posttoday

‘อมตะ’ทุ่ม 3.3 หมื่นล้าน ผุดสมารท์ แอนด์ อีโค ซิตี้ ในสปป.ลาว ดึงต่างชาติลงทุนตั้งฐานการผลิต

13 มกราคม 2565

‘อมตะ’ ปักหมุดลงทุน สร้างเมืองทันสมัย อมตะ สมารท์ แอนด์ อีโค ซิตี้ ในสปป.ลาว เดินหน้าหาพันธมิตรไทย-ต่างชาติ มั่นใจดันจีดีพีโต 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อมตะได้รับการอนุมัติสัมปทานการพัฒนาที่ดินจำนวน 410 เฮกตาร์ (2,562.5 ไร่) จากรัฐบาล สปป.ลาว โดยได้เซ็นสัญญาร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย  โดยการลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของอมตะกับการเปิดโครงการพัฒนาพื้นที่ครั้งแรกในสปป.ลาว เพื่อพัฒนาโครงการอมตะ สมารท์ แอนด์ อีโค ซิตี้ ที่นาเตย ในระยะแรกบนพื้นตามเป้าหมายการลงทุนทั้งหมดใน สปป.ลาว 200 ตารางกิโลเมตร(ตร.ม.) โดยวางงบประมาณสำหรับการพัฒนาไว้จำนวน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท อมตะซิตี้ ลาว จำกัด ( Amata City Lao Sole Company Limited ) ซึ่งอมตะถือหุ้น 100%

ทั้งนี้จะเริ่มดำเนินการพัฒนาภายในปี 2565 เน้นพัฒนาการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยนโยบายการปล่อยของเสียเป็นศูนย์ ( Zero Waste Discharge ) ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับ สปป.ลาว และคาดว่าจะสามารถเปิดรับนักลงทุนได้ภายในปี 2565

‘อมตะ’ทุ่ม 3.3 หมื่นล้าน ผุดสมารท์ แอนด์ อีโค ซิตี้ ในสปป.ลาว ดึงต่างชาติลงทุนตั้งฐานการผลิต

“ขอยืนยันว่าอมตะจะเดินหน้าพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมที่สะอาด มีความทันสมัยและปลอดภัยที่สุดใน สปป.ลาว จากศักยภาพของอมตะที่ปัจจุบันมีโรงงานที่อยู่ในนิคมฯ ของประเทศไทย และเวียดนาม ประมาณ 1,400 โรงงาน มีจำนวนประชากรกว่า 3แสน คน คิดเป็นจีดีพี มูลค่า 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีเป้าหมายที่จะเชิญชวนโรงงานที่มีอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งไทยและเวียดนาม เข้ามาลงทุนในอมตะ สมารท์ แอนด์ อีโค ซิตี้ แห่งนี้   เพื่อร่วมสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจและความยั่งยืนในระยะยาว โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ คลังสินค้า โลจิสติกส์ เครื่องจักร การขนส่ง ผลิตภัณฑ์ยาง พลาสติก การแปรรูปอาหารและเครื่องดื่ม เคมีภัณฑ์ ยา (FMCG) เป็นต้น” นายวิกรม กล่าว

การพัฒนาเมืองสมาร์ทซิตี้ ( Smart City )จะนำไปสู่การเป็นเมืองคาร์บอนต่ำ( Low Carbon ) ในระยะยาวที่เป็นเทรนด์ของโลกโดยมีอุตสาหกรรมเป้าหมายในการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สอดรับกับนโยบายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ( Smart City )ของอมตะและการให้ความสำคัญกับประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับทุกภาคส่วนและทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่เป็นไปตามหลักการ ออล์วิน(All Win) โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจโครงการนี้จะช่วยสร้าง GDP ของสปป. ลาวได้เพิ่มขึ้นคิดเป็นมูลค่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตามเพื่อให้โครงการดังกล่าวเป็นที่รู้จักและเกิดการขยายลงทุนในอนาคตอมตะได้วางแผนเชิญชวนบริษัทระดับโลกต่าง ๆ รวมถึงภาครัฐจากประเทศญี่ปุ่น ไทย และจีน เพื่อการเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาโครงการอมตะ สมารท์ แอนด์ อีโค ซิตี้ ( AMATA SMART & ECO CITY )  โดยผ่านความร่วมมือกับเมืองอุตสาหกรรมโยโกฮาม่า และเจโทร เพื่อประชาสัมพันธ์ โครงการและเชิญชวนนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น ให้เข้ามาใน สปป ลาว และโครงการอมตะ ใน สปป. ลาว อีกด้วย