส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ เพื่อ จัดหาและจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพตามชนิด ปริมาณและราคาตามที่กรมฯ กำหนด เช่น สินค้าเกษตร เนื้อไก่ ไข่ไก่ สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น จากสมาคม/ผู้ค้าปลีก/ค้าส่ง/Supplier ในพื้นที่ เพื่อจำหน่ายในจุดจำหน่าย  และ3. กิจกรรมการประชาสัมพันธ์เพื่อดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนได้รับทราบในวงกว้างผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้งจัดกิจกรรมรณรงค์กระตุ้นการบริโภค